ที่มา: fourfourtwo.com

เรียบเรียงโดย Dodeden.com

s8616749-0

เปิดบันทึกพระสุรเสียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 จากการพระราชทานพระบรมราโชวาทแก่นักฟุตบอลทีมชาติไทยในศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2512   โดยการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ซึ่งเป็นรายการระดับนานาชาติที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียนั้นริเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2511 โดยที่ประชุมสภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีมติให้ดำเนินการจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติขึ้นในประเทศ เพื่อเทิดพระเกียรติองค์อุปถัมภ์และอุดมการณ์ของสมาคมฯ

โดยมีเนื้อหาใจความพระบรมราโชวาท ดังต่อไปนี้ :

“ข้อที่น่าคิดก็มีว่า ในเมืองไทยเรา ทีมฟุตบอลหรือการฟุตบอลไทยมีทั้งขึ้นทั้งลง แล้วแต่ความเอาใจใส่ของทางราชการบ้าง แล้วแต่ความเอาใจใส่ของผู้ที่สนใจกีฬาบ้าง และแล้วแต่ความสามารถของนักกีฬาบ้าง ที่เห็นว่ากีฬาฟุตบอลนี้เป็นกีฬาที่คนไทยจะสามารถปฏิบัติได้ดีก็ด้วยเหตุผลว่า คนไทยเรามีความว่องไวและมีความอดทน มีความสามารถเป็นเรื่องเป็นราว

 แต่ก็มีบางอย่างที่จะทำให้กีฬาฟุตบอลองไทยเรามีการลงบ้างเหมือนกัน เพราะว่าการกีฬานั้นจะต้องมีการฝึกซ้อมให้ดีทั้งในทางวิชาการคือเทคนิค และทั้งในทางกายคือความแข็งแรงสมบูรณ์ การฝึกฝนให้สุขภาพอนามัยแข็งแรง ถ้าขาดทั้งสองอย่างนี้ก็จะทำให้ไม่สามารถปฏิบัติภาระของตัวให้ได้ชัยชนะได้ ถ้าได้ฝึกฝนด้วยตนเองได้ฝึกดี และเตรียมตัวเตรียมกายของตัวเองให้ดีแล้ว ก็ย่อมสามารถฟันฝ่าอุปสรรคได้ดีที่สุด แต่ถ้าไม่ปฏิบัติด้วยความสม่ำเสมอก็ไม่ต้องแปลกใจจะต้องปราชัย

การที่ขอโอวาทและขอพรให้มีกำลังใจเป็นสองส่วนอย่างนี้ การให้โอวาทอาจทำให้เสียกำลังใจได้ เพราะจะบอกว่า เวลาแข่งแล้วจะแก้อะไรไม่ได้ แต่ว่าถ้าได้ฝึกฝนมาดีและได้เตรียมตัวมาดี ก็มีหวังที่จะมีผลสำเร็จได้ ส่วนการให้พรนั้น ถ้าให้พรเฉยๆโดยที่ไม่ได้อาศัยการฝึกฝน กำลังพรแต่ฝ่ายเดียวจะไม่มีผล ที่นักกีฬาไทยในทางฟุตบอลเล่นได้ไม่ค่อยสม่ำเสมอก็มีเหตุอยู่อย่างหนึ่งอยู่ที่จิตใจ ก่อนที่จะลงสนามถ้ามีจิตใจฝ่อแล้วก็ไม่สามารถนำเอากำลังใจ กำลังกาย และกำลังความรู้ที่มีอยู่ในตัวมาปฏิบัติได้ ข้อแรกจึงต้องมีกำลังใจที่ดี เวลาลงสนามต้องถือว่าเรามีความตั้งใจแน่วแน่แล้วที่จะปฏิบัติการด้วยความตั้งใจและจะมีชัย

