เนื้อหาโดย Dodeden.com

ในยุคที่หลายคนหันมาทำศัลยกรรมกันมากขึ้น แน่นอนว่าจำนวนตัวเลขของผู้ที่ทำออกมาเเล้ว “สวย” ก็มีมาก และคนที่ทำออกมาเเล้วไม่ค่อยพึงพอใจในผลลัพท์ของมันก็ยังมีมากเช่นกัน นอกจากจะอยู่ที่ฝีมือหมอ การดูแลหลังการผ่าตัดของคุณเองเเล้ว สุขภาพร่างกายที่เเข็งแรงก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน หากคุณเป็นหนึ่งคนที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง คุณอาจจะต้องมีถีพิถันในการดูแลตัวเองมากกว่าคนอื่นอยู่ซักหน่อย

เคยได้ยินคำกล่าวนี้ไหมคะ? น้ำตาลในเลือดสูง เลือดก็หวานมาก แผลก็หวานเข้าไปอีก เป็นแหล่งพลังงานชั้นดีของเจ้าเชื้อโรคต่างๆ เลยล่ะ (เชื้อโรคจะเจริญเติบโตได้ดี นี่เป็นคำตอบที่ว่า ทำไมคนที่เป็นเบาหวานถึงแผลหายช้ากว่าปกติ) และที่สำคัญ พอน้ำตาลในเลือดเยอะ ก็จะเกิดอาการ Blood viscous (เลือดหนืด) ทำให้การไหลเวียนไม่มีประสิทธิภาพ เลือดไปเลี้ยงแผลได้ยาก ออกซิเจนที่จะไปซ่อมแซมบาดแผลก็น้อยเข้าไปอีก ทำให้เม็ดเลือดขาวเข้าไปทำลายเชื้อโรคได้ยากขึ้น สุดท้ายก็ตายกลายเป็นน้ำหนอง 

ส่วนใหญ่เเล้ว แพทย์จะทำการรักษาด้วยการฉีด Adoxy (เป็นเทคโนโลยีที่แยกโมเลกุลของน้ำออกเป็นอ็อกซิเจนบริสุทธิ์ และร่างกายสามารถนำไปใช้ทันที) ทำให้แผลดีขึ้นเร็วและหายเป็นปกติได้  เมื่อเซลล์แข็งแรง เม็ดเลือดขาวแข็งแรง ก็สาสารถทำลายเชื้อโรคไดh แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การดูแลตัวเองให้ดีที่สุดก่อนที่จะทำการศัลยกรรม ดูเหมือนว่าจะเป็นทางเลือกที่คุณควรทำ มากกว่ามาคอยนั่งรักษาบาดแผลที่เกิดจากการติดเชื้อ 

ขั้นแรก เมื่อตรวจร่างกายเเล้วพบว่าคุณเองมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ก็ต้องควบคุมอาหาร งดของมัน ของหวาน ของทอด ได้ยิ่งดี ขนมหวาน เค้ก ช็อคโกแลตแสนอร่อยก็พักไปก่อน ควบคุมสัก 1 เดือนก่อนทำศัลยกรรมก็ยิ่งดีค่ะ ยิ่งถ้าเป็นการศัลยกรรมใหญ่อย่างเสริมหน้าอก ผ่าตัดกราม ก็ยิ่งต้องดูแลตัวเอง แต่ถึงเเม้ว่าจะเป็นการผ่าตัดเล็กๆ อย่างการเสริมจมูก เสริมคาง กรีดตา ก็ยังต้องอยู่ในดุลยพินิจของคุณหมอด้วยนะคะ 

เมื่อคุณดูแลตัวเองเต็มที่เเล้ว ตรวจดูค่าน้ำตาลในเลือดก็ผ่าน คราวนี้จะศัลยกรรมอะไรก็ไม่ต้องกลัวเเล้วค่ะ เพราะการควบคุมน้ำตาลจะช่วยให้แผลหายได้ตามปกติ ลดโอกาสติดเชื้อได้มากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การควบคุมน้ำตาลเป็นประจำ ไม่ใช่เพียงเเค่ก่อนการทำศัลยกรรมนั้น ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่จะทำให้สุขภาพร่างกายของคุณแข็งแรงตลอดไป จริงไหมคะ?

เรื่องน่าสนใจ