ที่มา: msn

เคยมีข่าวฉาวจนเป็นที่ฮือฮามาแล้ว สำหรับกะเทย เอมมี่ รัชฎา ล่าสุดออกมาเปิดใจทั้งน้ำตา ถึงเหตุที่งานวิวาห์ต้องล่ม หลังจากที่เธอเคยตั้งมั่นว่า จะแต่งงานกับแฟนทอม แต่สุดท้ายแล้วงานวิวาห์ก็ต้องล่ม เมื่อทั้งคู่ได้เลิกรากัน หลังคบกันมา 5 ปี สร้างทุกอย่างมาด้วยกัน แต่สุดท้ายเหตุผลที่เลิกรากันคือ ต่างคนต่างเปลี่ยนไป และมีเวลาให้กันน้อยลง ถึงขั้นแฟนทอมเก็บของออกจากบ้านต่อหน้า!!

ทำเอาเธอน้ำตาร่วงอยู่ 2 เดือน โดยเอมมี่ได้มาเปิดใจในรายการ ของอาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ว่า

เอมี่ดังมาจากข่าวฉาวๆ ทำไมละ มันขัดกับใบหน้าที่หวานๆ นะ?

“เมื่อก่อนคือโซเชียลยังไม่ดัง มันก็จะมีการเข้าวงการแบบผิดๆ นะคะ เพราะว่าบางทีเราก็แบบอยากเป็นข่าว อยากมีกระแส อยากเป็นดารา คือเอาง่ายๆ นะคะ แล้วก็เราไม่ได้มีคนสนับสนุนหรือไม่รู้ว่าจะเข้าด้วยวิธีไหน มันเป็นอะไรที่แบบมันยาก มันไม่เหมือนสมัยนี้อัดคลิปก็ดังแล้ว เอมี่ว่าอยู่ที่ดวงมากกว่านะคะอาจารย์ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ มันจะเข้ามาเป็นได้”

ตอนแรกๆ คนเขารู้จัก เอมมี่ รัชฎา เนี่ยตอนที่หนูเป็นข่าวกับผู้ชายไฮโซคนนึงใช่ไหม?

“ใหญ่โตมากค่ะ ถือว่าเป็นการเข้าวงการครั้งแรกดีกว่าค่ะะอาจารย์”

แล้วเห็นอยู่ๆ ก็ได้ข่าวว่าเธอใช้ชีวิตคู่อยู่กับทอม?

“คือบอกตรงๆ ว่าช่วงแรกๆ เราก็ คือ เอมมี่ก็ไม่เคยชอบทอม ก็บอกตรงๆ ว่านี่คือครั้งแรกจริงๆ ที่เราชอบทอมอะค่ะ”

ยังกล้าพูดเหรอว่าครั้งแรก เธอเป็นกะเทย เธอชอบทอม?

“(หัวเราะ) เมื่อก่อนเอมมี่ก็ชอบผู้ชาย ชอบผู้ชายมาก แล้วก็มีแฟนเป็นผู้ชายตลอดๆ แต่ผลสุดท้ายก็จบด้วยแบบเดิมทุกครั้ง จนเรารู้สึกว่า คือผู้ชายก็เทเราแล้วก็ไปคบกับผู้หญิง แล้วก็ปัญหาครอบครัวเนี่ยสำคัญมาก คือวันนึงถ้าเกิดเขาโอเค แต่พ่อแม่เขาไม่โอเค ก็ต้องแยกทางกัน”

การเกิดเป็นกะเทยที่สวย รวย แล้วมีความสามารถอย่างเธอ?

“ค่ะ เมื่อก่อนตอนที่คบผู้ชายอาจจะยังแบบ คือมันไม่ได้มีขนาดนี้ค่ะอาจารย์ เขาก็เลยคิดว่ามันคงยังไม่ไหว ก็ต้องแยกออกก่อน แต่ว่าพอมาคบกับทอม เอมมี่รู้สึกว่าเราโอเคขึ้นอะ ดวงดีขึ้น ทุกอย่างดีขึ้นหมด แต่ตอนแรกไม่ได้คิดว่ามันจะดี คิดว่าโอเคเราคบกันเป็นพี่เป็นน้อง แล้วค่อยมาเป็นแฟนกัน ทุกอย่างมันก็แฮปปี้ เอมี่ก็รู้สึกว่า การเข้าใจกันการเทคแคร์ การพูดคุย การดูแลเอาใจใส่เขามีมากกว่า”

หนูอยู่กับทอมทั้งหมดกี่ปี?

“5 ปีค่ะ เสียดายมากค่ะ แต่พอมันไปต่อไม่ไหวมันก็ต้องแยกกันอะค่ะ”

คบมา 5 ปีมีข่าวโด่งดัง ล่าสุดว่าเลิกกัน ตกลงมันคือยังไงถึงต้องใช้คำว่าเลิกกัน?

“เลิกกัน คือ เอมมี่ก็บอกตรงๆ ว่าพยายาม (อย่าบอกว่ากลับไปหาดี้) อันนี้บอกตรงๆ คือเอมมี่ไม่รู้เลย คือไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเขามีคนอื่นหรือเปล่า แต่ที่เลิกกันมันเกี่ยวกับเรื่องในครอบครัวมากกว่า แล้วก็ที่สำคัญคือ เค้าอาจจะเบื่อหรือเปล่า เอมมี่ก็ไม่แน่ใจ เขายังเด็กอะค่ะ เอมมี่ 33 เขาก็ประมาณ 22 ห่างกัน 10 ปี ประมาณนี้ค่ะ”

แต่ในความรู้สึกของอาจารย์ยิ่งศักดิ์ที่รู้จักหนูมานานหลายปีนะ สงสารหนูนะ?

