ที่มา: Kapook.com

เนื้อหาโดย Dodeden.com 

จากเรื่องราวสุดสะเทือนขวัญของทั้งประเทศไทยกับเหตุการณ์ฆ่ายกครัวอำมหิต 8 ศพ ของครอบครัววรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดกระบี่ ที่มีผู้รอดชีวิตจากในเหตุการณ์มาได้ 2 ชีวิตนั้น ล่าสุดทางเพจเฟสบุ๊คอย่าง อีจัน ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอที่ได้ไปพูดคุยกับ 1 ในผู้รอดชีวิตมาได้ราวกับปาฏิหาริย์นั่นก็คือ เด็กหญิงวัย 13 ปี ซึ่งเธอได้จดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนอันแสนโหดร้ายนั้นได้เป็นอย่างดี 

ซึ่งเธอได้เล่าว่า เธอนั้นโดนคนร้าย คุมตัวไปพร้อมกับน้าแยกไปอยู่ในห้อง 2 คน จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืน 2 นัดดังขึ้นในห้องแม่ น้าของเธอจึงได้สอบถามขึ้นมาว่าเสียงที่ดังขึ้นมานั้นเป็นเสียงอะไร อยากจะขอออกไปดู แต่คนร้ายก็สั่งให้กลับเข้าไปนั่งเฉยๆ และจากนั้นก็ได้พา แพรไหมทอง ลูกสาวของผู้ใหญ่มารวมไว้ที่ห้องเดียวกับเธอ ระหว่างนั้นคนร้ายได้พยายามเค้นกับน้าสาวของเธอว่าที่ไหนค้ายาบ้าง จะให้พาไปแต่น้าก็ตอบไปว่าไม่รู้ จึงโดนสั่งให้แก้ผ้าออกทั้ง 3 คน โดยอ้างว่าหากผู้ใหญ่ถูกจับได้ จะเป็นคดีค้ายาเสพติด ค้าอาวุธสงคราม ติดคุก 30 ปี หากแก้ผ้าให้เขาดูก็เหลือ 15 ปี แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครยอมทำตามคำสั่ง

จากนั้นไม่นั้นนาน คนร้ายก็พูดถึงมาว่า ถ้าไม่ลงมือทำก็เหมือนเป็นการแสดงออกว่าไม่รักพ่อ คนร้ายก็ตัดสินใจยิงแพรไหมทองในทันที ก่อนที่จะปิดไฟในห้อง ทำให้ตอนนั้น ตนกับน้าตกใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่น้าของตนจะโดนยิงตามไป ซึ่งก่อนที่น้าจะโดนยิงได้พยายามร้องขอว่า “อย่าทำหลานผม ให้ทำผมคนเดียว” แต่คนร้ายก็ไม่ฟังและเหนี่ยวไกปืนในทันที 

เธอยังเล่าต่ออีกว่า ก่อนที่ทุกคนจะโดนยิง มีเสียงร้องขอชีวิตระงมไปหมด ตอนที่เห็นคนอื่นถูกยิงและกำลังใกล้จะตายนั้น เสียงร้องของทุกคนเหมือนไก่ที่ถูกยิง ซึ่งหลังจากที่คนร้ายได้ออกจากห้องของเธอไปก็ได้เดินเข้าไปที่ห้องของผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้กัน และก็มีเสียงของผู้ใหญ่ร้องโวยวายขึ้นมาว่า “ทำไมต้องทำกับลูกเมีย ญาติกูแบบนี้” ก่อนที่ผู้ใหญ่จะถูกยิง และคนร้ายก็ได้สตาร์ทรถออกไป เธอเลยทำเป็นแกล้งเสียชีวิต และรอให้เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าคนร้ายนั้นได้เดินทางออกไปหมดแล้ว จึงได้พยายามหาโทรศัพท์โทรเพื่อให้คนมาช่วยชีวิต จนได้ยินเสียงแม่ของตนร้องดังขึ้นมา ซึ่งตอนนั้นเธอก็ไม่คิดว่าแม่ของเธอจะรอดชีวิตด้วยเช่นกัน 

โดยคืนนั้นหลังจากที๋โทร. ให้ตายายมาช่วย เด็กหญิงถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล แพทย์ได้ผ่ากระสุนออกจากศีรษะได้สำเร็จ ผ่านมาเกือบ 1 เดือน ตอนนี้เด็กหญิงอาการดีขึ้นจนเกือบปกติแล้ว โดยบอกว่ากังวลเรื่องการเรียน ซึ่งเธอก็ยังไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย อีกทั้งห่วงสภาพจิตใจและสุขภาพของแม่ด้วย

ขอขอบคุณคลิปวิดีโอจากเพจเฟสบุ๊ค อีจัน

เรื่องน่าสนใจ