ก่อนทำหน้าอก กับสิ่งที่ควรทราบ และตัดสินใจเลือกก่อนผ่าตัด มีอะไรบ้าง? เพราะเต้านมนั้น ถือเป็นอวัยวะที่มีความสําคัญสําหรับเพศหญิง ซึ่งหน้าที่หลักมีไว้เพื่อให้นมลูก แต่ความสําคัญของเต้านม ไม่ได้มีเพียงเท่านั้น เพราะอวัยวะส่วนนี้ ยังถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของเพศหญิง ที่สามารถสร้างแรงดึงดูดทางเพศต่อเพศตรงข้ามอีกด้วย ดังนั้น การมีเต้านมที่สมบูรณ์และสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ย่อมเป็นความปรารถนาของสาวๆ ทุกคน ที่ต้องการจะขับเน้นความเป็นเพศหญิงให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น หรือเพื่อเสริมบุคลิกให้ดูดียิ่งขึ้นในการเข้าสังคม
ก่อนทำหน้าอก กับสิ่งที่ควรทราบ และตัดสินใจเลือกก่อนผ่าตัด
การเสริมเต้านม สามารถทําได้หลายวิธี โดยแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลักๆ ได้แก่
- ใช้เนื้อเยื่อของตัวเอง (Autogenous tissue)
มาปลูกถ่ายเพื่อเติมเนื้อเยื่อเต้านม โดยอาจมีส่วนประกอบคือชั้นผิวหนัง ไขมัน หรือ แม้กระทั่งกล้ามเนื้อ เช่น ใช้เนื้อเยื่อบริเวณหน้าท้อง หลัง หรือก้น ข้อดีคือ เนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อจากร่างกายของเราเอง จึงไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน แต่ก็มีข้อเสียสําคัญคือ การที่จะต้องมีแผลผ่าตัดขนาดใหญ่เพิ่มเติม ดังนั้น ส่วนใหญ่การผ่าตัดเสริมด้วยวิธีนี้ จึงมักจะใช้ในการซ่อมแซม หรือสร้างเต้านมที่ขาดหายไปจากการผ่าตัดมะเร็ง ที่อาจจะต้องมีการฉายรังสีตามมา
- ใช้อุปกรณ์เสริม (Breast implant)
หรือที่เรามักจะเรียกกันติดปากว่าถุงซิลิโคน (silicone) ซึ่งที่เรียกเช่นนี้ เพราะวัสดุที่มาทําเป็นตัวถุงล้วนทํามาจากวัสดุประเภทซิลิโคนทั้งสิ้น ข้อดีคือ ไม่ต้องใช้เนื้อเยื่อจากส่วนอื่นของร่างกายมาเสริม จึงไม่ต้องผ่าตัดเพิ่มเติม ข้อเสียคือ เป็นสิ่งแปลกปลอมต่อร่างกาย จึงเสี่ยงที่จะมีภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายกว่าเนื้อเยื่อจากร่างกายของตัวเอง แต่ก็มีเปอร์เซ็นท์น้อยมากๆ เช่นกัน (ถ้าเป็นถุงซิลิโคนที่ได้รับการรับรอง)
สิ่งที่ควรทราบ และตัดสินใจเลือกก่อนผ่าตัด
- ถุงซิลิโคน
ขนาด รูปร่าง ทรง มีให้เลือกหลายรูปแบบ ตามความต้องการ และความเหมาะสมตามรูปร่างของเรา
- ชนิดของสารที่บรรจุในถุงซิลิโคน
จะมี 2 ชนิด ด้วยกันคือ น้ำเกลือ หรือ เจล ซึ่งเจลจะให้ความรู้สึกสัมผัสที่เหมือนจริงกว่า แต่จะมีปัญหาแทรกซ้อนมากกว่าน้ำเกลือ ในกรณีที่ถุงซิลิโคนรั่วหรือแตก
- การผ่าตัด
แผลผ่าตัดที่จะเป็นทางเข้าของถุงซิลิโคน ซึ่งโดยปกติ แผลผ่าตัดจะอยู่ในตําแหน่งซ่อนเร้น เห็นไม่ชัด ซึ่งได้แก่ รอบปานหัวนม ใต้ราวนม รักแร้ ซึ่งรูปร่างลักษณะ ขนาด และชนิดของสารในถุงซิลิโคน จะเป็นตัวบ่งบอกว่าสามารถใส่ถุงซิลิโคนผ่านแผลผ่าตัดแบบใดได้บ้าง
- ชั้นและตําแหน่งที่วางถุงชิลิโคน
โดยหลักๆ สามารถ ทําได้ 2 วิธี คือ วางใต้เนื้อเยื่อเต้านม (Subglandular layer) และ วางใต้กล้ามเนื้อหน้าอก (Submuscular layer) ซึ่งข้อดีในแบบแรก คือดูเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่ก็มีข้อเสียคือ โอกาสคลําได้หรือเห็นถุงซิลิโคนจะชัดกว่า ในกรณีที่ผู้เข้ารับการผ่าตัด มีชั้นของเนื้อเยื่อเต้านม ค่อนข้างน้อย หรือบาง ดังนั้น กรณีที่คนที่มีรูปร่างผอมบาง การใส่ถุงซิลิโคนใต้ชั้นกล้ามเนื้อ น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า นอกจากนี้ จากการศึกษาพบว่า การใส่ถุงซิลิโคนใต้ชั้นกล้ามเนื้อ เป็นปัจจัยที่ช่วยลดการเกิดพังผืดดึงรั้งจนเต้านมผิดรูป (Capsular Contracture) ได้อย่างมีนัยสําคัญ เนื่องจากการขยับของกล้ามเนื้อหน้าอก เป็นกระบวนการนวดตามธรรมชาติ
การดูแลหลังผ่าตัด
สําหรับแผลผ่าตัดโดยทั่วไป จะตัดไหมหลังจากผ่าตัดประมาณ 7 – 10วัน (กรณีใช้ไหมไม่ละลาย) โดยรักษาความสะอาดทั่วไปก็เพียงพอ และสามารถทํากิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
……………………………………………………………
ทั้งนี้ การดูแลเพิ่มเติมสําหรับคนที่รับการเสริมเต้านม คือการนวดขยับถุงซิลิโคน หลังจากตําแหน่งถุงซิลิโคนอยู่ตัวแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าถุงซิลิโคนจะเลื่อน ผิดตําแหน่ง เพราะร่างกายได้สร้าง capsule มาหุ้มถุงซิลิโคนอีกชั้นหนึ่ง การนวดเป็นการช่วยให้ capsule ดังกล่าวไม่เกิดการหดรั้ง จนเต้านมเกิดการผิดรูป (Capsular contracture) ในส่วนของการให้นมบุตร สามารถให้ได้ตามปกติค่ะ
เนื้อหาโดย Dodeden.com