สิ่งสำคัญอีกข้อหนึ่งคือความตั้งใจที่จะทำตนให้เป็นนักกีฬาที่ดี สำหรับนักกีฬาที่ดี นอกจากต้องมีการแสดงทั้งในทางกายในทางสมอง คือใช้ความคิดและวิทยาการแล้ว ก็ต้องมีจิตใจเป็นนักกีฬา อันนี้จะทำให้มีชัยเหมือนกัน ถ้าแสดงตนเป็นคนที่มีจิตใจเป็นนักกีฬา จะทำให้ใจเย็นขึ้น เกิดเรื่องอะไรก็สามารถแก้ปัญหาได้ คำว่าเกิดเรื่องหมายถึงเกิดเรื่องในวิทยาการฟุตบอล ถ้าเขารุกมาเราป้องกันได้ วิทยาการที่จะรับสถานการณ์อีกอย่างก็คือการเล่นที่สุภาพเรียบร้อยที่น่าชมน่าดู ก็จะเป็นทางที่จะทำให้มีชัยชนะอีกอย่างหนึ่ง เพราะว่าผู้ดูนั้นถ้าเห็นว่าเราเล่นด้วยความตั้งใจจริงๆ ไม่ใช่ใจฝ่อ ไม่ใชพาลพาโล คนดูจะเอาใจช่วย ซึ่งจะให้กำลังใจเรา จะเป็นในเมืองไทยหรือเล่นในต่างประเทศก็เหมือนกัน ถ้าเราเล่นด้วยฝีมือที่ดี ด้วยกำลังที่ดี และด้วยเกียรติ ด้วยการแสดงว่าเราเป็นนักกีฬาที่มีน้ำใจดี ถึงแม้คนดูจะเป็นต่างประเทศก็สนับสนุนเรา กำลังใจของผู้ดูนั้นก็จะทำให้เราสามารถมีกำลังใจมากขึ้นเหมือนกัน เหล่านี้ก็เป็นวิธีที่จะต้องปฏิบัติ จึงขอให้โอวาทในด้านปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพ ให้มีกำลังอย่างที่ว่านี้ ฝึกเตรียมร่างกาย มีความสุข แล้วจะทำให้มีพลังที่จะฟันฝ่าอุปสรรคได้

การแข่งขันครั้งนี้ก็เป็นการแข่งขันสำคัญ เพราะว่าประเทศที่เข้าร่วมก็มีฝีมือมาก เขาจะหวังชนะ เราก็ต้องหวังชนะ แต่ก็ต้องนึกถึงว่า การชนะจะต้องทำด้วยความตั้งใจ ต้องใช้ความขะมักขะเขม้นและใช้ความพยายามอย่างมาก ถ้าใช้ความพยายามมากที่สุดแล้ว ด้วยความตั้งใจแล้วด้วยสุดฝีมือแล้ว จะแพ้จะชนะก็แล้วแต่ใครจะได้ฝึกมาดี ใครมีความสามารถ แต่อย่างน้อยถ้าแพ้ ก็แพ้อย่างเราสู้เต็มที่ก็ไม่มีใครว่า ส่วนพรก็มีความสำคัญอย่างหนึ่ง จึงขอให้พร ถ้าเราทำดีเต็มที่แล้ว ด้วยความตั้งใจเต็มที่แล้ว สิ่งที่จะสนับสนุนเราก็จะสนับสนุนเราได้ จะนึกถึงสิ่งศักสิทธิ์ก็ตาม สิ่งนั้นจะมาทำให้พรมีพลังมากขึ้น ก็ขอให้ทุกคนได้ประสบความสำเร็จตามที่ได้ตั้งสติไว้ที่จะลงสนาม  และจะสู้ในเชิงกีฬาอย่างดีที่สุดขอให้รวบรวมพลังทั้งหลายได้เพื่อที่จะได้ชัยชนะเป็นเกียรติแก่บ้านแก่เมือง เป็นเกียรติแก่การฟุตบอลไทย ขอให้ทุกคนได้สามารถเล่นฟุตบอลให้ดีที่สุดและในที่สุดให้ได้ชัยชนะตามประสงค์”

ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ท่านทรงให้พร แบบที่มีข้อคิด และคิดอะไรที่เป็นวิทยาศาตร์ เพราะฉะนั้น ทุกคำสอนของท่าน ล้วนแต่เป็นคำสอนที่ใช้ได้ผล สามารถพิสูจน์ได้ และนำมาปฎิบัติใช้ได้จริง

 

 

เรื่องน่าสนใจ