“หนูก็สงสารตัวเองเหมือนกันค่ะอาจารย์”

เลิกกันมานานหรือยัง?

“3 เดือนแล้วค่ะ (ร้องไห้)”

หนูยังคิดถึงเขาใช่ไหม?

“ทุกวันนี้เจอกันค่ะ เพราะว่าเราต้องทำงานด้วยกัน แต่มันแค่ไม่เหมือนเดิม”

เหตุผลที่ต้องเลิกกันมันคืออะไร?

“คือเอมมี่คิดว่าด้วยระยะเวลามันนานด้วยค่ะ แล้วก็ปัญหาครอบครัว”

ครอบครัวเขาหรือครอบครัวเรา?

“คือจะแบบว่า เมื่อก่อนเราไม่เคยมีเงินเยอะแบบนี้ค่ะ เราก็เริ่มทำงานด้วยตัวเอง อาจจะเจอโอกาสที่ดีกว่าคนอื่น คือพ่อแม่พี่น้องเราก็ไม่ค่อยได้มีเงิน แต่ว่าพอวันนึงเรามี เราก็อยากเอาพ่อแม่เรามาอยู่บ้าน เขาอาจจะไม่ชอบว่าคนมันเยอะ (ขาดความเป็นตัวเอง)”

แล้วตอนนี้สภาพจิตใตของหนูเป็นยังไง หนูสตรองขึ้นมานิดนึงไหม?

“ก็เพิ่งมาร้องไห้กับอาจารย์ ปกติหนูก็สตรองตลอดค่ะ จริงๆ ปกติหนูสตรองมาก แต่เห็นหน้าอาจารย์หนูก็จะร้องไห้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร (หัวเราะ)”

ถามหน่อยสิ มันเกิดจากอะไร เกิดจากการไม่มีเวลาให้กันเพราะหนูมัวแต่ยุ่งกับครอบครัว?

“ตอนนี้สำคัญมากค่ะ คือพักหลังเอมมี่ทำงานเยอะมาก คือเรารู้สึกว่าความจนมันน่ากลัวสำหรับเรา เพราะว่าเราเคยจนมาก่อน ตอนนี้ก็เพิ่งจะ 30 กว่า เราก็อยากทำงานให้เยอะที่สุด เพื่อวันนึงมันไม่มีงานเข้ามา หรือว่าธุรกิจที่เราทำมามันไม่ดี มันเจ๊ง หรือมันไม่โอเค เราจะได้ไม่ต้องมาเสียใจว่า ทำไมเมื่อก่อนฉันไม่ทำให้ดีที่สุด ก็เลยมองข้ามคนใกล้ชิดเรา เราไม่ดูแลเขาให้ดีเหมือนเดิม ไม่เทคแคร์เขาดีเหมือนเดิม อะไรแบบนี้ค่ะ”

หนูคิดว่าเขาเป็นของตาย ยังไงเขาก็เป็นสามี?

“ก็คือ ใช่ค่ะ คือเราหาเราก็ได้ด้วยกัน ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างหาอะไรแบบนี้ มันเป็นธุรกิจที่เราทำร่วมกันมา”

ใครเป็นฝ่ายบอกเลิกใคร?

“เขาค่ะ เขาบอกเลิกเอมมี่”

เอมมี่ เธอถูกผู้ชายก็เท ทอมก็เท ตายแล้วเธอเป็นกะเทยแบบไหน?

“ค่ะ ตอนนี้ก็มานั่งคิดว่า สิ่งที่เราคิดว่ามันใช่ ทำไมมันไม่ใช่อะไรแบบนี้ค่ะ”

เขาบอกต่อหน้าเลยไหม?

“ก็ต่อหน้าเลยค่ะ”

คือยังไงนั่งกินข้าวด้วยกันก็หันมาบอก เลิกกันนะ อะไรยังงี้หรอ?

“มันเริ่มจากการลบรูปในไอจีก่อน เราตกใจมากตอนนั้นเรานอนอยู่ ก็มีพี่ที่สนิทกันโทรมาบอกว่าทำไมรูปในไอจีหายไปหมดเลย ตกใจมาก เราก็ยังอยู่ด้วยกัน นอนด้วยกัน แต่ว่าพอตื่นเช้ามารูปเราหาย คือ หายเกลี้ยงเลย เขาลบรูปเอมมี่ออกหมดเลยทั้งไอจีอะค่ะ (เหลือแต่รูปเขา?) ไม่มีรูปอะไรเลย เขาก็ขึ้นข้อความ อยากเป็นตัวเองประมาณนี้ เราก็ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไร”

มีทะเลาะเบาะแว้งกันไหมก่อนหน้านั้น?

“คือมันมีมาเรื่อยๆ คือเขาก็บอกว่าเราไม่เหมือนเดิม เราไม่ค่อยสนใจเขาเหมือนเดิม เอมมี่ก็บอกว่าที่ไม่สนใจเหมือนเดิม เธอก็เห็นว่าตอนนี้งานมันเยอะมาก คืองานที่เราทำมันเยอะมาก เราไม่ค่อยมีเวลา เวลานอนก็น้อยมาก พอเราเข้าบ้านคือเราเหนื่อยละ เราก็นอน เขาก็อาจจะไปฟิตเนส”

เธอเฉยชากับเขา ไม่ใส่ใจเขา ในฐานะที่เธอเป็นภรรยาหรือเปล่า?

