ในยุคสมัยนี้คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาดูแลสุขภาพ ลดน้ำหนักด้วยการ หลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท เลือกทานอาหารที่สามารถควบคุมน้ำหนักและมีประโยชน์ แต่มีอาหารบางจำพวกที่อาจคุณอาจมองข้ามไป โดยไม่รู้ตัว เพราะใช่ว่าอาหารทุกชนิดที่แปะป้ายว่าเป็น “อาหารเพื่อสุขภาพ” หรืออาหารไขมันต่ำ จะให้คุณประโยชน์ตามที่อวดอ้างเสมอไป เราลองมาดูรายการอาหารที่คุณควรหลีกเลี่ยงขณะที่กำลังลดน้ำหนักกันดีกว่า
1.นมสด
นมสดนั้นเต็มไปด้วยไขมันส่วนเกินและคลอเรสเตอรอล สลับไปรับประทานอาหารอย่างอื่นที่หลากหลายบ้าง จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องแคลอรีที่มากเกินไปหากคุณเกิดต้องการจะดื่มนมขึ้นมา
2.ซอสถั่วเหลือง
แม้ว่าซอสถั่วเหลืองจะมีปริมาณแคลอรีที่ต่ำ แต่ปริมาณโซเดียมที่สูงมากนั้นอาจทำให้คุณอ้วนขึ้นอย่างไม่รู้ตัว รวมถึงเพิ่มอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคความดันโลหิตสูง จริงอยู่ที่ในปัจจุบันมีการวางขายซอสถั่วเหลืองแบบโซเดียมต่ำเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภค แต่ก็มีโซเดียมน้อยกว่าซอสถั่วเหลืองปกติเพียงนิดเดียวเท่านั้น ดังนั้น บริโภคเท่าที่จำเป็นจะดีกว่า
3.ขนมปังธัญพืช
เหล่าเมล็ดพันธุ์ธัญญาหารบนขนมปังนั้นช่างดูมีประโยชน์ต่อสุขภาพและน่ารับประทานเสียเหลือเกิน แต่อันที่จริงแล้วนั้น วัตถุดิบที่นำมาทำขนมปังต่างหากที่สำคัญกว่า ขนมปังจากธัญพืชไม่ได้หมายความว่าทำจากเมล็ดธัญพืช 100 เปอร์เซนท์เสมอไป ดังนั้นจึงควรตรวจสอบฉลากให้ดีก่อนเสมอ
4.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แม้แต่นักดื่มไวน์ทั่วไปก็บริโภคปริมาณแคลอรีมากถึง 2000 กิโลแคลอรีทุกเดือน สปาร์กลิงไวน์เพียงแก้วเดียวอาจดูไร้พิษภัย แต่ฤทธิ์ของมันอาจสะสมและเป็นอุปสรรคต่อการลดน้ำหนักของคุณ โรเบิร์ต ซี แอทคินส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมอาหารกล่าวว่าแอลกอฮอล์เป็นสิ่งแรกที่ร่างกายของคุณจะเผาผลาญก่อนที่จะขยับไปส่วนอื่นต่อไป ดังนั้น จนกว่าร่างกายของคุณจะเผาผลาญและกำจัดแอลกอฮอล์ออกไปได้หมด คุณจะไม่ได้เผาผลาญไขมันออกไปเลย
5.ซีเรียลที่บรรจุขายในกล่องใหญ่
งานวิจัยจากห้องทดลองด้านอาหารและเครื่องหมายการค้าของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ชี้ให้เห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่บริโภคอาหารมากขึ้นถึง 22 เปอร์เซนท์ เมื่อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวบรรจุขายในขนาดที่ใหญ่กว่าปกติ บรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่อาจช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าสตางค์ของคุณ แต่ไม่ส่งผลดีกับสุขภาพแน่นอน
6.ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำตาล
แม้จะมีปริมาณแคลอรีที่ต่ำ แต่การบริโภคผลิตภัณฑ์ปลอดน้ำตาลมาก ๆ อาจเพิ่มระดับอินซูลินในร่างกายของคุณ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักมีส่วนผสมของสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
7.ผลไม้โซนร้อน
การรับประทานผลไม้เป็นอาหารว่างนั้นเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีในการควบคุมอาหาร แต่อาจมีผลไม้บางประเภทที่คุณควรหลีกเลี่ยงหากต้องการจะลดน้ำหนัก เช่นมะม่วงหรือสับปะรดสุกที่มีปริมาณน้ำตาลตามธรรมชาติสูง
