เนื้อหาบางส่วนโดย Dodeden.com 
ขอขอบคุนที่มาจากคุณบรรจง ชีวมงคกานต์ และรายการยกทัพข่าวเช้าทางช่อง PPTV

หลังจากที่ทางโดดเด่นได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพิษศัลยกรรม ซึ่งเป็นเรื่องราวของ “น้องโฟม” ที่ได้ไปทำศัลยกรรมเสริมจมูกที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แต่กลับเจอแพทย์ที่ไม่ได้จบทางด้านศัลยกรรมโดยตรง จนทำให้จมูกอักเสบติดเชื้อจนเสียโฉม และไม่สามารถรักษาให้กลับมาเป็นแบบเดิมได้นั้น ล่าสุดมีข่าวเพิ่มเติมว่าทางน้องโฟมกับครอบครัวเดินหน้าเข้าร้องกับแพทยสภาหวังเอาเรื่องคลินิกย่านลาดพร้าวดังกล่าวอย่างถึงที่สุด 

โดยทางรายการยกทัพข่าวเช้า สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี รายงานความคืบหน้าหลังจากเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางรายการได้นำเสนอเรื่องราวของ น้องโฟม น.ส.ศศิธร วงพิมล วัย 21 ปี ที่ทำศัลยกรรมเสริมจมูก กับ”ว”คลีนิค ซอยลาดพร้าว 25 ด้วยราคา 65,000 บาท แต่กลับเจอแพทย์ที่ไม่ได้เรียนจบเฉพาะทางด้านศัลยกรรมทำการผ่าตัดผิดพลาด สุดท้ายทำโครงสร้างจมูกพัง ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานนับปีในการรักษาและยังไม่ทราบว่าจะมีโอกาสกลับมาเป็นดังเดิมได้หรือไม่

13

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงบ่ายวันที่ 8 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้พา”น้องโฟม”และคุณแม่ไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่แพทยสภา ซึ่งเลขาธิการแพทยสภา นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ ได้มารับเรื่องด้วยตนเองและบอกว่ากระบวนการหลังจากนี้จะเรียกแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดศัลยกรรมน้องโฟม รวมทั้งเจ้าของคลินิก”ว” มาตรวจสอบจริยธรรม หากผิดจริง อาจถึงขั้นเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ ส่วนกรณีจมูกของน้องโฟมนั้น เท่าที่ดูเบื้องต้นยังถือว่าไม่เสียหายหนักมาก และยังมีโอกาสที่จะรักษาหายได้ จึงขอให้น้องโฟมไม่ต้องเครียด แต่อาจต้องใช้เวลาซักระยะ และเชื่อมั่นว่าแพทย์ศัลยกรรมที่ รพ.รามาธิบดี ที่น้องโฟมไปรักษาอาการต่อมีฝึมือและความสามารถสูงที่จะช่วยให้จมูกน้องโฟมกลับมาเป็นเช่นเดิมได้

ด้านพล.อ.ต.น.พ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา ระบุว่าสำหรับใครที่ประสบปัญหาจากการรักษาพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน และต้องการร้องเรียน เพื่อขอความเป็นธรรมเหมือนอย่างกรณีการศัลยกรรมจมูกของน้องโฟมสามารถร้องเรียนแพทยสภาได้ ซึ่งการร้องเรียนแบ่งเป็น 2 ส่วนโดยส่วนของแพทยสภาจะตรวจสอบจริยธรรมของแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด หากทำผิดก็จะมีบทลงโทษ ส่วนอีกหน่วยงานคือ กองกฏหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จะลงพื้นที่ไปดูคลินิกดังกล่าว ว่าได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งทำหน้าที่เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยคู่กรณี และช่วยเหลือในการเรียกร้องค่าเสียหาย

15

สำหรับขั้นตอนถ้าไม่ยุ่งยากซับซ้อน คือร้องเรียนแค่เรื่องการบริการไม่ได้มาตรฐาน จะใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 30 วัน แต่สำหรับกรณีน้องโฟม ทางกองกฎหมาย สบส. พิจารณาแล้วถือว่าเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากซับซ้อน จึงต้องใช้ระยะเวลาตรวจสอบประมาณไม่เกิน 90วัน

มีรายงานว่าแพทย์ที่ทำการผ่าติดเสริมจมูกและรัดปีกจมูกให้กับน้องโฟม เป็นแพทย์หนุ่มอายุ 26 ปี จบจากมหาวิทยาลัยมหิดล แต่ไม่ได้เรียนจบมาทางด้านเฉพาะทางศัลยกรรม โดยหลังจากที่ครอบครัวน้องโฟมได้เปิดเผยเรื่องราวนี้ต่อสื่อมวลชน ทางคลีนิค ว. ได้พยายามติดต่อมายังครอบครัวเพื่อขอให้ถอนแจ้งความและยุติเรื่องราวทั้งหมด โดยเสนอเงินชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 65,000 บาท และจะดำเนินการให้น้องโฟมได้ไปรักษาจมูกกับแพทย์ที่มีชื่อเสียงในวงการศัลยกรรมท่านหนึ่ง ซึ่งทางคลีนิคจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ แต่ทางครอบครัวน้องโฟมยังไม่ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว ขณะที่วันนี้ (9ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธินนัดคู่กรณีสองฝ่ายมาพบกัน เพื่อเจรจาหาข้อตกลง และหลังจากนั้นครอบครัวน้องโฟมจะเดินทางไปร้องเรียน ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)ต่อไป 

16

อย่างไรก็ตามทางโดดเด่นก็ขอยืนยันคำเดิมให้กับหลายๆ คนที่คิดจะทำศัลยกรรมนะคะ ว่าการหาข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ ควรศึกษาหาข้อมูลให้มากๆ เพื่อความสบายใจ และความปลอดภัยของตัวเอง เพื่อที่ทำศัลยกรรมไปแล้วจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง เพื่อตัวของคุณเอง จะได้สวยอย่างที่หวัง ไม่ผิดหวังอย่างกรณี “น้องโฟม” นะคะ เพราะสมัยนี้การทำศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติธรรมดา และมีคลินิกเกิดขึ้นมากมาย อย่าหลงเชื่อเพียงโปรโมชั่น และภาพโฆษณาที่สวยงามเท่านั้น ควรดูรีวิว และปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญค่ะ หรืออยากจะปรึกษากับทางโดดเด่นดอทคอมก็ได้นะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง และไม่เกิดปัญหาแน่นอนค่ะ! 

เรื่องน่าสนใจ