แพทย์เตือนหนุ่มสาวกิมจิฮิต “ตัดกราม” ทำหน้าเรียว อาจเสียวไปทั้งชีวิต!

SKOREA-HEALTH-COSMETIC-SURGERY

ความ คลั่งไคล้ “ศัลยกรรมพลาสติก” ในสังคมเกาหลีใต้เริ่มวิวัฒนาการจากการเสริมความงามพื้นๆอย่างการทำตา 2 ชั้น หรือเสริมจมูกไปสู่การปรับเปลี่ยนรูปหน้าซึ่งต้องอาศัยเทคนิคการผ่าตัดที่ ซับซ้อน อีกทั้งคนไข้ก็ต้องยอมเสี่ยงกับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ และอาจต้องทนทรมานอยู่นานหลายเดือนกว่าบาดแผลจะหายสนิท

ภาพดาราหนุ่มสาวในสื่อโฆษณาเกาหลีใต้คือสิ่งสะท้อนอิทธิพลของ ศัลยกรรมพลาสติกซึ่งช่วย “สร้างชีวิตใหม่” ให้กับพวกเขา ความสวยไร้ที่ติที่ได้มาจากคมมีดหมอปรากฏให้เห็นอยู่ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นท้องถนน, ป้ายโฆษณาตามสถานีรถไฟใต้ดิน, นิตยสารบันเทิง หรือเว็บไซต์ชั้นนำต่างๆ

หนุ่มสาวแดนกิมจิคุ้นเคยกับการศัลยกรรมความงามยิ่งกว่าประเทศอื่นใด ในโลก ผู้ที่เข้ารับบริการส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 19-49 ปี และไม่นานมานี้ ภาพถ่ายของผู้สมัคร “มิสเกาหลี 2013” ก็เพิ่งจะสร้างกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์ เมื่อปรากฎว่าสาวงาม 20 คนมีใบหน้าราวกับออกมาจากพิมพ์เดียวกัน บางรายแทบจะแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร!

นิยามความสวยสำหรับผู้หญิงเอเชียตะวันออกส่วนใหญ่คือจมูกที่โด่งเป็น สัน ดวงตาคมกลมโต ส่วนใบหน้าก็ต้องเรียวสวยเป็นรูปตัววี ซึ่งนำมาสู่กระแสนิยมศัลยกรรมตบแต่งกราม หรือที่เรียกกันว่า double-jaw surgery

แต่เดิมนั้นการผ่าตัดกรามมิได้มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความสวยบนใบ หน้า แต่เป็นวิธีรักษาสำหรับผู้ที่เกิดมารูปหน้าผิดปกติจนใช้ฟันบดเคี้ยวอาหารได้ ยาก ศัลยแพทย์จะทำการจัดตำแหน่งกรามบนและกรามล่างเสียใหม่ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้สะดวกยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี ผลของการตัดแต่งกรามยังช่วยให้ผู้ป่วยมีใบหน้าที่เล็กเรียวขึ้น และสิ่งนี้เองที่นำมาสู่ความเฟื่องฟูของการทำศัลยกรรมตบแต่งกรามเพื่อความ งามโดยเฉพาะ

อาจารย์ ชอย จิน-ยัง จากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงโซล ระบุว่า การผ่าตัดกรามจะช่วยให้รูปหน้าของคนไข้เปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเทียบกับการ ฉีดโบทอกซ์หรือทำจมูกทั่วๆไป เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างกระดูกบนใบหน้าโดยสิ้นเชิง

“แต่การผ่าตัดลักษณะนี้มีความซับซ้อนและเสี่ยงอันตรายมาก… ผมรู้สึกขนลุกทุกครั้งที่เห็นคนไปตัดกรามทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องฟัน แต่เพื่อจะมีใบหน้าเรียวเล็กเท่านั้น”

การผ่าตัดกรามซึ่งต้องใช้ยาสลบและอาศัยเวลาพักฟื้นนานหลายเดือน อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น การชาบริเวณใบหน้าอย่างถาวร หรือแม้กระทั่งเป็นอัมพาต

ข้อมูลจากสมาคมศัลยแพทย์เพื่อการเสริมความงามนานาชาติ (International Society of Aesthetic Plastic Surgeons) ระบุว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ผู้หญิงทำศัลยกรรมพลาสติกมากที่สุดในโลก คือประมาณ 1 ใน 5 ของพลเมืองหญิงทั้งหมด ในขณะที่ผู้หญิงอเมริกันทำศัลยกรรมเพียงราวๆ 1 ใน 20 เท่านั้น

