การได้ดู “ Eriko Pretended เอริโกะ รับจ้างร้องไห้ ” หนังญี่ปุ่นที่เข้าฉายแบบจำกัดโรง มีรอบฉายแสนน้อยในช่วงเวลานี้เป็นเรื่องพิเศษจริงๆ เพราะสำหรับตัวเราแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่คุยเรื่องความเป็นความตายกับแม่ของเราบ่อยๆ แล้วก็ลากยาวไปจนถึงเรื่องความเศร้าโศกเสียใจ ถ้าแม่จะต้องจากโลกนี้ไปจริงๆ เรารู้ดีว่าแม่อยากให้เราร้องห่มร้องไห้ตีอกชกตัว อาลัยรักกับการจากไปของแม่ ตามประสาคนดราม่าแบบแม่ๆ แต่เราไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองจะร้องไห้ออกไหมในเวลาแบบนั้น … เพราะคราวที่พ่อตาย กว่าเราจะร้องไห้จริงๆ ก็ต้องรอให้เสร็จสิ้นงานศพของพ่อไปแล้วหลายวัน… เพราะบางทีการหลั่งน้ำตาออกมา มันไม่ได้วัดค่าความรู้สึกอะไรเลย และน้ำตาที่มองไม่เห็น มันอาจจะหลั่งไหลอยู่ข้างในเงียบๆ ก็ได้

 

Eriko Pretended

 

Eriko, Pretended “เอริโกะ รับจ้างร้องไห้” เป็นผลงานภาพยนตร์ยาวชิ้นแรกของ เอคิโยะ ฟูจิมูระ ผู้กำกับ/เขียนบทสาวหน้าใหม่ ที่แม้ตัวหนังจะมีคุณภาพของภาพไม่ได้คมชัดแบบ HD เหมือนหนังในกระแสหลักเรื่องอื่นๆ แต่มันก็ถูกชดเชยด้วยตัวบทที่แข็งแรง ฉลาดเล่า การแสดงที่สมจริงสมจัง มีเสน่ห์ และเทคนิคทางด้านภาพยนตร์ที่ไม่ได้อ่อนด้อยเลย กับเรื่องราวของ เอริโกะ เด็กสาวผู้มุ่งมั่นจะเป็นนักแสดงชื่อดังในโตเกียว แต่ก็ไม่เคยได้งานชิ้นใหญ่ๆ เพราะเธอแสดงฉากร้องไห้ไม่ได้ และเมื่อพี่สาวเกิดเสียชีวิตกะทันหัน เธอจึงต้องรีบเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด เพื่อพบว่านอกจากพี่สาวจะทิ้งลูกชายไว้ให้เธอดูแล พี่สาวของเธอยังมีอาชีพรับจ้างร้องไห้ตามงานศพอีก และบางทีมันอาจจะเป็นอาชีพใหม่ของเธอ!

แม้จะแอบคิดถึง Departures หนังญี่ปุ่นรางวัลออสการ์ที่เล่าเรื่องชายหนุ่มผู้ได้เรียนรู้ชีวิตผ่านการรับผิดชอบการจัดการงานศพตามประเพณีอยู่เบาๆ แต่เอาเข้าจริง เรื่องราวใน Eriko, Pretended นั้นกลับมีรสชาติที่แตกต่างและฉีกไปอีกทาง เพราะการดิ้นรนของเอริโกะนั้นมันพูดถึงความฝันที่จะประสบความสำเร็จกับความเป็นจริงในชีวิตมากกว่าจะไปโฟกัสถึงเรื่องความตาย แล้วพอตัวละครมันมีปัญหาเรื่องการร้องไห้เป็นปมหลัก เราก็เลยพลอยลุ้นไปกับทุกฉากที่เธอจะต้องร้องไห้

 

 

ปรบมือให้กับ Haruka Kubo นักแสดงสาวที่แบกหนังทั้งเรื่องไว้ได้แบบงดงาม มีเสน่ห์มาก กล้องรักมาก และเธอก็พิสูจน์ให้เห็นในที่สุดว่า เธอร้องไห้ได้และทำให้เราเชื่อได้จริงๆ น่าทึ่งมากเหมือนกันนะ ที่ได้เห็นนักแสดงคนนึงต้องแสดงอะไรที่ไม่ได้เรื่องออกมาในตอนแรก (ฉากแคสติ้งที่เอริโกะร้องไห้ไม่ได้) แล้วค่อยๆ ได้เห็นความอัดอั้นน้ำตาซึมอยู่ข้างในหลายๆ ฉาก (โดยที่น้ำตาไม่ยอมไหลออกมาซะที) จนในที่สุดมันก็ท่วมท้นอย่างงดาม จนเรามองเห็นความรู้สึกภายในของตัวละครที่โคตรหลากหลาย

แน่นอน เราชอบแง่งามในหนังที่แทรกตัวอยู่ในทุกอณูมาก มันมีความอุ่น ความดีงามในตัวมนุษย์ ผสมปนเปอยู่กับความร้ายกาจ ไม่เอาไหน และจอมปลอมของมนุษย์ แม้กระทั่งตัวเอริโกะเองก็ตาม ความเป็นมนุษย์ในตัวละครมันกลมกล่อมมาก แล้วเมื่อถึงบทสรุปสุดท้าย การเลือกทางออกให้กับตัวละครทั้งหลายก็ทั้งอบอุ่น สมจริง และไม่ได้โลกสวยแบบละค๊อนละคร ขณะเดียวกันก็ปลุกไฟฝันให้กับมนุษย์ผู้ยังอยากตามล่าฝันแบบเราๆ ด้วย

“Eriko, Pretended เอริโกะ รับจ้างร้องไห้” เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แบบจำกัดโรงและรอบฉาย โปรดโปรแกรมการฉายได้ที่ www.facebook.com/HALfilm/

 

 

 

ขอบคุณเนื้อหาจาก ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
ชีวิตผมก็เหมือนหนัง นามปากกาของนักเขียนบทวิจารณ์ภาพยนตร์ ละครเวที และเพลง เจ้าของแฟนเพจ “ชีวิตผมก็เหมือนหนัง” ที่ยังคงเขียนบทวิจารณ์ไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังเสพงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ อยู่เสมอ ติดตามผลงานอื่นๆ ของเขาได้ที่ www.facebook.com/LifeLikeMovies

 

เรื่องน่าสนใจ