ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

สาวชาวเหนือมุ่งหน้ามาเมืองใหญ่หางานทำ ตกเป็นเหยื่อจิ้งจอกหนุ่มมารสังคม หลอกว่าจะพาไปสมัครงานกับบริษัทรถยนต์ ออกอุบายให้ไปตรวจร่างกาย ทำใจป๋าให้เอทีเอ็มไปกดเงิน สุดท้ายกลายเป็นการฉ้อฉลหลอกลวง ยังดีที่เสียมือถือไปเครื่องเดียว…

EyWwB5WU57MYnKOuYBn04GHZ2oQ0p5GguXKc51p8YLb9YgJjlJ2dqc

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 พ.ย.58 ขณะที่ ร.ต.ท.สัณหวัช แก้วดวงศรี พงส. สภ.เมืองสมุทรปราการ ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มี น.ส.ดารารัตน์ ปาราวัน อายุ 25 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ เข้าแจ้งความว่า ได้ถูกชายอายุประมาณ 30 ปี เข้ามาตีสนิท แล้วหลอกว่าจะพาไปสมัครงานกับบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่ง ก่อนออกอุบายหลอกเอาโทรศัพท์มือถือและบัตรเอทีเอ็มหลบหนีไป

ทั้งนี้ น.ส.ดารารัตน์ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนเดินทางมาจากบ้านที่จ.เชียงใหม่ เพื่อที่จะมาหางานทำ จนกระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ไปสมัครงานที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโก ซึ่งตั้งอยู่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หลังยื่นใบสมัครเสร็จจึงได้นั่งรถประจำทางกลับ และมาลงบริเวณหน้าห้างโฮมโปร ถนนบางนา-ตราด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ขณะนั้นได้มีชายอายุประมาณ 30 ปี ลักษณะแต่งกายภูมิฐาน เข้ามาทำทีพูดคุยและสอบถามเกี่ยวกับการสมัครงาน ตนจึงเล่ารายละเอียดให้ฟัง โดยชายคนดังกล่าวอ้างว่าเป็นพนักงานอยู่ที่บริษัทรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง รู้จักกับผู้บริหารเป็นอย่างดี ถ้าตนสนใจจะไปทำงานด้วย เขาก็จะฝากงานให้

สาวเมืองเหนือเหยื่อมารสังคม กล่าวอีกว่า ด้วยความอยากได้งาน ตนจึงตัดสินใจไปกับชายคนดังกล่าว ซึ่งพานั่งรถประจำทางมาลงบริเวณสามแยกไฟฟ้า ถนนศรีนครินทร์ ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมกับขอดูเอกสารการสมัครงานของตน หลังดูเอกสารเสร็จ ได้บอกกับตนว่า ยังขาดใบรับรองแพทย์ แต่สามารถไปตรวจ ที่ รพ.เปาโล เมโมเรียลสมุทรปราการ ได้ ก่อนจะถามตนว่า มีเงินค่าตรวจพอหรือไม่ ซึ่งในกระเป๋าตนมีเงินอยู่เพียง 1,200 บาท

ชายคนดังกล่าวจึงได้ยื่นบัตรเอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพให้ตน พร้อมกับรหัสกด และบอกว่ามีเงินอยู่ประมาณ สองหมื่นเจ็ดพันบาท ถ้าไม่พอก็ให้กดเงินไปใช้ก่อนได้ โดยชายคนดังกล่าวให้ตนเอาบัตรเอทีเอ็ม และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงโน้ต 4 ราคากว่าสองหมื่นบาท เป็นของค้ำประกันไว้

“ตกลงกันเสร็จ ชายคนดังกล่าวก็ให้นั่งรถแท็กซี่ล่วงหน้าไปที่ รพ.เปาโลฯก่อน โดยบอกว่าเดี๋ยวจะตามไป กระทั่งเดินทางไปถึง แต่ก็ไม่พบชายคนดังกล่าวแต่อย่างใด จึงได้รีบโทรศัพท์เข้าไปในเครื่องของตัวเอง ปรากฏเครื่องถูกปิดไปแล้ว จึงได้นำบัตรเอทีเอ็มที่ให้มาไปกดที่ตู้ แต่ไม่สามารถกดเงินได้ จึงคิดว่าถูกหลอกแน่นอน ส่วนบัตรของตัวเอง ซึ่งช่วงบ่ายจะมีเงินเดือนจากที่ทำงานเก่าโอนเข้ามาให้ 2 หมื่นบาท ขณะนี้ได้โทรอายัดเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะมาแจ้งความ” น.ส.ดารารัตน์ กล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บันทึกปากคำไว้ ก่อนจะสืบสวนหาตัวคนร้ายภัยสังคมรายนี้ต่อไป.

เรื่องน่าสนใจ