เป็นอีกหนึ่งพระเอกสุดฮอตขวัญใจแฟนคลับ ที่ต้องบอกเลยว่าถ้าหนังเรื่องไหนมีหนุ่ม ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์  เป็นนักแสดงนำ แน่นอนว่าจะต้องทำเงินพุ่ง จนเจ้าตัวได้รับฉายาว่า พระเอกร้อยล้าน ล่าสุด (9 พฤษภาคม 2561) หนุ่มซันนี่ ได้มาเล่าเส้นทางกว่าจะเป็นดารา และเรื่องราวในวัยเด็กว่า “ไม่เคยฝันว่าจะเป็นนักแสดงมาก่อน ตอนเด็กเป็นเด็กไม่ชอบเรียนหนังสือเพราะมองว่าตอนไปเล่นอะสนุก แต่พอไปเรียนมันไม่สนุก แต่ผมไปเรียนได้ แล้วรับผิดชอบได้ ตอนนั่งเรียนรู้เรื่องครับ”

 

ซันนี่

เราเป็นลูกคนเล็กเอาแต่ใจตัวเองด้วยหรือเปล่า ?
ซันนี่ : ผมว่าไม่ได้เอาแต่ใจตัวเองหรอก แต่มันเป็นสิทธิที่คนอื่นเค้าต้องรับผิดชอบในเรื่องนั้นนี้แทนเรา น้องจะทำไม่ได้ พี่ต้องมาทำแทนเรา แต่ถ้าผมประพฤติไม่ดีจะรู้สึกผิด ถ้าจะโดดเรียนไปโน่นไปนี่ผมทำไม่ได้ ผมรู้สึกว่าครอบครัวส่งเรามาให้เรียนอะ เราก็ต้องเรียน ใจจริงอยากเรียน 15 นาที แล้วเตะบอล 40 นาทีด้วยซ้ำ แต่มันทำไม่ได้ ก็ต้องนั่งรอเวลาเลิกเรียน

ถ้าไม่ได้เป็นนักแสดง หรือเป็นซูเปอร์ฮีโร่ เราจะทำอะไร ?
ซันนี่ : รู้อย่างเดียวครับ คือเป็นคนดี อย่างอื่นคิดไม่ออก

 

ตอนเด็กที่บ้านล้มละลาย ?
ซันนี่ : ใช่ครับ มีช่วงหนึ่ง มันมีการทำธุรกิจแล้วจะมีช่วงหนึ่งที่คนเอาเปรียบเรา แล้วก็โกงเราไป หักหลังอะไรมันเกิดขึ้นได้อยู่แล้วแค่นั้นเอง แล้วฝั่งครอบครัวเราโดน เป็นคนที่ทำอะไรแล้วต้องรับผิดชอบ เรื่องนี้เกิดตอน 16-17 ม.6 ครับ ตอนนั้นคุณพ่อก็ไม่ได้บอกอะไร เราคิดแค่ว่าไฟมันดับเดี๋ยวไฟมันคงมา แต่ไฟไม่มาทั้งวันเลย พอไปถามคุณแม่เค้าก็บอกว่า ไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ ตอนนั้นเราก็จุดเทียนเดินในบ้าน คือเราเช่าบ้านเค้า และย้ายบ้านบ่อยมาก ไม่รู้เหมือนกันชีวิตผมย้ายบ้านบ่อยมาก

ตอนนั้นทุกคนต้องหันหน้ามาช่วยกันหาเงิน ?
ซันนี่ : ใช่ครับ พี่ชายพี่สาวนี่รับภาระหนัก ผมเห็นชัดเลย ที่ผมเรียนช้าในมหาวิทยาลัยเพราะมีเงินลงเรียนไม่กี่ตัว เราดันเรียนเอแบคด้วยไง แล้วบางทีเรียนไปครึ่งเทอม พอไม่มีเงินจ่าย ก็ต้องดรอปไป แล้วผมจะเป็นคนที่รับภาระน้อยที่สุด บังเอิญผมโชคดีได้ไปหารายได้ ในใจผมคิดว่า ถ้าออกไปหารายได้ทั้งวันโดยทิ้งการเรียน แต่กลับมาไม่ได้เงินเยอะ สู้กลับไปเรียนดีกว่า มันเสียดายเวลา ทำให้มันรอดสักอย่างก่อน มาเริ่มเล่นดนตรีตอนมหาวิทยาลัยครับ เล่นกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย เราเล่นกีตาร์ก่อน แล้วมาร้องคอรัสเพราะเราเสียงไม่ดี ผมเล่นดนตรีหาเงิน ทำอยู่ 3 ปี จนเรียนจบ