8.ข้าวโพดคั่วจากไมโครเวฟ
สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (อีพีเอ) ได้ให้ข้อมูลว่าสารเคมีที่พบภายในบรรจุภัณฑ์ของข้าวโพดคั่วอบในไมโครเวฟนั้น เพิ่มอัตราความเสี่ยงของการเป็นหมันและปัญหาเกี่ยวกับต่อมธัยรอยด์ ข้าวโพดคั่วจัดเป็นอาหารว่างที่ดี เพราะมีปริมาณแคลอรีต่ำ แต่ต้องไม่ใช่ประเภทที่บรรจุมาในห่อที่เต็มไปด้วยสารเติมแต่ง
9.น้ำผลไม้
น้ำผลไม้ที่เทออกมาจากกล่องอาจฟังดูสะดวกและง่ายดายสำหรับมื้อเช้าที่เร่งรีบ แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นแค่เครื่องดื่มที่มีปริมาณแคลอรีเท่ากับศูนย์ ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำผลไม้สกัด 100 เปอร์เซนท์ก็ตาม คุณควรจะเลือกรับประทานผลไม้สดซึ่งมีประโยชน์มากกว่า แถมยังมีกากใยอีกด้วย
10.องุ่น
องุ่นเป็นผลไม้ที่ง่ายต่อการรับประทานและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่จริง ๆ แล้วองุ่นเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดความอยากรับประทานของหวานอื่น ๆ อีก ข้อแนะนำคือไม่ควรหลีกเลี่ยงองุ่นหรือของหวานต่าง ๆ แต่ให้รับประทานร่วมกับอาหารที่มีโปรตีน หรือใส่ลงไปในสลัดแทน
11.อาหาร “ไขมันต่ำ”
การรับประทานอาหารประเภทนี้มากเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงของการบริโภคแต่อาหารไขมันต่ำโดยที่คุณไม่รู้ตัว เพราะมันสร้างภาพลวงตาว่าคุณไม่ได้รับประทานแคลอรีมากนักในแต่ละมื้อ ในขั้นตอนการผลิตอาหารประเภทนี้มักใส่สารเคมีตัวอื่นเข้าไปแทนวัตถุดิบจากธรรมชาติ เพื่อให้กลายเป็นอาหารที่มี “ไขมันต่ำ”
12.เกลือปรุงรส
เรามักจะปรุงแต่งอาหารแคลอรีต่ำอันจืดชืดด้วยการโรยเกลือปรุงรส โดยหารู้ไม่ว่าเกลือดังกล่าวมีปริมาณโซเดียมที่สูงมากและอาจก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง ลองหันมาใช้สมุนไพรสด ๆ เพื่อดึงเอารสชาติของมื้ออาหารออกมาแทนสิ
13.สลัด
สลัดถือเป็นอาหารที่มีประโยชน์ จริง ๆ แล้วอาหารชนิดนี้เป็นทางเลือกที่เยี่ยมยอดของคนที่กำลังควบคุมอาหาร แต่น้ำสลัดต่างหากที่เป็นปัญหา จะมีประโยชน์อะไรหากคุณเข้าไปในภัตตาคารแล้วสั่งสลัดผักสดที่ราดด้วยมายองเนสชนิดไขมันสูง?
14.ขนมขบเคี้ยว 100 กิโลแคลอรี
เอาล่ะ คุณรู้ตัวว่ากำลังบริโภคอาหารที่มีปริมาณแคลอรีเพียงแค่ 100 กิโลแคลอรีต่อชิ้น แต่อาหารเหล่านั้นช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการประจำวันงั้นหรือ? การลดปริมาณแคลอรีลงไม่ได้แปลว่าคุณจะบริโภคอาหารขยะมากขึ้นได้ ขนมขบเคี้ยวเหล่านี้เหมาะสำหรับการบริโภคเป็นครั้งคราว แต่ไม่ใช่สำหรับการรับประทานเป็นเมนูประจำแน่นอน
15.สแน็คบาร์ที่มีกากใยสูง
ขนมขบเคี้ยวประเภทนี้อุดมไปด้วยกากใยซึ่งจำเป็นต่อร่างกายของคุณ อย่างไรก็ตาม ปัญหาอยู่ที่ว่าสแน็คบาร์นั้นอุดมไปด้วยกากใยในปริมาณที่เยอะก็จริง แต่ไม่ได้ให้กากใยกับร่างกายอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งวัน ราเชล ฮาร์เวสท์ นักโภชนาการที่ลงทะเบียนร่วมกับเว็บไซต์ทูร์เนซอล เวลเนส ในนิวยอร์ก กล่าวว่า “คนเราควรได้รับปริมาณกากใยที่สม่ำเสมอตลอดทั้งวัน เพื่อจะขจัดความอยากอาหาร ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น และไม่ทำให้เกิดอาการปวดท้อง”