“อาจจะค่ะ อาจจะด้วยค่ะ”

นิสัยกะเทยก็ออกจะไปแวบๆ กับผู้ชาย หนูทำอย่างนั้นหรือเปล่า?

“ไม่เลยค่ะอาจารย์ คือเอาตรงๆ ว่าหนูมีเขาคือหนูพอละ คือมันเติมเต็มให้หนูที่สุดแล้วค่ะ เวลาจะออกไปข้างนอกก็ไปกับเขาเท่านั้น เอมี่ไม่เคยออกไปไหนคนเดียว นอกจากจะออกไปคุยงานกับลูกค้าหรือไปคุยงานส่งของอะไร (เอาเขาไปตลอด) ตัวติดกันตลอดค่ะ”

เขาก็คงหมดอิสรภาพ เขาก็คงอึดอัดสิ เธอเอาเขามาขังตั้ง 5 ปี?

“ด้วยๆ เขาก็เคยบอกอย่างบางทีเขาไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วเราก็ชอบห้ามเขา อย่าไปเลย คือเราเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ว่า เมื่อก่อนแฟนคนเก่าเราก็ไปเที่ยว เราก็ปล่อยให้ไปสุดท้ายก็ไปเจอคนอื่นในที่เที่ยว แล้วก็เป็นประเด็นที่ทำให้เราต้องเลิกกัน เราเคยเจอมาเราก็เลยไม่อยากให้เขาไป แต่สุดท้ายเขาก็ต้องไปเพราะเขาจะไป เราก็ให้เขาไปค่ะ”

ข่าวว่าเขาขนข้าวขนของออกจากบ้านไปหมดเลยหรอ?

“วันนั้นที่ลบรูป ก็วันนั้นเลยค่ะ”

ขนต่อหน้าต่อตาเธอเลยหรอ?

“ใช่ค่ะ คือเราก็มั่นใจในตัวเองว่าเราก็ทำดีที่สุดแล้วนะ คือเราก็รั้งเขาที่สุดแล้ว สุดท้ายคนจะไม่อยู่อะ เราก็รั้งไม่ได้อะค่ะอาจารย์”

อันนี้ 5 ปีถือเป็นครั้งแรกไหม ที่มีการเก็บข้าวเก็บของเหวี่ยงกันขนาดนี้?

“ครั้งแรก คือปกติเราอยู่ เราก็จะอยู่คอนโด เก็บของออกไปเป็นเรื่องเล็กมาก แต่นี่คือบ้านเราก็สร้างด้วยกันทุกอย่าง คือเราทำมาด้วยกันหมดค่ะ”

ได้ข่าวว่าบ้านของเธอหลังตั้งสิบล้าน?

“ก็แพงอยู่ค่ะอาจารย์ แต่ว่าก็ทำมาด้วยกัน”

เขายังคิดถึงความเป็นส่วนตัวอีกหรอ?

“นั่นสิคะ เอมมี่ก็คิดว่าบางทีเอมมี่ว่าความสะดวกสะบาย ความร่ำรวย จริงๆ มันอาจจะไม่ใช่แบบความสุขที่แท้จริงก็ได้ มันอาจจะแค่ภาพลวงตาที่เราปรุงแต่งขึ้นมา ความสุขที่แท้จริงคืออะไร ทุกวันนี้เอมมี่ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้”

เอมมี่ ต้องใช้อะไรล่ะถึงจะเอามัดคนน่ะ?

“สงสัยต้องหาที่ลงของใหม่มั้งคะ (หัวเราะ) ต้องหาวัดดังๆ ลงของแล้วมั้งคะอาจารย์ ต้องเล่นไสยศาตร์แล้วค่ะ ก็เลยกลายเป็นกลัวไปเลยตอนนี้ ก็ไม่กล้าไปคบใครตอนนี้”

เอมมี่ประสาทเสียเลยใช่ไหมเนี่ย เสียเซลฟ์?

“เสียเซลฟ์มาก เกือบจะเป็นประสาท ก็นิดนึงเพราะเรามาคิดมากไงคะ คือเราคิดไม่ออกคนเคยคบกันอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน บทจะไปทำไมมันง่ายอย่างนี้ ไม่เคยคิดว่าจะเป็นแบบนี้ ไม่เคยคิดเลย และเรามั่นใจในตัวเราเองมากว่าวันนี้มันจะไม่มาถึง เพราะเรามั่นใจในตัวเรามากว่า ฉันทำดีที่สุดแล้ว (ประมาท) ประมาท ใช่ค่ะ”

สิ่งที่คาดหวัง ก็ยังผิดหวัง รู้สึกยังไงเอมมี่?

“หนูรู้สึกว่า คือตอนนี้เราจะไปคาดหวังอะไรกับคนอื่นไม่ได้ละ เราต้องดูที่ตัวเราแล้วเพราะว่าทุกอย่างคือเราตั้งความหวังไว้สูง อยากให้เป็นแบบนี้ๆ จะคบกันนานแบบนี้ จะต้องทำแบบนี้คือวางสเตปไว้หมด คือมันไม่ใช่แล้ว เราก็ต้องมาดูที่ตัวเราก่อนว่าเราจะต้องทำยังไง ให้เราโอเคก่อน แล้วอย่าเพิ่งมองถึงคนอื่น เพราะตอนนี้เรามองถึงคนอื่นมากเกินไป รักคนอื่นมากไป หนูเป็นคนรักใครแล้วรักมาก”

แต่ตอนนี้กลับมารักตัวเองหรือยัง?

“มากค่ะ ก็รักตัวเองมากเหมือนกัน”

แล้วตอนนี้หนูมีสติหรือยัง?

