มะเร็งหลังโพรงจมูกและช่องปาก ความร้ายแรงของมันสามารถคร่าชีวิตของมนุษย์ไปได้มากกว่าการเสียชีวิตจากสงครามเสียอีก ที่แย่ไปกว่านั้นคือ จำนวนผู้เป็นโรคก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัญหาสำคัญที่แพทย์พบอยู่บ่อยครั้ง

นั่นก็เป็นเพราะว่าการปล่อยปละละเลยของตัวเราเองที่มักจะคิดว่า “ฉันยังไม่เป็นอะไร” ปล่อยผ่านไปโดยไม่ยอมเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ จนก้อนเนื้อเหล่านั้น ค่อยๆ เป็นบ่อนทำลายอวัยวะมากขึ้นทุกๆ วัน กว่าจะเข้ารับการรักษาอีกที ระยะการเกิดโรคก็เพิ่มมากขึ้นเยอะแล้ว ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพลดลง อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุด

 

มะเร็งหลังโพรงจมูก และช่องปาก กับการเช็คอาการตั้งแต่เนิ่นๆ

โรคมะเร็งหลังโพรงจมูก โดยมากมักจะเป็นในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ที่สำคัญคือ โรคนี้จะไม่มีอาการเตือนในระยะต้นๆ ผู้ป่วยหลายคนจึงมักจะมาพบแพทย์เมื่ออาการเป็นมากแล้ว และปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ก็คือ 4 ข้อดังต่อไปนี้ค่ะ

  • เชื้อชาติ เช่น เชื้อสายจีน มีแนวโน้มในการเป็นมะเร็งศีรษะที่ลำคอมากที่สุด
  • ผู้ที่ชอบทานปลาเค็ม เนื่องจากกรรมวิธีในการทำปลาเค็มนั้นมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคค่ะ
  • เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบางชนิด คือ EB VIRUS สูงกว่าปกติ ที่พบในเนื้อเยื่อมะเร็งหลังโพรงจมูก
  • โดย 90 เปอร์เซ็นต์ พบไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายโดยการสัมผัสน้ำลายที่ติดเชื้อ

เราจะเช็คอาการของโรคได้อย่างไร ?
ลองสังเกตดูว่าเรามีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่ เช่น มีอาการคัดจมูก เนื่องจากก้อนมะเร็งอุดรูจมูกหายใจด้านหลัง มีเสมหะปนเลือด หูอื้อ ฟังไม่ชัด เนื่องจากภาวะน้ำคั่งในหูชั้นกลาง หรือพบก้อนเนื้อในบริเวณคอ หน้าชา และมองเห็นภาพซ้อน แต่ก็อย่าเพิ่งวิตกกันไปค่ะ เราควรไปพบแพทย์เมื่อมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น นาน 2 สัปดาห์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยโรคดูค่ะ

มะเร็งหลังโพรงจมูกและช่องปาก

โรคมะเร็งในช่องปาก

โรคมะเร็งในช่องปาก เราสามารถพบได้ในผู้หญิงและผู้ชายใกล้เคียงกัน แต่สาเหตุที่แท้จริงก็ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่าอาจจะมีความสัมพันธ์กับการติดเชิ้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกับที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก

ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งในช่องปาก

  • การสูบบุหรี่
  • การดื่มเหล้า
  • การกินหมาก เนื่องจากในผลหมากมีสารก่อมะเร็ง
  • การได้รับการระคายเคืองเรื้อรัง เช่น การใส่ฟันปลอมที่ไม่พอดีกับช่องปาก
  • ทำให้เกิดการเสียดสีเนื้อเยื่อในปาก ทำให้เกิดแผลเรื้อรั้งเป็นเวลานานจนอาจกลายเป็นมะเร็งได้

เราจะเช็คอาการของโรคได้อย่างไร ?
ลองเช็คดูว่าเรามีแผลในช่องปากเรื้อรัง คือ ระยะอาการนานเกิน 2 สัปดาห์หรือไม่ มีก้อนเนื้อในบริเวณช่องปากหรือไม่ เลือดออกจากแผลในช่องปาก มีอาการปวด พูดไม่ชัดหรือไม่ อาการของโรคที่กล่าวมาทั้งหมดมักจะเกิดกับคนที่มีอายุน้อย ซึ่งสามารถไปรับการตรวจวินิจฉัยกับแพทย์ได้ 2 แขนง คือ ทันตแพทย์ และแพทย์ด้านหู คอ โดยการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจนั่นเองค่ะ

••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••

หากใครที่เริ่มสงสัยว่าตัวเองกำลังจะเป็นโรคร้ายก็ควรไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ เปลี่ยนคำว่า ฉันยังไม่เป็นอะไร มาเป็นคำว่า ฉันกำลังจะเป็นอะไร ดีกว่าค่ะ

 

เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com

เรื่องน่าสนใจ