 

ทำไมถึงได้มาเล่นภาพยนตร์ ?
ซันนี่ : ครูเงาะ เห็นเราจากโฆษณา ติดต่อมา เรากลัวเค้าหลอกลวง แล้วก็ไม่รู้ว่าเราทำได้มั้ย ก็บอกไม่ไปนะครับ จนเค้าโทร. มาอีกรอบ ตอนนั้นผมอ้วนมากครับ ด้วยความที่เราเล่นดนตรีกลางคืนแล้วกินข้าวดึก น้ำหนักก็พุ่งขึ้นไป 80 กิโล แล้วเค้าบังคับให้ผมลด ไม่งั้นเปิดกล้องไม่ได้ เค้าจ้างคนมาลดน้ำหนักให้ จาก 80 เหลือ 64 

ตลอด 13 ปีในวงการ ส่วนใหญ่จะเป็นคอมเมดี้ ?
ซันนี่ : ผมว่าหนังไทยส่วนใหญ่จะเป็นตลก เพราะคนไทยเป็นคนสนุกสนาน ผมเลยได้บทสนุกสนาน

ซันนี่ตัวจริงเป็นยังไง ?
ซันนี่ : ผมไม่รู้เหมือนกัน เพราะรู้แค่ว่าผมเกิดมาก็เป็นอย่างนี้แล้ว โดยหนังส่วนใหญ่ที่เล่นก็จะออกมาจากตัวเราเองเกือบทั้งหมด เวลาตอบคำถาม หรือให้สัมภาษณ์ ผมก็ตอบตามจริง ไม่ได้แกล้งตอบ ผมก็เป็นแบบนี้

 

 

คนเรียกเราว่าพระเอกติสต์แตก รู้สึกยังไง ?
ซันนี่ : ก็ไม่ได้รู้สึกยังไง เค้าไม่ได้มาด่าเรานี่นา ถามว่าจะให้เปลี่ยนมุมการตอบคำถามมั้ย ทำไมต้องเปลี่ยน ผมว่ามันไม่ใช่หน้าที่ผม เป็นอย่างนี้แหละดีแล้ว

ชีวิตรัก ?
ซันนี่ : ตอนนี้สถานะโสด ไม่ได้คุยกับใคร ผมดูแลเทคแคร์ใครไม่เป็น ผมทำอะไรเองมาตลอด ทำอะไรคนเดียว ไม่ค่อยรู้สึกพึ่งพาใคร เป็นตั้งแต่บ้านล้มละลาย มันมีมุมมาจากตรงนั้น ก็โสดมาหลายปี 5-6 ปี ไม่มีสเปค อยู่ที่ชอบกันแล้วอยู่ด้วยกันได้

ชอบผู้หญิงอายุมากกว่า ?
ซันนี่ : ไม่จำกัดอายุ ระบุไม่ได้แบบไหน ต้องโดยรวมคุยแล้วใช่ ผมไม่คิดรักสนุกแต่ไม่ผูกพัน เพราะผมเป็นคนจริงจัง เราไม่อยากไปหลอกใคร ผู้หญิงที่จะเข้ามา ขอแค่เป็นตัวเค้า ไม่ต้องมาเอาใจผม แค่เราชอบกัน ส่วนการมีครอบครัวไม่ใช่ความต้องการเราฝ่ายเดียว ต้องเจอคนที่มีความรู้สึกร่วมกันก่อน ถึงจะไปจุดนั้นได้

 

 

เรื่องน่าสนใจ