“เริ่มมีแล้วค่ะ 3 เดือนเริ่มมีแล้วค่ะ”

มีคนแว่วๆ มาว่า โดนมือที่สามเสี้ยมจนความรักของหนูพังทลาย?

“มือที่สามในที่นี้ ถ้าเกิดว่าเป็นผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตเอมมี่ เอมมี่คิดว่า ยังคนนี้ที่อยู่ในรูปเนี่ย คนนี้เป็นเพื่อนเขาชื่อ โฟม นะคะ เป็นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันกับเขาตั้งแต่สมัยม.4-6 อ่ะ เอมมี่ก็รู้จักคนนี้ ไม่น่าจะใช่อะค่ะ และเอมมี่ก็ไม่รู้เลยว่าเป็นใคร ทุกวันนี้ก็ไม่รู้หรือเขาอาจจะไม่มีก็ได้ เราก็ยังไม่รู้ค่ะ เราไม่รู้จริงๆ เลย”

แล้วการที่จู่ๆ เขาก็ลบรูปเธอออกจากไอจีเกลี้ยงเลย ทั้งๆ ที่ยังอยู่กับเธอมันคืออะไรอะ?

“เป็นเหตุผลที่ถามทุกวันนี้ เขาก็ให้คำตอบเราไม่ได้ค่ะ”

คือเขาต้องการลบเมมโมรี่เหรอ จะได้ไม่ต้องคิดถึงเธออีกทุกครั้งที่หยิบโทรศัพท์เหรอ หรือโทรศัพท์เขามีคนไปเปิดดูแล้วไม่ต้องการเห็นรูปเธอ?

“ไม่รู้อะ ไม่รู้เลย ใช่ไหมคะ เราก็ไม่แน่ใจหรือจะใช่ อันนี้คือบอกตรงๆ เอมมี่ไม่รู้ ทุกวันนี้เอมมี่ถามเขา เขาก็ให้คำตอบเอมมี่ไม่กระจ่าง เอมมี่ก็ไม่รู้จริงๆ เขาแค่บอกว่าอยากเป็นตัวเองแค่นั้น เราก็คิดว่าเมื่อก่อนอยู่กับเราคงไม่ได้เป็นตัวเอง ก็ให้สิทธิ์เขา”

แล้วหนูถามไหม?

“ถามค่ะ (ทำไมเธอลบรูปฉัน) ถามค่ะ เขาก็ตอบว่า เขาอยากเป็นตัวเอง เราก็ต้องให้สิทธิ์เขา เพราะเขาตัดสินใจแล้วจะมาลงใหม่มันก็ไม่ได้แล้วค่ะ รูปตั้ง 4 ปี มันนานมาก มันมีแต่รูปที่ความทรงจำดีๆ ทั้งนั้น เขาไม่อยากเก็บไว้ ก็ต้องเป็นสิทธิ์ของเขา”

ส่วนใหญ่เดี๊ยนว่านะ คนที่ลบอดีตคือคนที่ไม่ต้องการมีอนาคต?

“นั่นน่ะสิ คงใช่แล้วล่ะค่ะ”

แล้วเธอยังไม่รู้สึกอะไรอีกหรอ วันที่เขาลบรูป?

“รู้สึก วันนั้นรู้สึกมากค่ะอาจารย์ แต่มันทำอะไรไม่ได้ค่ะ ลบไปแล้ว พักหลังคือแทบจะไม่ได้จับโทรศัพท์เขาเลย เมื่อก่อนที่อยู่ด้วยกันก็ โทรศัพท์เธอก็คือโทรศัพท์ฉัน แต่ว่าหลังๆ ช่วงจะเลิกกัน หลังๆ เราก็ไม่ได้ยุ่งกัน เขาก็ไม่ได้ยุ่งของเรา”

ดูเหมือนมีสัญญาณห่างกันเรื่อยๆ?

“มันมีค่ะ เพียงแต่ว่าเราก็หลอกตัวเอง มันคงเป็นตามระยะเวลาตรงนั้นมากกว่า สุดท้ายก็เขาอีหรอบเดิมเหมือนทุกคนที่เคยเลิกมา มันก็เป็นอย่างนั้นค่ะ”

เอมี่เธอไม่คิดเหรอว่า เขาเริ่มซุกกิ๊กหรือเปล่า?

“คือหลังๆ อย่างที่บอกเอมมี่ทำงานเยอะมาก แทบจะไม่มีเวลาอยู่กับเขาเลย พอเราทำงานกลางวันบ่ายสามเนี่ยเขาต้องไปออกกำลังกายละ หลังๆ เขาจะไปฟิตเนสไงคะ แล้วก็เขาเข้าบ้านประมาณสองทุ่ม เขาคงไปกินข้าวต่ออะไรแบบนี้ค่ะ (เขาไม่กลับมากินกับเมียหรอ) ไม่รู้ เขาคงหิวเลยค่ะ คงไปกินเลย”

แล้วตอนก่อนกินด้วยกันทุกวันหรือเปล่าล่ะ?

“ทุกวัน”

อ้าวแล้วเธอก็ต้องนั่งกินข้าวรอผัวไปฟิตเนสอย่างนั้นเหรอ?

“ก็มีบ้างค่ะ ออกไปกินข้างนอกบ้างค่ะ”

เขาได้ใครที่แถวฟิตเนสหรือเปล่านะ?

“ต้องให้คนช่วยสืบแล้วค่ะ”

ได้ข่าวว่าเลิกกันแล้วก็ยังทำงานด้วยกันอยู่ทุกวี่ทุกวัน?

