วิธีบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นพร้อมรับอากาศหนาว

17535788_s

1. ทาผลิตภัณฑ์เพื่อการบำรุงผิวทันทีหลังล้างหน้า หรืออาบน้ำ
หลังล้างหน้า หรืออาบน้ำ ผิวของเราจะค่อยๆ สูญเสียน้ำไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นต้องทาครีมบำรุงให้เร็วที่สุดในขณะที่ผิวยังมีความชุ่มชื่นอยู่

2. ใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อการบำรุงผิวต่างๆ ในปริมาณที่เหมาะสมกับตัวเอง
ผลิตภัณฑ์เพื่อการบำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็น ครีม, เซรั่ม, โทนเนอร์ หรือโลชั่นต่างๆ นั้น ปริมาณที่ใช้จะแตกต่างไปตามสภาพอากาศในแต่ละวัน ถ้ารู้สึกว่าทาครีมแต่ผิวก็ยังแห้งอยู่ ลองเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยการทานคอลลาเจนเพิ่ม (อย่างสก๊อตคอลลาเจน-คิว10) มันจะช่วยไปเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวจากภายใน เปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอก

3. ห้ามล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
สิ่งที่ช่วยให้ผิวไม่สูญเสียน้ำคือน้ำมันในชั้นผิวหนังเรา ดังนั้นจึงไม่ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพราะจะทำให้สูญเสียน้ำมันในชั้นผิวหนังมากกว่าที่ควร แค่ล้างหน้าด้วยน้ำที่ไม่เย็นจนเกินไปก็พอ

4. อุณหภูมิของมือที่ใช้ในการทาครีมต่างๆ ก็สำคัญ
คงไม่อยากเอามือเย็นๆ ไปสัมผัสใบหน้าใช่มั้ยล่ะ? นอกจากนี้ อุณหภูมิของมือยังส่งผลต่อการซึมซับของเนื้อครีมด้วยนะ ถ้ามือเย็นจนเกินไป ครีมบำรุงผิวต่างๆ จะซึมซับได้ไม่ดีเท่าไหร่ อย่าลืมใส่ใจเรื่องอุณหภูมิของฝ่ามือเราด้วยนะคะ

ทำมาส์กใช้เองสูตรถนอมหน้ารับลมหนาว

สำหรับสาว ๆ ที่ชอบทำมาสก์เองด้วยผลิตผลจากธรรมชาติ หน้าหนาวอย่างนี้แนะนำให้ใช้นมสด 1/2 ช้อนชาและน้ำผึ้งแท้ 1/2 ช้อนชา ผสมให้เข้ากันแล้วทาหน้าทิ้งไว้ประมาณ 8-10 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด นมสดจะช่วยให้หน้าเนียนนุ่มไม่แห้งส่วนน้ำผึ้งรักษาความชุ่มชื้นและลดการระคายเคืองได้ดี

เลือกกินให้เหมาะสม

ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว เพราะอากาศหนาวทำให้เราปัสสาวะบ่อยร่างกายสูญเสียน้ำผิวจึงแห้งง่าย

รับประทานผักผลไม้มาก ๆ ช่วงหน้าหนาวแนะนำให้กินผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น พริกขี้หนู พริกหวาน ส้ม มะขาม ฝรั่ง เพราะนอกจากบำรุงผิวยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานป้องกันหวัดได้อีกด้วย

เด็กทารก ผู้สูงอายุ และผู้ที่ไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมได้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูงและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส ซุป น้ำสลัดน้ำข้น โยเกิร์ต เพราะการที่กระเพาะย่อยน้ำตาลในนมไม่ได้ร่างกายจึงต้องไปดึงเชื้อยีสต์ในลำไส้มาช่วยย่อยน้ำตาลทำให้เชื้อยีสต์มีจำนวนมากขึ้น (Over Growth) เมื่อถูกกระตุ้นด้วยอากาศแห้งในหน้าหนาวจะทำให้เกิดโรคเซ็บเดิมและปวดไขข้อได้

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา จะทำให้ปัสสาวะบ่อยเนื่องจากคาเฟอีนมีส่วนในการขับปัสสาวะ แนะนำให้เลี่ยงมาดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรหรือชาผลไม้ที่ไม่มีส่วนผสมของคาเฟ อีนแทน

 

เรียบเรียงโดยเว็บโดดเด่น

Credit : jawbeautifullover.blogspot.com,women.postjung.com

 

เรื่องน่าสนใจ