ที่มา: Matichon Online

นายวีรชัย เพชรรัตน์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น กล่าวถึงการควบคุมตัวน.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว, น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ ผู้ต้องหาทีมฆ่าหั่นศพน.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม ว่า หลังจากทางเรือนจำกลางขอนแก่นได้รับตัวผู้ต้องขังทั้ง 3 ราย มาอยู่ในการควบคุมตัวนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำประวัติผู้ต้อง พิมพ์ลายนิ้วมือ และให้พยาบาลวิชาชีพมาทำการตรวจสุขภาพร่างกายว่ามีบาดแผลอะไร หรือมีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่ อีกทั้ง ยังได้ทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดของผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของทางเรือนจำที่จะต้องตรวจหสารเสพติดของผู้ต้องขังเข้าใหม่ 

นายวีรชัย กล่าวต่อว่า โดยผลการตรวจปัสสาวะของน.ส.ปรียานุชกับน.ส.กวิตาเป็นปกติ ส่วนน.ส.อภิวันทน์นั้นผลตรวจออกมาไม่ชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงทำการสักถาม ซึ่งน.ส.อภิวันทน์ยอมรับว่าได้ใช้ยาเสพติดครั้งล่าสุดเมื่อ 5 วันที่ผ่านมา ช่วงที่หลบหนีอยู่ในประเทศเมียนมา ก่อนเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางเรือนจำจะส่งผลตรวจของน.ส.อภิวันทน์ไปให้กับศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตนได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่าตลอดการสักถามประวัติเพื่อำประวัติผู้ต้องขังนั้น น.ส.ปรียานุชมีอาการร้องไห้อยู่ตลอดเวลา จนทำให้ไม่สามารถให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ได้ครบถ้วน โดยในวันนี้ทางเรือนจำจะส่งนักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องขังทั้ง 3 คน เพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด เนื่องจากผู้ต้องขังทั้งหมดอาจเกิดความกังวลและความกลัวในการที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ภายในเรือนจำ ซึ่งเป็นเหมือนผู้ต้องขังใหม่ทั่วไปที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในเรือนจำ

นายวีรชัย กล่าวอีกว่า ในวันนี้ทางสถานพยาบาลจะทำหนังสือไปถึงโรงพยาบาลขอนแก่น เพื่อขอให้ส่งนักจิตแพทย์มาทำการพูดคุยและทำประวัติผู้ต้องขังทั้ง 3 คนอย่างละเอียด เพื่อดูพฤติกรรมและความคิด เนื่องจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้สั่งการลงมา เพราะคาดว่าเขาอาจจะมีความคิดผิดปกติ ซึ่งคดีที่เขาก่อไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงจะเป็นผู้กระทำได้ขนาดนี้ ดังนั้น คาดว่า 2-3 วัน ทางจิตแพทย์คงจะเดินทางมาทำการตรวจดังกล่าว

“ผู้ต้องขังทั้ง 3 คน ยังไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ ทางเรือนจำดูแลเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป และได้มีการจัดผู้ต้องขังหญิงชั้นดีประกบ 2 คนต่อ 1 ผู้ต้องขัง เพื่อคอยสอดส่องดูแล และวันนี้จะทำการแยกห้องนอน โดยไม่ให้ผู้ต้องขัง 3 คน นอนห้องเดียวกัน เนื่องจากเป็นคู่คดีเดียวกัน ส่วนสิทธิผู้ต้องขังอื่นๆนั้น ก็เป็นไปตามระเบียบปกติ เราไม่ได้ให้สิทธิอะไรพิเศษ เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว สิ่งของเครื่องใช้ เราให้ใช้เหมือนผู้ต้องขังคนอื่นๆ ส่วนสิ่งของมีค่าไม่ให้นำติดตัวเข้ามาภายในเรือนจำอยู่แล้ว” ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น กล่าว

นายวีรชัย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีญาติหรือครอบครัวเดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องขังทั้ง 3 ราย แต่ตอนแรกได้รับทราบว่าจะมีพี่สาวของน.ส.กวิตามาเยี่ยม แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เดินทางมา ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้ต้องทั้ง 3 คน ได้ตื่นนอนมาทำกิจกรรมในช่วงเช้า ก่อนจะขอกลับขึ้นไปนอน เนื่องจากให้เหตุผลว่ายังมีอาการเพลียพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ซึ่งเรือนจำก็ได้ให้อนุญาต เพราะช่วงแรกเป็นการปรับตัวของผู้ต้องขังใหม่

เรื่องน่าสนใจ