“คือมันเป็นงานที่เราแบบ ทำด้วยกันมาตั้งแต่แรก (จดทะเบียนบริษัทด้วยกัน) มันไม่สามารถที่จะต้องตัดออกได้ คือมันไม่ใช่งานของเราแล้วดึงเขาเข้ามา แต่ว่าตอนนี้มันคืองานที่เราเริ่มด้วยกันมาตั้งแต่แรก ซึ่งมันไม่สามารถตัดออกได้ มันจะเป็นการเห็นแก่ตัวมากเกินไป”

ก็ซื้อหุ้นกลับมาสิคะ แล้วก็บอกว่าไป ออกไปเหอะ

“มันก็ไม่ได้ค่ะ (หรือถ่ายหุ้นให้เขาไปแล้วเราก็ไปทำใหม่) มันก็ไม่ได้อีกค่ะ เพราะว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นตัวเรามากกว่า เราก็ต้องเน้นตัวเราก่อน”

แล้วเจอกันทุกวันๆ ไม่รู้สึกโหวงเหวงหรืออะไร ไม่เป็นเหรอ?

“ตอนนี้คือบอกตรงๆ ว่าเริ่มชินแล้ว มันก็อยู่ได้ มันก็โอเค”

แต่ก่อนที่จะมาพูดเก่งๆ แบบนี้ ร้องไห้มากี่วัน ตอนเลิกกัน?

“บอกตรงๆ เอมมี่ร้องไห้แค่ 2 วัน คือวันแรกกับวันที่สองแค่นั้นเอง แล้วเอมมี่ก็ไม่ร้องอีกเลย จนมาร้องวันนี้วันที่สาม”

แล้วทำไมเธอตัดใจไม่ร้องไห้ แค่ 2 วันเท่านั้น มันเป็นไปได้ไง?

“แต่ 2 วันนี่คือร้องหนักมากเลยนะคะอาจารย์ หนักแบบว่าหนักมาก แต่พอมันจะร้องอีกมันก็ร้องไม่ได้แล้วมันเคยร้องหนักไปแล้ว อย่างวันนี้ร้องอีกก็ครั้งที่สามแค่นั้นเอง”

เขาว่าเธอแกล้งทำเป็นเลิกกับผัวทอม ทอมก็แกล้งทำเป็นเลิกกับเธอ สร้างกระแสให้ตัวเอง จริงหรือเปล่า?

“ไม่ คือบอกตรงๆ ว่าพักหลังเอมมี่แทบจะเฟดตัวเองออก จริงๆ มีงานติดต่อเข้ามาเยอะนะคะในวงการ เป็นพิธีกร เป็นนู่นเป็นนี่ แต่ว่าพักหลังเราให้ความสำคัญกับงานหลักของเรามากกว่า เพราะว่างานในวงการมี่รู้ตัวเลยว่าเราไม่ได้เงินเยอะจากตรงนั้น แต่ว่าทำไปเพราะเมื่อก่อนอยากมีชื่อเสียง แต่ว่าตอนนี้คือเรามีงานประจำแล้ว อย่างพี่ๆ นักข่าวที่สนิทกันชวนไปงานนู้นงานนี้ ออกงาน เรายังปฏิเสธ”

สรุปแล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง หนูไม่ได้กำลังสร้างเรื่องให้มีกระแส?

“จริงค่ะ ไม่ค่ะๆ”

ก็ต้องเรียกได้ว่า เอมมี่ รัชฎา โสดสนิทใช่ไหม?

“โสดค่ะ โสดมากค่ะ โสดจริงๆ”

ตกลงครั้งต่อไปจะเอาผู้ชายก็ได้ เอาทอมก็ได้?

“อันนี้บอกตรงๆ ตอนนี้คือผู้ชายคือพักก่อน ก็คือไม่เอาผู้ชายแล้ว”

เธอจะเอาทอมตลอดไปเลยเหรอ?

“ไม่รู้ ตอนนี้หนูมองผู้ชายหนูเฉยๆ มาก (หนูติดทอมแล้วเหรอ) ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น กลายเป็นแบบชอบทอมไปแล้วอะ คือเราไม่ชอบผู้ชายเลยอะ ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะอาจารย์”

แล้วเธอไม่กลัวเหรอ ทอมเทกระจาดอีก?

“แต่ก็มีผู้ชายมาจีบอยู่นะ แต่ว่าเราก็แบบคือเราไม่ชอบ มันก็ไม่ชอบ”

เธอไม่เวียนหัวบ้างเหรอคะ แม่สับสนอลหม่านไปหมดเลยค่ะ?

“เขาก็น่ารักนะ เขาก็มีโมเมนต์แบบถ้าใครไม่เคยคบเขาก็จะไม่รู้ เขาก็น่ารักในแบบของเขา”

อย่างทอมเขาก็ทำอะไรแบบผู้ชายไม่ได้ ขอโทษนะคะ แล้วหนูจะสนุกตรงไหน?

“ตัดประเด็นถ้าเป็นเรื่องเซ็กซ์นะ คือบอกตรงๆ ว่ากะเทยใช่ไหมคะ เวลาแปลงเพศเนี่ย หมอเขาตัดไอลูกอัณฑะออกเนี่ย ความต้องการทางเพศมันก็จะต่ำลง คือเรื่องเซ็กซ์บางทีเราก็ไม่ชอบอะ”

คือความต้องการทางเพศหนูหายไปหรอ?

“คือมันไม่เหมือนเมื่อก่อนตอนที่เรายังไม่ได้แปลงไงคะ เมื่อก่อนอารมณ์มันก็จะมีเยอะกว่า แต่พอเราแปลงแล้วอารมณ์มันก็ซอฟต์ลง ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ”

อย่างหนูเนี่ย เขาทำให้หนูมีความสุขได้เป็นแบบไหนคะ?

