ที่มา: dodeden.com

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง  ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าการดูแลช่วยเหลือด้านจิตใจแก่ครอบครัวของเด็ก 4 พี่น้องที่ตกระเบียงคอนโดเมื่อคืนวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมาว่า กรมสุขภาพจิตได้เร่งให้การดูแลด้านจิตใจครอบครัวของเด็กอย่างเต็มที่     

โดยได้ส่งทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทจากสถาบันราชานุกูล เข้าเยี่ยมให้กำลังใจมารดาของเด็ก พบว่าขณะนี้มารดายังอยู่ในภาวะเศร้าโศก เป็นทุกข์ใจ นอนไม่หลับ

กรมสุขภาพจิตได้วางแผนส่งทีมสุขภาพจิตเอ็มแค็ท จากสถาบันราชานุกูล สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา ศูนย์สุขภาพจิตที่ 13  ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข35 ของกทม.  ลงเยี่ยมดูแลด้านจิตใจ ครอบครัวทั้งแม่ คุณตา คุณยายของเด็ก

โดยจะประเมินสภาพจิตใจ โดยเฉพาะความเครียด อาการซึมเศร้า ในวันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม 2561นี้ที่รพ.รามคำแหง เพื่อวางแผนดูแลอย่างต่อเนื่องจนกว่าสภาพจิตใจจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ

รวมทั้งจะเข้าเยี่ยมอาการของเด็ก  ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯสำนักงานเขตกทม. เข้าเยี่ยมด้วย เพื่อดูแลด้านสวัสดิการต่างๆแก่ครอบครัวด้วย

ด้านแพทย์หญิงมธุรดา  สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่า ทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทของสถาบันราชานุกูล ได้นำหรีด กระเช้ารังนก และเงินจำนวนหนึ่งไปมอบให้มารดาที่วัดจันทวงศาราม (วัดกลาง) ซอยลาดพร้าว 132 เขตบางกะปิ

ร่วมทำบุญบำเพ็ญกุศลศพของด.ช.คนัธชา อายุ 5 ขวบ   แรกพบมารดามีสีหน้าหมองเศร้า ทีมงานได้เข้าไปให้กำลังใจ มารดาสนทนาพร้อมกับร้องไห้ว่า

“เวลานี้ทุกคนในบ้านรู้สึกทุกข์ใจมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ” ทีมงานได้ปลอบใจ โดยได้เน้นย้ำพร้อมให้การดูแลช่วยเหลือให้กลับมาเข้มแข็ง และให้คำแนะนำหากนอนไม่หลับหรือเครียดวิตกกังวล ให้ไปพบแพทย์หรือรับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 35 หรือขอรับคำปรึกษาที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรีตลอด24 ชั่วโมง

สำหรับแผนดูแลจิตใจของเด็กทั้ง 3 คน ซึ่งอายุต่ำกว่า 11 ปี และได้รับบาดเจ็บ  ส่วนใหญ่มักจะมีความรู้สึกกลัว และกังวลกลัวเหตุการณ์จะเกิดซ้ำอีก   เด็กที่ได้รับผลกระทบรุนแรงทางจิตใจ อาจทำให้มีปัญหาการนอน ฝันร้าย อารมณ์หงุดหงิด มีความรู้สึกซึมเศร้า  หรือมีอารมณ์เฉยชา

บางคนอาจมีความรู้สึกผิด รู้สึกว่าตัวเองเป็นต้นเหตุไม่สามารถช่วยน้องได้   จะต้องมีการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด    แบ่งเป็น 3 ระยะ  ระยะแรกคือช่วงหลังเกิดเหตุ 2 สัปดาห์แรก จะประเมินสภาวะความเครียด ผลกระทบด้านจิตใจ เช่นอาการหวาดกลัว ฝันร้าย  สะดุ้งตกใจง่าย หลับยาก รู้สึกว่าตัวเองผิด เป็นต้น

ระยะที่2 คือช่วง2 สัปดาห์ถึง 3 เดือน จะประเมินสภาวะเครียดรุนแรงซ้ำ  และระยะที่ 3 คือช่วง 3 เดือนขึ้นไปหลังเกิดเหตุ   ส่วนในรายที่เป็นผู้ใหญ่

แผนการดูแลจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะเช่นเดียวกับเด็ก  แต่จะมีการประเมินระดับความเครียด คัดกรองอาการซึมเศร้าเป็นระยะๆ และดูแลจนกว่าสภาพจิตใจจะกลับมาสู่สภาวะปกติ

ซึ่งญาติและเพื่อนบ้านจะมีส่วนสำคัญในการช่วยกันประคับประคองจิตใจ  ให้กำลังใจ  จะช่วยให้ผู้ประสบปัญหา ก้าวข้ามความทุกข์ได้เร็วยิ่งขึ้น  เพื่อป้องกันการเกิดโรคเครียดสะเทือนขวัญหรือโรคบาดแผลทางใจ ซึ่งจะมีผลกระทบต่ออารมณ์และพฤติกรรม สามารถเกิดได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

เรื่องน่าสนใจ