ที่มา: TNN 24

วันนี้ (31 ตุลาคม 2558) เฟซบุ๊กออกแถลงการณ์เมื่อเป็นคำชี้แจงของนายอเล็กซ์ ชูลซ์ ประธานฝ่ายการพัฒนา ว่าหลังได้รับเสียงวิจารณ์และการร้องเรียนอย่างหนักเกี่ยวกับที่เฟซบุ๊กเปลี่ยนนโยบายให้เจ้าของบัญชีใช้ชื่อจริงในการระบุตัวตน โดยเฉพาะกลุ่มนักสิทธิมนุษยชน ซึ่งกล่าวว่านโยบายดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้ประสงค์ไม่ประสงค์ดีใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ เนื่องจากชาวตะวันตกมีชื่อและนามสกุลซ้ำกันมาก และกลุ่มบุคคลข้ามเพศที่ได้รับผลกระทบ 

39

ทั้งนี้ ชูลซ์อธิบายว่า วัตถุประสงค์ของนโยบายดังกล่าวที่ใช้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่ใช่การสั่งให้ผู้ใช้บริการทุกคนเปลี่ยนชื่อบัญชีเป็นชื่อและนามสกุลจริงตามกฎหมายเสมอไป แต่เพียงต้องการให้ผู้ใช้งานใช้ชื่อที่เป็นที่เข้าใจสำหรับบุคคลทั่วไปในสังคมเท่านั้น เพื่อให้สะดวกแก่การใช้งานและเพื่อให้ผู้ที่ต้องการติดต่อค้นหาข้อมูลของบุคคลนั้นได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้ เพื่อบรรเทาข้อสงสัยและชี้แจงข้อครหา เฟซบุ๊กจึงเพิ่มคำอธิบายให้ละเอียดและชัดเจนขึ้น ว่าเพราะเหตุใดเจ้าของบัญชีนั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อ และหากไม่ปฏิบัติตามหรือชี้แจงด้วยเหตุผล ว่าเพราะเหตุใดไม่สามารถเปลี่ยนชื่อได้ ทีมงานอาจล็อกการเข้าถึงบัญชีนั้นชั่วคราว โดยจะเริ่มทดสอบการใช้งานในเดือนธันวาคมนี้

อย่างไรก็ตาม ชูลซ์ยืนยันว่าบริษัทยังไม่มีแนวคิดยกเลิกนโยบายดังกล่าว เนื่องจากมองว่าการใช้ชื่อจริงช่วยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายสามารถติดตามข้อมูลของผู้ใช้ได้ง่ายขึ้น ในกรณีที่บุคคลนั้นละเมิดนโยบายการใช้งาน อาทิ การโพสต์ภาพลามกอนาจาร

ป้ายกำกับ: |

เรื่องน่าสนใจ