“คืออย่างหนูคือ ตอนนี้เราก็เข้าเลข 3 ละ เราก็มีความรู้สึกว่าอยากมีคนที่มาเทคแคร์เรา ให้ความรู้สึกที่ดีๆ (พะเน้าพะนอ) ประมาณนั้นค่ะ”

คือความเสียวแบบความต้องการทางเพศไม่มี แต่เราอยากมีความสุขแค่นี้?

“แค่นั้นพอ คือเมื่อก่อนเราก็ โอ้โห ผู้ชายเราก็มีแฟนมากี่คนแล้วก็แบบเต็มที่ตรงนั้นมาแล้ว”

กว่ากะเทยจะสวยได้ ผ่านมีดผ่านหมอมา ของหนูทำมาเยอะไหมคะ?

“ถ้านับครั้งมันคงจะไม่ถ้วนค่ะ คือเป็นคนที่ทำมาตั้งแต่สมัยเรียน ม.5-6 แต่ว่าอาจจะเกิดเป็นกะเทยที่โชคร้ายนิดนึง ในกะเทยเมื่อยุคก่อน มันจะมีพวกซิลิโคน เอามาฉีดกัน พวกน้ำมัน”

ประมาณกี่บาทคะ กว่าจะสวยอย่างนี้?

“ความสวยในระดับนึงเนี่ย เป็นคนโชคดีมาก ศัลยกรรมไม่เสียตังค์ เราศัลยกรรมไม่เสียตังค์เลย เราไปรู้จักคลินิกที่นึงแล้วคุณหมอเขาน่ารักมาก เขาก็ทำให้เราฟรีมาตลอด แล้วเราก็พรีเซนต์ให้เขาอะไรแบบนี้ ทุกวันนี้ก็ทำฟรีได้ แต่ว่าเราก็ไม่ค่อยได้ไปแล้ว เพราะว่าเราไม่ค่อยมีเวลาไปทำค่ะ”

เล่าได้ไหมคะ ว่าเริ่มต้นไปทำอะไรมาบ้าง?

“ก็ครั้งแรกเนี่ย ตอนหัวโปกใช่ไหมคะ เราก็เริ่มรู้จักพี่เลี้ยงกะเทยคนนึง เขาเป็นคนส่งนางงาม เราก็เลยแบบว่าคืออยากหาตังค์อ่ะ ก็เลยลองไปประกวดดู ตอนนั้นหน้าไม่มีอะไรเลยก็ไปประกวด แล้วมันได้ที่ 1 เฉยเลย พอได้ปุ๊บก็เฮ้ย ฉันต้องเป็นกะเทยเหรอเนี่ย

แต่ก่อนคือเป็นเกย์ คือฉันจะเป็นเกย์ ฉันไม่อยากเป็นกะเทย ฉันเห็นกะเทยแล้วฉันกลัว เพื่อนที่เรียนด้วยกันแล้วแต่งหน้าไปเรียน เพื่อนผู้ชายก็ล้อว่า กะเทย ตุ๊ด เราก็แบบว่าพยายามจะไม่ให้โดนล้อ คือเราก็อายอะ แต่พอประกวดแล้วมันได้เงิน ฉันชอบแบบนี้ว่ะ ฉันเป็นกะเทยดีกว่า เราก็เป็นมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วนะ เพียงแต่ว่าเรายังไม่ออกมาก แต่คราวนี้พอมันได้เงิน ฉันออกเลยดีว่า”

แล้วตอนเป็นพ่อแม่ก็รู้หมดใช่ไหม?

“แอบอยู่ค่ะ พ่อแม่ก็รู้ว่าเป็น แต่ไม่ถึงขั้นแต่งหญิง ก็ต้องแอบอะค่ะ แล้วก็พี่เลี้ยงตอนนั้น ไปฉีดนี่สิ เธอต้องมีตรงนี้ต้องมีตรงนั้นนะ เราก็แบบว่าก็ต้องลองทำดู เราก็ไม่รู้ก็มาฉีด ฉีดจมูก ฉีดคาง ฉีดทุกอย่าง แรกๆ มันก็ดูดี”

แล้วกลับไปบ้านพ่อแม่เธอไม่สงสัยหรอ?

“เขาก็รู้ ก็บอกว่าไปทำมาเพื่อประกวด แล้วก็เริ่มออกสาวแล้วค่ะ เริ่มหาวิกมาใส่ พออายุ 18 ซิลิโคนที่ฉีดเข้าไปมันเริ่มทำพิษละ เมื่อก่อนฉีดจมูกเท่าไร 500 ฉีดคาง 500 ฉีด 500 นี่คือแถมลูกส้มให้อีกสองลูกด้วยนะคะอาจารย์ พอ 18 ปีเท่านั้น ซิลิโคนเริ่มไม่รักดีละ มันก็เริ่มบวม เริ่มไหล เริ่มย้อย คางที่เคยฉีดมาสวย เฮ้ยมันเริ่มยาวมากเลยอ่ะ ก็ตกใจทำไมมันยาวได้ขนาดนี้

การผ่าตัดครั้งแรกเลยคือผ่าตัดคางออก ทุกวันนี้รอยก็ยังมี เพราะว่าเราไม่สามารถกรีดด้านในได้ เพราะกลัวติดเชื้อแล้วคลินิกที่ไปทำก็อาจจะไม่ได้ไฮโซมาก เป็นคลินิกอยู่ต่างจังหวัด อยู่ขอนแก่น ก็เลยไปกรีดคางออก แต่โชคดีมากที่ สิบคนเนี่ยจะมีคนที่โชคดีประมาณสองคน นอกนั้นมันก็จะเป็นพังผืด ยิ้มเบี้ยว คางเบี้ยวอะไรอย่างงี้ แล้วเข้าก็เลาะออกคือเลาะออกได้เกือบหมด

