ปาร์ตี้อย่างไรไม่ให้เมา ? 6 เคล็ดลับง่ายๆ ดักความกรึ่มได้ดั่งใจ! ใครที่มีจุดอ่อนเวลาที่ต้องไปดริ้งก์กันบ้างคะ ? เชื่อว่าหลายๆ คนคงต้องเซ็งเมื่อรู้ว่าตัวเองช่างคออ่อนเสียนี่กระไร อยากจะอยู่ปาร์ตี้ยาวๆ ก็ทำไม่ได้ ใจไปแต่ตัวมันไม่ไหวเเล้ว

 

ปาร์ตี้อย่างไรไม่ให้เมา
ภาพจาก howstuffworks.com

 

มาดูทางนี้ค่ะ เรามีเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้คุณสนุกกับปาร์ตี้ได้แบบไม่มีร่วง !

 

ปาร์ตี้อย่างไรไม่ให้เมา ? 6 เคล็ดลับง่ายๆ ดักความกรึ่มได้ดั่งใจ!

เที่ยงครึ่ง
กินเยอะๆ โดยเฉพาะโปรตีนอย่างน้อย 26 กรัม (จากปลา เนื้อสัตว์ ถั่ว) และไข่ต้ม น้ำส้มสายชู ซึ่งมีซิสเตอีน ตัวยับยั้งพิษแอลกฮอลล์

บ่ายโมง
เลือกดื่มเบียร์สดที่มีแอลกฮอลล์ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นไวน์ก็ลองเลือกที่มีแอลกฮอลล์เพียง 9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไวน์ทั่วไปมักมีค่าแอลกฮอลล์ 12 เปอร์เซ็นต์

 

ปาร์ตี้อย่างไรไม่ให้เมา

 

บ่าย 2
แอลกฮอลล์มีคุณสมบัติขับปัสสาวะ มันจะดึงน้ำออกจากเซลล์ รวมถึงขัดขวางฮอร์โมนที่กระตุ้นให้ร่างกายกักเก็บน้ำ แก้ไขโดยดื่มน้ำเปล่ามากกว่าเครื่องดื่มแอลกฮอลล์ 3 เท่า และจิบน้ำทุกๆ ชั่วโมง

บ่าย 3 – 5 โมงเย็น
ถ้ารู้สึกง่วงขึ้นมานิดๆ มันเป็นผลมาจากแอลกฮอลล์นั่นแหล่ะค่ะที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น แบบนี้ต้องขบเคี้ยวอัลมอนด์ไร้เกลือหรือโปรตีนบอล เพื่อบาล้านซ์ระดับน้ำตาลในเลือด หรือจะกินกล้วย กีวี พลางดื่มน้ำมะพร้าวสลับกัน เมื่อเราลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำบ่อย นั่นหมายความว่าร่างกายเริ่มสูญเสียโพแทสเซียม เราจะเริ่มรู้สึกปวดหัวร่วมกับคลื่นไส้นิดๆ แต่เมื่อได้รับโพแทสเซียมเพิ่ม เราจะรู้สึกดีขึ้นทันที

 

ปาร์ตี้อย่างไรไม่ให้เมา

 

1 ทุ่ม
มื้อเย็นควรจัดเต็มโปรตีนอย่างไก่ ทูน่า หรือถั่ว เพราะมันจะช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ยับยั้งระดับน้ำตาลพุ่งสูงฉับพลัน เนื่องจากน้ำตาลส่วนเกินในแอลกฮอลล์ นอกจากนี้ โปรตีนยังช่วยให้อิ่มท้องจนไม่ต้องถามหาของแกล้มเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ

4 ทุ่ม
แม้จะรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน อย่าริดื่มเอสเพรสโว่มาร์ตินี่เวลานี้ เพราะใครก็ตามที่ซดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกฮอลล์ผสมกัน มันส่งผลต่อการตัดสินใจผิดพลาด ลองหาเครื่องดื่มประเภทโสม หรือน้ำผึ้งมาลองดีกว่า ฟื้นพลังได้ดีเชียวล่ะ

••••••••••••••••••••••••••••••

เมื่อกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย อาบน้ำ ก็ลองกินผงวาซาบิสัก 1 ช้อนชา เพื่อกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือด ขับสารพิษ รับรองว่าตื่นมาจะแทบไม่มีอาการเมาค้างเลยล่ะ

 

เนื้อหาโดย Dodeden.com

ป้ายกำกับ:

เรื่องน่าสนใจ