หน้าพัง ภัยร้ายจากการฉีด ซิลิโคนเหลว 

ซิลิโคลนๅ


ซิลิโคนเหลวในสารเติมเต็มก็นิยมกันในคนไทยและคนต่างประเทศทุกประเทศเนื่องจาก หลังการฉีดแล้ว ซิลิโคนเหลวระยะแรกมักมีใบหน้าหรือ,สะโพกตึงและนูนไป ทำให้ดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ซิลิโคนเหลวยังราคาถูกทำให้ สามารถฉีดได้ในปริมาณมาก ๆ ได้ให้รูปหน้าเต่งตึงและสวยงามมากในระยะแรก 

อย่าง ไรก็ตามซิลิโคนเหลวมักมีปัญหาการไหลย้อนไปที่ต่าง ๆ และมีปฎิกริยาต่อเซลล์ของร่างกายทำให้มีการห้อยย้อย, แข็งตึง และมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของผิวหนังทำให้มีรูปร่างขรุขระ ดูไม่สวยงาม 

โดยทั่วไป ปัญหาหลักของการฉีดซิลิโคนเหลวคือจะไหลลงตามแรงโน้มถ่วงของโลกไม่ ค่อยอยู่ในที่ทำและไม่สลายไปตามเวลา และจะซึมไปทั่วเนื้อเยื่อปกติทำให้การผ่าตัดไม่สามารถเอาออกได้ทั้งหมด
จะสามารถเอาออกได้เฉพาะบางส่วน 


โดยปกติการฉีดซิลิโคนเหลวจะมีการฉีดตามที่ต่าง ๆ ในร่างกาย ดังนี้ 

  1. หน้าผาก เป็นบริเวณที่ฉีดให้หน้าผากโหนกนูนปัญหาที่เกิดคือซิลิโคนเหลวมักจะไหลมาที่บริเวณตาบน
  2. จมูก หลังจากฉีดปริมาณ 1 ปี จะไหลออกมาด้านข้างของจมูก ทำให้จมูกดูบวมใหญ่ แต่จะไม่มีสันจมูกตามธรรมชาติ
  3. แก้ม โดยทั่วไปจะฉีดบริเวณโหนกแก้ม แต่หลังจากฉีด เวลาผ่านไปจะไหลลงมาที่กระพุงแก้มทำให้ดูเหมือนคนมีอายุมาก เนื่องจากมีการห้อยย้อยของกระพุ้งแก้ม เหมือนกับแก้มของผู้สูงอายุ
  4. คาง คางมักมีปัญหาเรื่องการไหลย้อย ทำให้คางยาวขึ้่นเกินไปและการไหลลงไปที่จุดต่ำสุดของคาง ผิวหนังบริเวณที่ต่ำสุดจะแดงและแข็งทำให้ดูไม่สวยงาม
  5. หน้าอก หน้าอกมักเกิดเป็นก้อนแข็งและตะปุ่มตะป่ำ ทำให้คล้ำดูไม่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้แล้วการคลำได้ก้อนซิลิโคนที่เต้านม ทำให้การตรวจมะเร็งเต้านมทำได้ยาก บางครั้งถ้าเกิดเป็นมะเร็งก็จะไม่รู้ตัวในระยะแรก
  6. อวัยวะเพศ ซิลิโคนเหลวมีการนำมาฉีดทำอวัยวะเพศชายและหญิง ทำให้มีอวัยวะเพศแข็งแต่ช้ำ เมื่อมีการเสียดสีก็จะเกิดเป็นแผลได้ง่าย
  7. สะโพก ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ซิลิโคนจะมีการไหลจากสะโพกมาที่ต้นขา โดยทั่วไปคนไข้มักมีการฉีดซิลิโคนเหลวจำนวนมาก ทำให้มักเป็นไตแข็งและอักเสบได้บ่อยๆ


