ข้อควรระวังหลังการผ่าตัดศัลยกรรมโครงหน้า
1.การนอน
- เป็นเวลา 1 อาทิตย์หลังผ่าตัด ควรนอนโดยยกหัวสูงกว่าหัวใจ 30 องศา
จะช่วยให้อาการบอมลดลงอย่างรวดเร็ว และ ระวังไม่ให้คอโดนพับ ให้นอนหน้าตรง
- นอนตรงๆจะดีที่สุดและสามารถนอนตะแคง 1 อาทิตย์หลังผ่าตัด แต่ควรจะนอนตรง
2.การทานอาหาร
- คนไข้สามารถจิบน้ำอุ่นๆได้ ประมาณ 5- 6 ช.ม. หลังจากผ่าตัด
- วันถัดไปหลังจากวันผ่าตัด คนไข้ควรทานทานข้าวต้มแฉะๆหรือโจ๊กอย่างน้อย 7 วัน
หลังจากนั้นค่อยๆทานอาหารอ่อนๆ ที่ไม่ต้องอ้าปากกว้างหรือออกแรงเดี้ยวเยอะๆ
เช่นขนมปังนุ่มๆ เต้าหู้ ไข่ตุ๋น น้ำซุปจืดๆ ปลา และอื่นๆ
- กรุณาหลีกเลี่ยงอาหารผลิตภัณฑ์จากนมหรืออาหารที่ไฟเบอร์เยอะ
เช่น โจ๊กฟักทอง นมถั่วเหลือง โยเกริ์ต น้ำเต้าหู้
เพราะสามารถทำให้ต้องเสียงหรือถ่ายเป็นน้ำได้
- กรุณาหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด 2 อาทิตย์หลังผ่าตัด โดยเฉพาะอาหารที่มีรสเค็ม และ เปรี้ยว
จะทำให้อาการบวมลดลงช้า
- ห้ามกินของแข็งหรือของเหนียว อาหารที่ต้องออกแรงเคี้ยวเยอะๆ
เช่น ต๊อก ลูกอม หมากฝรั่ง ปลาหมึก ถั่ว และอื่นๆ 2 เดือนหลังผ่าตัด
โดยเฉพาะ กรณีที่ทำศัลยกรรมโหนกแก้มต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ
- ควรดืมน้ำอุ่นให้ได้มากกว่าวันละ 1 ลิตร จะช่วยให้อาการบวมลดลงเร็วขึ้น
และเป็นการช่วยทำให้ช่องปากสะอาด รวมถึงช่วยละลายเสมหะออกไปด้วย
3. อาการบวมและการประคบ
- 72 ช.ม. แรกหลังผ่าตัด จะมีอาการบวมและช้ำมากสุด หลังจากนั้นความบวมและความช่ำ
จะค่อยๆลดลงภายใน 2-4 อาทิตย์ อาการของแต่ละเคสอาจจะแตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับสุขภาพ และ ร่างกายของแต่ละคน
- ให้ประคบเย็น 3-4 วัน หลังการผ่าตัด โดยการนำ cool pack แช่ในช่องฟรีสก่อนจึงนำมาประคบ
ให้สังเกตุว่าถ้าอาการบวมเริ่มยุบ (โดยปกติจะเริ่มยุบวันที่ 4 หลังจากผ่าตัด) แล้วค่อยประคบอุ่น
หรือไม่ต้องประคบก็ได้ ส่วนบริเวณที่มีรอยช้ำการประคบอุ่นจะช่วยให้รอยช้ำจางลงเร็วขึ้น
การประคบอุ่นให้นำ cool pack ไปแช่ในน้ำอุ่น ห้ามนำ cool pack ไปต้ม หรือ เอาเข้าไมโครเวฟเด็ดขาด
ก่อนประคบอุ่น ให้ลองนำ pack ประคบ แตะที่ท้องแขนดูก่อน หากร้อนเกินไป อาจจะทำให้
ผิวหนังที่ใบหน้าเกิดการลวกไหม้ได้
4. การดูแลรักษาความสะอาดของแผลในช่องปากและการใส่ที่รัดใบหน้า
- บ้วนปากหลังจากตื่นนอน ก่อนนอน หลังจากทานอาหารทุกครั้ง
และถ้าหากคนไข้ต้องบ้วนก่อนทานอาหาร
ให้ทานอาหารหรือดื่มน้ำได้หลังจากบ้วนปากไปแล้ว 10 นาทีขึ้นไป
และต้องบ้วนปากทุกๆ 2 ชั่วโมง คนไข้อาจจะดูนาฬิกาเป็นเลขคู่หรือคี่
เช่น 8 am, 10 am, 12 pm, 14 pm เป็นต้น
วิธีผสมน้ำยาบ้วนปาก
น้ำบริสุทธิ์ 1 ลิตร ผสมกับน้ำยา Hexamedin 20 cc.
