กลิ่นตัวช่วงหน้าร้อน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใดค่ะ เพราะในช่วงนี้ อากาศจะร้อนอบอ้าวมากผิดปกติ แต่คนที่มีเหงื่อออกเยอะและมีกลิ่นตัวอยู่เเล้ว อาจจะเริ่มรู้สึกถึงลางร้ายที่กำลังมาเยือน ส่วนใหญ่แล้ว กลิ่นตัวมีสาเหตุมาจากการรวมตัวกันของเหงื่อและแบคทีเรีย แต่จะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล รวมทั้งภาวะต่างๆ เช่น กิจกรรม การงาน อารมณ์ และสภาพอากาศในแต่ละวันด้วย

 

กลิ่นตัวช่วงหน้าร้อน
ภาพจาก : linkedin.com

 

กลิ่นตัวช่วงหน้าร้อน ที่เราสามารถมีกันได้ทุกคนนั้น อาหารก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทําให้เกิดกลิ่นได้เช่นกัน โปรตีนและไขมันที่ออกมาจากอาหารและเครื่องเทศบางชนิด เช่น เครื่องแกงกะหรี่ และกระเทียมนั้น จะมีกลิ่นปะปนอยู่ในเหงื่อ หรือของเสียที่ร่างกายขับออกมาหลายชั่วโมงหลังจากทาน เราลองมาดูกันค่ะว่า กลิ่นตัวแรงๆ ที่เรามีนั้น จะป้องกันและดูแลตัวเองได้อย่างไรบ้าง

 

กลิ่นตัวช่วงหน้าร้อน เราสามารถป้องกันได้อย่างไรบ้าง ?

วิธีป้องกันกลิ่นตัวขั้นพื้นฐานที่สุด คือการทําความสะอาดร่างกายด้วยสบู่และน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณที่น่าจะก่อให้เกิดกลิ่น เช่น ใต้รักแร้ และขาหนีบ ควรใช้สบู่ที่มีตัวยาดับกลิ่นฟอกหลาย ๆ ครั้ง เพื่อชะลอการกลับคืนมา และขัดขวางการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งจะสามารถหยุดปัญหากลิ่นตัวได้ชั่วคราว จากนั้น ใช้ยาดับกลิ่นตัวที่ผสมในน้ำยาดับกลิ่น โรลออน โคโลญจน์ หรือน้ำหอมกลิ่นอ่อนๆ ดับกลิ่นช่วย

 

กลิ่นตัวช่วงหน้าร้อน

 

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีบางคนที่อาบน้ำจนตัวเหี่ยว แต่ก็ยังคงมีกลิ่นอยู่ดี ลองสํารวจเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายดูว่า เป็นเพราะเสื้อผ้าหรือเปล่าที่มีกลิ่น ยิ่งหากเป็นวันที่มีอากาศร้อนจัด และมีเหงื่อออกมากเป็นพิเศษด้วยแล้ว เสื้อผ้าที่สวมใส่อาจดูดซับเหงื่อไว้ จนทําให้เกิดกลิ่นได้ ในหน้าร้อน จึงควรสวมใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าเป็นใยฝ้าย เพราะผ้าฝ้ายจะทําให้เหงื่อระเหยไปจากเนื้อผ้า ได้ดีกว่าผ้าที่ผลิตขึ้นจากใยสังเคราะห์ แต่หากกลิ่นจากเสื้อผ้ายังคงอยู่ ก็ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าไปเลยจะดีกว่า

อาหารการกินก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกันค่ะ บางคนที่ชอบทานอาหารกลิ่นแรงๆ ที่มีเครื่องเทศเยอะๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่อาจทำให้เหงื่อที่ออกมาจากร่างกายค่อนข้างมีกลิ่น แนะนำว่าให้ทานแบบต้ม หรือลดการทานของที่มีกลิ่นให้น้อยลงค่ะ

ส่วนผู้ที่มีกลิ่นตัว ซึ่งไม่สามารถกําจัดได้จริงๆ ลองใช้ยายับยั้งการขับเหงื่อ หรือยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์ฆ่า และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย โดยตัวยาปฏิชีวนะจะทํางานได้ผลเช่นเดียวกับยากําจัดกลิ่นตัวทั่วไป เพียงแต่ไม่มีน้ำหอมที่ทําให้ผิวหนังระคายเคืองเท่านั้นเองค่ะ  (สามารถสอบถามเภสัชกรได้เลย)

เนื้อหาโดย Dodeden.com

 

เรื่องน่าสนใจ