การแข่งขันที่สูงมากในธุรกิจศัลยกรรมทำให้แพทย์เกาหลีใต้บางรายเสนอ บริการเสริมความงามแบบแปลกๆ อย่างที่ไม่มีแพทย์คนอื่นกล้าทำมาก่อน

รายงานระบุว่า นักแสดงชาวเกาหลีใต้ไม่น้อยยอมรับเงินค่าจ้างตัดกรามจากศัลยแพทย์ หลังจากนั้นก็ออกมาเผยผ่านสื่อว่า การเจ็บตัวครั้งนี้คือ “จุดพลิกผัน” ที่ทำให้หน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัวรุ่งโรจน์

ปัจจุบันยังไม่มีสถิติอย่างเป็นทางการว่า เคยมีผู้เข้ารับการผ่าตัดกรามในเกาหลีใต้มากน้อยเท่าใด แต่เคยมีงานวิจัยประเมินว่า แต่ละปีมีคนผ่าตัดตบแต่งกรามในเกาหลีใต้ประมาณ 5,000 คน ซึ่งตัวเลขนี้ไม่ได้แบ่งแยกระหว่างผู้ที่ผ่าตัดรักษาความผิดปกติบนใบหน้ากับ ผู้ที่ต้องการเสริมความงามโดยเฉพาะ

ผลการศึกษาชิ้นนี้ยังพบด้วยว่า ร้อยละ 52 ของผู้ที่เคยผ่าตัดกรามจะมีอาการประสาทรับความรู้สึกบกพร่อง เช่น การชาบนใบหน้า เป็นต้น

เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว นักศึกษาหญิงวัย 23 ปีในเกาหลีใต้ซึ่งไปให้แพทย์ผ่าตัดกรามตัดสินใจฆ่าตัวตาย เธอได้ทิ้งจดหมายตัดพ้อเกี่ยวกับความทุกข์ทรมานที่ตนเองไม่สามารถเคี้ยว อาหาร และยังมีอาการน้ำตาไหลไม่หยุด

“ความผิดปกติที่เกิดจากการทำศัลยกรรมพลาสติกเริ่มพบบ่อยขึ้น… และอาการก็รุนแรงมากขึ้นด้วย” ชิน ยอน-โฮ ทนายผู้เชี่ยวชาญด้านความรับผิดทางกฎหมายที่เกิดจากการรักษาพยาบาลเผย โดยบอกอีกว่า เขาเคยเจอลูกความที่เจ็บกรามเรื้อรังหรือฟันล้มไปทั้งแถบ บางรายไม่สามารถเคี้ยวอาหารหรือยิ้มได้อีกเลยหลังผ่าตัด

คลินิกเสริมความงามที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดช่วยให้การทำศัลยกรรมทุก วันนี้มีราคาถูกลง และเข้าถึงคนทุกชนชั้น อย่างไรก็ดี แพทย์ชาวโสมขาวผู้หนึ่งเตือนว่า การที่จำนวนคนไข้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็ทำให้สถิติผู้ที่มีอาการข้างเคียง หลังผ่าตัดเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

เดือนมกราคมที่ผ่านมา ส.ส.เกาหลีใต้เสนอให้มีการกำหนดอายุขั้นต่ำสำหรับบุคคลที่จะทำศัลยกรรม พลาสติก โดยเฉพาะการศัลยกรรมตบแต่งกระดูกบนใบหน้าซึ่งมีความเสี่ยงสูง

ลิม อิน-ซุก อาจารย์ด้านสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยเกาหลี (Korea University) ระบุว่า การกำหนดอายุขั้นต่ำมิใช่การแก้ที่ต้นเหตุหลักซึ่งผลักดันให้ผู้หญิงเกาหลี ต้องยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อไขว่คว้าหาความสวยเกินธรรมชาติ

“สังคมเกาหลีเป็นสังคมที่ให้ความสำคัญกับเพศชาย ผู้หญิงที่หวังความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน อยากมีครอบครัวที่ดี และอยู่รอดในทุกๆแง่มุมของชีวิต นอกจากจะต้องมีมันสมองแล้วยังต้องเป็นคนสวยอีกด้วย” ลิม กล่าว

ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระแสคลั่งศัลยกรรมในเกาหลีใต้เป็นเพียงปรากฎการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นตาม ธรรมดาในสังคมซึ่งมีวัฒนธรรมเน้น “ความเป็นเลิศ” ทุกด้าน แม้ในวัฒนธรรมอื่นจะมองว่าเป็นทางเลือกที่เสี่ยงเกินไปก็ตาม

ขอบคุณที่มา จาก www.manager.co.th

เรื่องน่าสนใจ