วิธีบ้วนปาก
- ให้ใช้น้ำยาบ้วนปากกลั้วปากประมาณ 10 ที่ต่อครั้ง และให้ให้บ้วน 10 ครั้ง
จนกว่าน้ำที่บ้วนออกมาจะใส เพื่อเป็นการกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามแผลในช่องปาก
ให้บ้วนปากเป็นเวลาอย่างน้อย 2 อาทิตย์ จนกว่าจะตัดไหมในช่องปาก หรือ ตามที่แพทย์สั่ง
- สามารถแปรงฟันได้หลังจากผ่าตัดแล้ว 7-8 วัน หรือตามที่แพทย์สั่ง
โดยให้ใช้แปรงสีฟันเล็กๆ นุ่มๆ ก่อน
- ให้ใส่ที่รัดใบหน้าตลอดเวลา 3 วันหลังจากวันผ่าตัด (ถอดเฉพาะเวลาทานอาหาร และเวลาบ้วนปาก)
หลังจากนั้นให้ใส่เฉพาะตอนกลางวัน ใส่ๆ ถอดๆ ระวังไม่ให้ใส่แน่นไป
และถ้ามีความเจ็บปวดส่วนศรีษะหรือไม่สะดวกนั้น สามารถถอดออกได้
แพทย์จะให้ใส่ผ้ารัดใบหน้าไว้ 1-2 สัปดาห์ แล้วแต่เคส
5.การล้างหน้า อาบน้ำและแต่งหน้า
- ในช่วง 7 วันแรก ก่อนตัดไหมที่แผลผ่าตัดข้างหู ให้ใช้สำลีชุบน้ำยาทำความสะอาดใบหน้า
หากใบหน้ามัน ให้ใช้กระดาษซับหน้ามัน
- หลังจากตัดไหมข้างหูแล้ว วันถัดไปสามารถล้างหน้าตามปกติได้
แต่ควรเช็ดและใช้ลมเย็นเป่าบริเวณแผลให้แห้ง
- สามารถอาบน้ำได้แต่ไม่ให้โดนน้ำส่วนที่ใบหน้า
- 1 เดือนแรกหลังผ่าตัดห้ามเข้าซาวน่า หรือไม่ควรอยู่ที่ที่ร้อนๆ
- ไม่ควรก้มหน้าสระผม ให้ใช้วิธีเอนนอนไปด้านหลัง แล้วจึงสระผม
- ปกติทางโรงพยาบาลจะสระผมให้วันที่ 3 หลังจากผ่าตัด
6.การออกกำลังกาย
- สามารถเดินเล่นเบาๆได้ตั้งแต่ 2 - 3 วันหลังผ่าตัด การออกกำลังหรือการเดินเล่น
จะช่วยให้อาการบวมยุบไวขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ
เช่น การว่ายน้ำ ชกมวย เตะบอล เข้ายิม ปีนเขา เป็นต้น
สามารถออกกำลังกายเบาๆได้ตั้งแต่ 2 - 3 อาทิตย์หลังการ่ผ่าตัด
และสามารถออกกำลังกายหนักๆได้ตั้งแต่ 1 เดือนหลังการผ่าตัด
- ห้ามยกของหนักๆ ในช่วง 1 เดือนแรก เวลาที่ยกของแล้ว
รู้สึกเกร็งที่ใบหน้าให้หยุดยก
7.การรับประทานยา
- กรุณารับประทานยาตามเวลา ถ้าทานยาแล้วมีอาการท้องเสียหรือมีเกิดลมพิษ
ให้ติดต่อโรงพยาบาล
8.การดื่มเหล้าและการสูบบุหรี่
- การดื่มเหล้าและการสูบบุหรี่ ทำให้แผลหายช้าและทำให้เกิดอาการอักเสบ
จึงควรหลีกเลี่ยงอย่างน้อยเป็นเวลา 1 เดือนหลังผ่าตัด
9.อาการหลังทำศัลยกรรม
- ถ้ามีเลือดไหลออกมาจากปากหรือจมูกห้ามสั่ง
ให้เช็ดออกเบาๆหรือปล่อยให้ไหลยืดออกมา
- ความรู้สึกชาบริเวณส่วนผ่าตัดเป็นอาการปกติ
ความรู้สึกจะค่อยๆกลับมาในไม่กี่เดือน
- อาจจะมีอาการปวดหัวหรือปวดฟันแต่ถ้าเวลาผ่านไปจะค่อยๆดีขึ้น
- ในกรณีที่ทำโหนกแก้ม อาจจะอ้าปากไม่ค่อยได้หรือเวลาอ้าปาก
อาจจะมีเสียงจากขากรรไกร เวลาผ่านไปจะดีขึ้นและหายไป
10.ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
- ถ้าหายใจลำบากมาก มีเลือดไหลออกมาเยอะเกินไป จนต้องกลืน
มีอาการบวมส่วนที่ผ่าตัดแบบกระทันหัน หรือเลือดไม่หยุดไหล
ควรจะติดต่อโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด