ที่มา: dodeden

จากกรณี ที่มีข่าวเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล ถึงหญิงสาว อายุ 20 ปี ซึ่งถูกบุรุษพยาบาลของสถานพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรปราการ กระทำอนาจารขณะที่ไปทำการล้างแผลที่สถานพยาบาล นั้น

ความคืบหน้า กรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า วันนี้ ( 4 กรกฎาคม 2560 )  นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กรม สบส. ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่จากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ และกองกฎหมาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครลงตรวจสอบข้อเท็จจริงที่โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว

โดยเฉพาะประเด็นการควบคุม ดูแล ผู้ประกอบวิชีพ และด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย ที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ใน 2 ประเด็น ได้แก่ 1.ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลมีการควบคุมและดูแลมิให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลประกอบวิชาชีพผิดไปจากสาขาที่ได้รับอนุญาต หรือมิให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล หรือไม่

แต่หากพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวของโรงพยาบาลเป็นผู้ประกอบวิชาชีพจริง จะเสนอเรื่องให้สภาวิชาชีพพิจารณาดำเนินการเอาผิดในด้านจรรยาบรรณวิชาชีพต่อไป

2.กระบวนการให้บริการ และความปลอดภัย เนื่องจากห้องที่ใช้รักษาพยาบาลเป็นห้องที่มิดชิด โรงพยาบาลจะต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ทั้งชายและหญิงให้บริการเพื่อความเหมาะสม ในกรณีเป็นผู้ป่วยหญิงควรจะให้เจ้าหน้าที่หญิงเป็นผู้ดูแล ไม่ควรปล่อยให้อยู่เพียงลำพังกับเจ้าหน้าที่ชาย ซึ่งหากพบว่ามีการปล่อยปละ ละเลย ให้ผิดไปจากมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายโดยทันที

ด้าน ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (สพรศ.)กล่าวว่า หากพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดจริง เจ้าหน้าที่ผู้กระทำผิด และผู้ดำเนินการสถานพยาบาลจะมีความผิดตามกฎหมายซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกัน

คือ 1.ความผิดตามกฎหมายอาญาของเจ้าหน้าที่ผู้กระทำอนาจารผู้ป่วย ซึ่งอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ2.ความผิดของผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 4 พ.ศ.2559 มาตรา 34 (1) ไม่ควบคุม ดูแล ให้ผู้ที่มิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลของตนและมาตรา 34 (4) ไม่ควบคุม ดูแลสถานพยาบาลให้สะอาด เรียบร้อย ปลอดภัย และมีลักษณะเหมาะสม

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายของโรงพยาบาล หรือคลินิกเอกชน ในเขต กทม. สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กลุ่มโรงพยาบาล สพรศ. กรม สบส.หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18406 และ กลุ่มคลินิก 18407 สำหรับในส่วนภูมิภาคสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่

เรื่องน่าสนใจ