ทุกวันนี้ก็ไม่กล้าไปยุ่งอะไรกับคางเลย แล้วก็ครั้งที่สองเนี่ย ก็เริ่มเลาะจมูกออกเพราะว่าอันที่ฉีดมันเป็นแบบตะปุ่มตะป่ำมันบวมมันปูด ก็ต้องไปเลาะ พอเลาะปุ๊บเนี่ยก็ต้องใส่แท่ง แท่งแรกใหญ่ไป ผ่านมาอีก 4-5 ปี เปลี่ยนแท่งที่สอง แท่งที่สามก็เพิ่งเปลี่ยนไปประมาณ 2 เดือนที่แล้วค่ะ”

นี่เพิ่งทำมา 2 เดือน?

“2 เดือนค่ะ ครั้งที่สามสุดท้ายนี่คือ อยากให้คุณหมอโอเพ่นโดยการเปิดเพื่อให้มันเห็นโครงสร้างจมูก ได้เลาะอันเก่าออก คือเราไม่ได้ต้องการให้มันสวยขึ้น แต่อยากให้ของที่มันค้างๆ อยู่ข้างไหน ออกไปให้หมด”

เอาของรุ่นใหม่ให้มันดี?

“ใช่”

แต่หนูก็เป็นคนที่โชคดีมากเลยนะคะ ที่ศัลยกรรมไม่ทำพิษ?

“ค่ะ แล้วก็ทำตา ทำจมูก ปากไม่ได้ทำ แล้วก็เลาะแก้ม เลาะคาง เลาะหน้าผาก”

ปากหนูสวย หนูไม่ได้ทำเลยหรอ?

“ปากไม่ได้ทำค่ะ”

ฟันหนูก็ไม่ได้ดัด ?

“ฟัน ครอบค่ะ ครอบแบบว่าเหลาเป็นซี่เล็กๆ แล้วก็ครอบทีละซี่ (ครอบเข้าไปจากฟันเดิม?) ใช่ค่ะ”

ฟันเก่าหนูทุเรศมากเลยเหรอ?

“แต่เมื่อก่อนคือ สมัยก่อนตอนประกวดนางงามคือไม่มีตังค์ใช่ไหมคะ เพื่อนก็ไปแนะนำให้แบบแปะ แปะปุ๊บเนี่ยอยู่ได้ประมาณ 5-6 ปี คือพูดเฉยๆ อยู่ดีๆ เลือดไหลออกจากปาก คือจนมันเหงือกเน่า ถ้าเกิดตอนนั้นไม่มีตังค์จะเกิดอะไรขึ้น มาเหงือกเน่าตอนเรามีเงินพอดี แล้วเราก็เลยได้ไปหาคุณหมอ คุณหมอก็เลยเลาะฟันออกหมด แล้วก็เหลาให้เหลือเท่าไม้จิ้มฟันทุกซี่เลยค่ะ แล้วก็ค่อยๆ ครอบที่ละซี่ไม่งั้นอยู่ไม่ได้”

ฟันเธอนี่ปลอมหมดเลย มีแค่แกนจริงอยู่ข้างในหรอ?

“ใช่ค่ะ แกนจริงอยู่ข้างใน ทุกอย่างคือปลอมหมดเลย”

แล้วพอเวลาเธอจูบกัน ลิ้นพันกัน ฟันไม่หลุดหรอ?

“ไม่ คือ (หัวเราะ) วิวัฒนาการที่มันทันสมัยแล้ว ดาราฮอลลีวูดก็ทำ เป็นการครอบทีละซี่ ปัจจุบันนี้ดาราก็ต้องทำอ่ะ ต้องทำเกือบทุกคนเพราะว่าฟันสวย”

แล้วหน้าอกหน้าใจหนูใส่มากี่ครั้ง?

“คือหน้าอกหนูเป็นอะไรที่พลาดมาก คือเมื่อก่อน เราก็แอ๊บนี เราอยากเหมือนผู้หญิง คุณหมอคะเอาไซส์ผู้หญิงค่ะ แล้วก็ทำมาเล็กมาก คือถ้าแบบเพื่อนทุกคนเห็นคือบอกว่านี่มันนมยาคุมหรือเปล่า เพราะมันเล็กมาก อันนี้ผ่านมาเป็นเวลา 10 ปีละ ถึงเวลาที่ต้องเอาออก เพราะมันมีอายุของมัน”

นมหนูจะเน่าแล้วหรอ?

“ยังค่ะ คือจะแบบว่ามันถึงเวลาของมัน”

มันเป็นยังไงคะอาการเป็นยังไง?

“มันปกติมาก เพียงแต่ว่าเราเคยได้ยินมา ถ้ามัน 10 ปีเราก็ต้องเปลี่ยนถุงหน่อยนะ แต่ว่าทุกอย่างคือเหมือนเดิมหมด เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

สามีหนูเททิ้งเพราะหนูนมแบนหรือเปล่า?

“คือเอาจริงๆ นะ ผู้ชายหรือใครก็แล้วแต่ หรือทอมก็แล้วแต่ เฮ้ย ไม่ชอบเลยอ่ะ นมใหญ่มันแบบ สุดท้ายก็เห็นไปนั่งดูรูปนมใหญ่เหมือนเดิม เราก็เลย เอ๊ะ มันชอบหรือมันไม่ชอบ”

เที่ยวนี้หนูกะใส่ไหม?

“500 cc ค่ะ เต็มที่เลยรอบนี้ คิดไว้แล้วจะทำ 500 แน่รอบนี้”

แล้วข้างล่าง หนูไปทำน้องสาวมาได้ยังไง

“ข้างล่าง อย่างที่บอกอาจารย์ว่าหนูโชคดีมาก แปลงเพศกับทำนมหนูทำฟรี โดยที่เราต้องไปทำงานใช้หนี้เขา แต่ดีค่ะ โอเค คือเราเป็นคนเลือกคุณหมอที่กะเทยหลายคนอยากจะทำ”

ก่อนจะทำต้องเปิดแคตตาล็อกดูไหมคะ ว่าอยากได้แบบไหน?

“ความนูนใหญ่ เอมมี่ว่า มันอยู่ที่อวัยวะเพศของผู้ชายของเรานะคะ”

แล้วของเธอทำแบบนูนใหญ่มาหรอ?

“มันก็นูนอยู่นะ (หัวเราะ)”

แสดงว่าของเดิมของเธอ ตรงนั้นก็ใหญ่เบ้อเร่อเลยสิ?

“ก็ได้อยู่ (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้ว่าใหญ่มาก ก็โอเคอะ ก็ถือว่าโอเค”

หนูขา หนูไม่เสียดายของๆ หนูเหรอคะ เดี๋ยวนี้กะเทยจำนวนมากเขาใส่แต่ข้างบน ข้างล่างก็คงเอาไว้อยู่

“คือเมื่อก่อนนี้ เอมมี่เคยเห็นเพื่อนเขาทำ ทำข้างบนแล้วข้างล่างเขาไม่มี เฮ้ย มันขัดๆ นิดนึงอ่ะ เราก็อยากให้เป็นก็เป็นให้สุด ก็เอาออกไปเลย ดีกว่ามานั่งแต๊บนั่งดึงอะไรแบบนี้ค่ะ ก็เลยเอาออกดีว่า”

ถ้าเกิดย้อนเวลากลับไปได้ หนูคิดว่าหนูน่าจะเก็บงูไว้ไหมคะ?

“ถ้าย้อนไปได้หรอ คือถ้าหนูตอบลังเลแบบนี้อาจจะเก็บก็ได้ หรือเปล่าไม่รู้ ไม่รู้อ่ะ ถ้าย้อนไปได้อาจจะไม่เก็บก็ได้ค่ะ อาจจะเก็บก็ได้ (หัวเราะ)”

ถ้าสมมติมีใครสักคนนึงอยากจะทำสวย วันนี้ต้องตั้งงบเท่าไรคะ ถึงจะสวยได้อย่างเอมี่ค่ะ?

“จริงๆ แล้วเอมมี่คิดว่า ศัลยกรรมเนี่ย คือมันก็มีข้อดีตรงที่สามารถทำให้เรารู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น แต่คราวนี้อยู่ที่ว่าเราต้องเลือกทำในที่ที่มันถูกวิธีหรือเปล่า คุณหมอโอเคไหม

เรื่องเงินทุกคนหาได้อยู่แล้ว แต่ว่าเราต้องดูปริมาณที่ราคาแค่นี้ ทำแบบนี้มันโอเคไหม เหมาะสมหรือเปล่า หมอดีหรือเปล่า เคยมีประวัติไม่โอเคหรือเปล่า เราก็ต้องเช็กให้ดีค่ะ”

ตอนนี้หนูลุกขึ้นมาใส่ใจตัวเอง รักตัวเองมากขึ้น มีเวลาเหลือให้กับตัวเอง เริ่มทำตรงนู้นทำตรงนี้ หนูประชดรักหรือเปล่าคะ?

“บอกตรงๆ ว่า เมื่อก่อนเอมมี่แทบจะไม่ได้ดูแลเลย แฟนก็มีแล้ว ไปทำงานก็คือแบบแต่งรีบๆ แล้วก็แบบแต่งตัวธรรมดาไม่ต้องแบบเว่อร์มาก แต่ว่าทุกวันนี้ พอเราไม่มีใครแล้ว เราก็ต้องรักตัวเอง ดูแลตัวเองให้มันดี ต้องเนี้ยบ ต้องดีอะค่ะ ปกติไม่ค่อยแต่งอย่างนี้นะคะ”

มีข่าวบอกว่าหนูอาจจะทำหน้าใหม่หมดเลยทั้งหน้า?

“คือเคยคิดว่า คือเห็นรายการดังๆ เขาทำกัน เปลี่ยนหน้า เราก็แบบ เฮ้ย เราก็อยากลอง แต่เราก็ต้องชั่งใจว่ามันจะออกมาดีก็ได้ แย่ลงก็ได้ เราก็ต้องมีความชั่งใจ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็คืออยากทำเหมือนกันค่ะ”

จริงหรอ ถ้าหนูอยากทำ หนูอยากให้หน้าหนูเปลี่ยนไปแบบไหน?

“ก็อยากเปลี่ยนให้ดูเป็นคนละคนเลย”

วันนี้มีความสุขกับชีวิตไหมคะ หลังจากเลิกกันไปแล้ว?

“มีความสุขในแบบที่เรายังไม่เคยเจอใช่ไหมคะ แล้วก็แฮปปี้ เต็มที่กับชีวิต ดูแลครอบครัวแบบเต็มที่ค่ะ ก็มีความสุขค่ะ”

เรื่องน่าสนใจ