สาเหตุของถุงใต้ตา กับเคล็ดลับการป้องกัน และรักษาให้ดูดีขึ้น ซึ่งสาเหตุของปัญหาถุงใต้ตา แบ่งได้ในคน 2 ช่วงวัย คือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 25-35 ปี เป็นลักษณะของถุงใต้ตาที่มักพบในคนเอเชีย บางครั้งเรียกว่า “ตาคนจีน” ตาลักษณะนี้มักไม่พบในผู้หญิงในประเทศแถบตะวันออกกลางเช่นพวกแขก (คนกลุ่มนี้จะไม่มีถุง แต่ดวงตามักจะยุบเข้าไป) สาเหตุไม่ได้มาจากการดําเนินชีวิต ความอ้วน-ผอม หรือ สิ่งแวดล้อมใดๆ แต่เป็นลักษณะชาติพันธุ์ของตา ซึ่งบริเวณนั้นจะมีไขมันอยู่ก้อนหนึ่งแล้วดันออกมา

 

สาเหตุของถุงใต้ตา
ภาพจาก alibaba.com

 

ส่วนช่วงวัยที่ 2 คือถุงใต้ตาที่เกิดขึ้นในคนที่มีอายุตั้งแต่ 50-70 ปี ถุงใต้ตาลักษณะนี้ สามารถเกิดได้กับคนทุกชาติพันธุ์ทั่วโลก สาเหตุมาจากที่ผนังตาอ่อนแรงลง ทําให้ไขมันซึ่งแม้จะมีอยู่ไม่มาก สามารถดันจนปูดบวมออกมาได้

 

แนวทางแก้ปัญหาถุงใต้ตา

ทาครีมบํารุงต่างๆ
เพื่อให้ผิวบริเวณนั้นกระชับขึ้น ผิวหนังและกล้ามเนื้อหดตัวและดึงรั้งกลับไปได้บ้าง ข้อดีของวิธีนี้คือ ทําได้สะดวก ค่าใช้จ่ายมักไม่สูง โอกาสเกิดอันตรายน้อย แต่ข้อเสียคือเห็นผลช้า ต้องใช้เวลานาน วิธีนี้เป็นเพียงการช่วยพยุงอาการเท่านั้น

 

สาเหตุของถุงใต้ตา
ภาพจาก Taasha Renee

 

การผ่าตัด
เป็นวิธีมาตรฐานที่แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทํากันมานานแล้ว โดยแพทย์จะทําการผ่าตัดจากด้านนอกบริเวณผิวหนังที่ชิดกับแนวของขอบขนตาล่าง เพื่อเจาะเอาถุงไขมันใต้ตาออก วิธีนี้ เหมาะสําหรับผู้ที่อยู่ในวัยกลางคน มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เพราะการผ่าตัดลักษณะนี้ แพทย์มักจะตัดหนังส่วนเกินออกให้ด้วย จึงเหมาะกับผู้ที่หนังใต้ตาเริ่มหย่อน ซึ่งสามารถช่วยเก็บรอยย่นได้พอสมควร แต่ข้อเสียคือ มีโอกาสที่จะเกิดแผลเป็นเล็กๆ บริเวณใต้ตาได้ และการทําในคนไข้ที่อายุน้อย หากมีการตัดหนังบริเวณใต้ตาออกมากเกินไป มีโอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนที่เรียกว่า “ตาแหก” หรือตาถลนได้ (ต้องการดึงขึ้นแต่กล้ามเนื้อด้านล่างแข็งแรงกว่าดึงรั้งลงมา) และข้อเสียอีกอย่างหนึ่งคือ ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่า เพราะเป็นการผ่าตัด

 

สาเหตุของถุงใต้ตา
ภาพจาก Laser Skin Care Australia

 

การใช้เครื่องเลเซอร์
คือการใช้เลเซอร์ CO2 LASER เจาะเข้าไปบริเวณใต้เปลือกตาล่างด้านใน แล้วดูดไขมันที่ทําให้เกิดถุงใต้ตาออก มีข้อดีคือ เป็นวิธีที่ได้ผลดี สะดวก ปลอดภัย (หากทําในแพทย์ที่มีความชํานาญ) แผลเล็ก และซ่อนอยู่ด้านใน ไม่ต้องเย็บแผล มีอัตราการเขียวช้ำน้อย ใช้เวลาพักฟื้นสั้น แต่ข้อเสียคือ ไม่สามารถตัดหนังเกิน หรือช่วยแก้ปัญหาเรื่องรอยย่นใต้ตาได้ จึงไม่เหมาะกับคนไข้ที่อายุมากเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ต้องการแก้ปัญหาเรื่องถุงใต้ตา และแก้ปัญหนังเกินและรอยย่นไปพร้อมๆ กัน

••••••••••••••••••••••

นอกจากนี้ก็ยังมีวิธีอื่นๆ ที่ทํากันอยู่ในปัจจุบัน เช่น การใช้เครื่องมือบางชนิด เช่น Ulthera เพื่อช่วยลดไขมันใต้ตา ทําให้ผิวบริเวณนั้นกระชับ ตึงขึ้น แต่วิธีที่แพทย์ไม่แนะนํา คือการการใช้เลเซอร์บางอย่างปักตรงๆ เข้าไปเพื่อสลายไขมัน หรือการใช้การฉีดยาสลายไขมัน ซึ่งเป็นอันตรายมาก

เนื้อหาโดย Dodeden.com

เรื่องน่าสนใจ