ที่มา: dodeden

เรียบเรียงข่าวโดย โดดเด่นดอทคอม

ภาพประกอบจาก โดดเด่นดอทคอม

เว็บไซต์โดดเด่นดอทคอม ( www.dodeden.com )  รายงานว่า เคล็ดลับ “การดูแลตัวเองด้วยคำเล็กๆ” จากเนสท์เล่ โดย พิมพ์วดี อากิลา ผู้จัดการฝ่ายโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยเทคนิคการสร้างสุขภาพดีด้วยการ กิน – ดื่ม ดังนี้

รับประทานอาหารเช้าในปริมาณที่มากกว่ามื้ออื่น เพราะอาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุดในแต่ละวัน เป็นแหล่งที่มาของพลังงานซึ่งเราจำเป็นต้องใช้ในการทำกิจกรรมมากมาย ไม่เพียงเท่านั้น อาหารเช้ายังมีประโยชน์ที่หลายคนคาดไม่ถึงอีกมาก อาทิ

คนที่งดอาหารเช้ามีสิทธิ์อ้วนได้มากกว่าคนที่กินอาหารเช้าเป็นประจำถึง 4.5 เท่า นั่นเป็นเพราะว่า ตั้งแต่มื้อดึกมาจนถึงเช้าวันใหม่ เราไม่ได้ทานอะไรมาถึงเกือบ 12 ชั่วโมง

10995934_1049997805016740_8982609775221249462_n

หากยิ่งไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า ซึ่งเป็นมื้อแรกของวัน จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง จนไปเพิ่มแนวโน้ม

การรับประทานอาหารที่มีพลังงานและไขมันสูงในมื้อเที่ยงมากขึ้น ในขณะที่มีเวลาในการเผาผลาญพลังงานน้อยลง จึงเป็นสาเหตุให้มีน้ำหนักเกินและอาจเป็นโรคอ้วนได้อย่างไม่รู้ตัว

ผู้หญิงที่รับประทานอาหารเช้าซึ่งมีปริมาณแคลอรีมากกว่ามื้ออื่นๆ จะสามารถควบคุมน้ำหนักได้ดีกว่า เด็กที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำจะมีทักษะความจำที่ดีกว่า และมีสมาธิในการเรียนรู้ดีกว่า

จากการศึกษาวิจัยพบว่า การรับประทานอาหารเช้าจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอและมีส่วนเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนหรือการทำงาน ทำให้ระบบความจำ ทักษะการเรียนรู้ และอารมณ์ดีขึ้น

แต่หากขาดพลังงานจากอาหารมื้อเช้าร่างกายจะขาดพลังงานจำเป็น สมาธิลดน้อยลง สมองทำงานได้ไม่เต็มที่ หากขาดอาหารเช้าเป็นประจำอาจส่งผลต่อสติปัญญาและมีผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว

แม้ว่าอาหารเช้าจะมีความสำคัญมาก แต่ด้วยวิถีชีวิตที่รีบเร่งของผู้คนในปัจจุบัน ทำให้หลายคนมองข้าม และไม่เห็นความสำคัญในการรับประทานมื้อนี้

แต่ในความเป็นจริงนั้น การเตรียมมื้อเช้าที่มีคุณค่าทางอาหารสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว เพียงรู้จักเลือกเมนูหรือดัดแปลงให้เหมาะสม

อาทิ เปลี่ยนจากขนมปังขาวทาเนยเป็นขนมปังโฮลวีทและไข่ต้ม ซีเรียลโฮลเกรน เติมด้วยผลไม้ ถั่ว และนม   น้ำเต้าหู้ใส่ธัญพืช เป็นต้น

นอกจากนี้ ควรลด ปริมาณ แต่ไม่ งด มื้อเย็น

หลายคนมีความเข้าใจที่ผิดคือเลือกที่จะงดรับประทานมื้อเย็นเพื่อเป็นการควบคุมน้ำหนัก แต่ใน  ความเป็นจริงคือเราจำเป็นต้องทานอาหารให้ครบตามที่ร่างกายต้องการตลอดทั้งวันเพื่อให้ร่างกายมีพลังงานใช้อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น เราจึงควรเลือกรับประทานมื้อเย็นให้ถูกวิธี คือ ควรรับประทานมื้อเย็นก่อนเวลาเข้านอน 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้กระบวนการย่อยและดูดซึมสารอาหารไปกระทบช่วงเวลาการพักผ่อนของร่างกาย

แค่ลดปริมาณอาหารที่รับประทานในมื้อเย็นก็เป็นประโยชน์แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ควรให้ความสำคัญในการเลือกรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา และผักผลไม้หลากหลายชนิดซึ่งมีสารอาหารแตกต่างกันไป

ลดปริมาณน้ำตาลที่รับประทานในแต่ละวัน

ไขมันส่วนเกินสะสมไม่ได้เกิดจากการรับประทานอาหารประเภทไขมันในปริมาณที่มากเกินไปเท่านั้น แต่ส่วนหนึ่งมาจากการรับประทานน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไป

เนื่องจากกลไกของร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลที่เหลือจากการใช้เป็นพลังงานให้กลายเป็นไขมันสะสม น้ำตาลจึงเป็นหนึ่งสาเหตุของปัญหาสุขภาพและโรคอ้วน

ดังนั้น เราจึงควรควบคุมปริมาณน้ำตาลที่ร่างกายรับเข้าไป เลือกชนิดอาหารที่มีความหวานน้อยกว่า โดยเปรียบเทียบจากการอ่านฉลากโภชนาการก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปทุกชนิด เพื่อช่วยให้เราสามารถเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะกับความต้องการของร่างกายเรา

วิธีการคำนวณปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มง่ายๆ เพียงแค่…นำค่าน้ำตาล (กรัม) ที่ระบุบนฉลากโภชนาการมาหารด้วย 4 กรัม เราจะทราบว่าในผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีน้ำตาลอยู่ประมาณกี่ช้อนชาต่อ 1 หน่วยบริโภค  

ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน

ร่างกายมนุษย์เราประกอบด้วยน้ำถึง 70% โดยทุกเซลล์มีน้ำเป็นองค์ประกอบ ฉะนั้น การดื่มน้ำที่น้อยเกินไปอาจทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ร่างกายเรียกร้องขอน้ำโดยอัตโนมัติ จนเกิดเป็นปัญหาสุขภาพหรือโรคภัยไข้เจ็บได้

เทคนิคง่ายๆ สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศคือวางน้ำเปล่าไว้ข้างกายให้จิบดื่มได้ตลอดทั้งวัน เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายอยู่เสมอ

ปริมาณการดื่มน้ำที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน คือ น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) x 33 = ปริมาณน้ำ (มิลลิลิตร)

ปริมาณการดื่มน้ำที่เหมาะสมโดยเฉลี่ยคือ 2 ลิตร ต่อวัน โดยเราสามารถเพิ่มความสดชื่นและรสชาติให้กับน้ำเปล่าที่ดื่มได้ แค่…บีบมะนาวลงไปเล็กน้อย หรือฝานเป็นแว่นเล็กๆ ตกแต่งแก้วให้สวยงาม

เรื่องน่าสนใจ