การฉีดซิลิโคนเหลวต่างจากการเสริมด้วยแท่งซิลิโคนอย่างไร


ต่างกันโดยสิ้นเชิง เนื่องจากว่าซิลิโคนเหลวเมื่อเข้าไปในร่างกายแล้ว จะเข้ารวมกับเนื้อเยื่อของจมูก และเมื่อเวลาผ่านไปสารเหล่านี้ก็จะไหลไปด้านข้างของจมูกทำให้จมูกดูโตขึ้นอย่างมาก ที่สำคัญเมื่อมีปัญหาก็ไม่สามารถนำออกได้หมด โดยเฉพาะคนที่ทำมาเป้นเวลานานเนื้อเยื่อจมูกกับสารซิลิโคนจะยิ่งรวมตัวเกาะกันการแก้จมูกเมื่อมีปัญหาในอนาคตจึงยากมาก 

เรื่องที่น่าเป็นห่วงในวงการศัลยกรรมความงามในขณะนี้คงหนีไม่พ้นการฉีดซิลิโคนเหลวที่ได้กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง โดยครั้งนี้บรรดาหมอเถื่อนได้สรรหาชื่อใหม่ๆ มาเรียก เช่น ไขมันเทียม, ไขปลาวาฬ หรือ แอบอ้างว่าเป็นคอลลาเจน เพื่อตบตาคนไข้ที่มักจะรู้ไม่เท่าทันและตกเป็นเหยื่ออยู่เสมอ 

ความจริงเรื่องซิลิโคนเหลวนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในทางการแพทย์รู้กันมานานกว่า 30 ปีแล้วว่า การฉีดซิลิโคนเหลวนั้นมีโทษภัยอย่างไร เช่น เรื่องการที่สารซิลิโคนเหลวนั้นจะไหล ทำไปแรกๆ ก็ดูสวยดี แต่ผ่านไป 3-5 ปี จะเริ่มไหลมากงอรวมกัน อย่างที่เห็นเป็นคางแม่มด หรือถ้าแย่กว่านั้นอาจจะมีการอักเสบ หรือจับเป็นก้อนแข็ง และตัวซิลิโคนเหลวนั้น พบว่าจะถูกเม็ดเลือดขาวกับกิน และพาไปที่ต่อมน้ำเหลืงและอวัยวะต่างๆ การแก้ไขก็ทำได้ยาก เพราะผลเสียที่มีมากมายนี้เอง การใช้ซิลิโคนเหลวเพื่อฉีดเสริมสวยจึงถูกห้ามใช้ในทางการแพทย์ จะมีที่ใช้ก็จำกัดเฉพาะการรักษาโรคบางอย่าง และต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ

สารที่ใช้ฉีดเพื่อเสริมความอิ่ม (Soft Tissue Fillers) ที่ใช้ได้อย่างปลอดภัยในทางการแพทย์ก็มีอยู่หลายตัว มีทั้งที่อยู่ได้ชั่วคราวและอยู่ได้ถาวร มีความนิ่ม-แข็งแตกต่างกันไป เทคนิคที่ใช้เสริมก็แตกต่างไปตามสารแต่ละชนิด แต่สารเหล่านี้ก็มักจะมีราคาต้นทุนแพงกว่าซิลิโคนเหลว รวมทั้งเทคนิคการเสริมก็ไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆ ต้องมีความรู้ทางการแพทย์และประสบการณ์ ทำให้ไม่เป็นที่นิยมของหมอเถื่อนเท่าการฉีดซิลิโคนเหลว

*****วิธีสังเกตไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ เมื่อต้องการทำศัลยกรรมความงามโดยใช้สารฉีดหน้าต่าง ๆ ควรปรึกษากับแพทย์โดยตรง สอบถามถึงข้อดีข้อเสียของสารที่ใช้ และในกรณีที่ได้ผลไม่เป็นที่พอใจ แพทย์สามารถแก้ไขให้ได้หรือไม่ สถานที่ทำควรเป็นคลินิก หรือโรงพยาบาลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม การทำใช้เทคนิคปลอดเชื้อหรือไม่ ไม่ใช่แบบหิ้วกระเป๋ามาฉีดตามร้านเสริมสวย พอมีปัญหาก็หาตัวไม่เจอ อย่าเชื่อเพียงเพราะเพื่อนมาชวน เพราะผลเสียถ้าเกิดขึ้นไม่ได้อยู่บนหน้าเพื่อน*****

ซิลิโคลน
ขอขอบคุณที่มาจาก  https://sites.google.com/site/harrymalick/si-li-khon-helw

เรื่องน่าสนใจ