วันที่ 21 กรกฎาคม 2558 เว็บไซต์ Dawn เปิดเผยว่า รวันดา คูมาร์ ชายชาวอินเดียวัย 24 ปี ให้การสารภาพว่าเคยลงมือฆาตกรรมเด็กและผู้เยาว์มาแล้วกว่า 15 ราย หลังถูกควบคุมตัวในข้อหาข่มขืนและฆาตกรรมเด็กหญิงอายุ 6 ปี เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่เมืองโนอิดา ประเทศอินเดีย
โดยเด็กหญิงวัย 6 ปี ถูกพบในสภาพไร้วิญญาณ บริเวณตึกที่กำลังก่อสร้าง หลังจากผู้ปกครองของเธอเข้าแจ้งความว่าหนูน้อยหายตัวไปตั้งแต่ช่วงเช้าอย่างไร้ร่องรอย รายงานระบุว่า นายรวันดาให้การสารภาพว่าตนเคยก่อเหตุทำนองนี้มาถึง 15 ครั้งแล้ว โดยสาเหตุมาจากฤทธิ์สุรา และไม่เคยถูกตำรวจจับได้มาก่อน จึงกล้าที่จะก่อเหตุเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ และเมื่อถูกถามว่าเหตุใดจึงต้องฆ่าเด็กเหล่านั้น นายรวันดาตอบว่า เพราะพวกเด็ก ๆ ส่งเสียงดังเกินไป
จากรายงานของตำรวจระบุว่า นายรวันดาได้ก่อเหตุครั้งแรกเมื่อปี 2551 เขาล่อลวงเด็กหญิงมาด้วยขนมและของหวาน และยังมีรายงานที่ระบุว่าเขาร่วมเพศกับศพหลังจัดการเด็กแล้ว หลังจากนั้นนายรวันดาได้ก่อเหตุทำนองนี้อีกประมาณสองถึงสามครั้ง ก่อนจะหลบหนีไปยังเมืองอลิการ์ ซึ่งที่นั่นเขาได้ลงมือข่มขืนเด็กกว่า 5 ราย และหนึ่งในนั้นถูกฆาตกรรมด้วย ถัดมา ในปี 2556 เขาข่มขืนเด็กอีก 2 ราย ขณะที่รับจ้างใช้แรงงานอยู่ที่เมืองโนอิดา
ในปี 2557 เขาก่อเหตุอีก 2 ครั้ง ณ บริเวณเขตซาเมปูร์ บาดลี กรุงนิวเดลี และอีก 1 ครั้งที่เขตเบกัมเปอร์ รัฐเบงกอลตะวันตก คราวนี้เขาพยายามฆาตกรรมเด็กสองราย แต่เด็กหนึ่งในสอง ซึ่งเป็นเด็กชาย รอดชีวิตมาได้หลังจากถูกทำร้ายด้วยการใช้มีดปาดคอ
เหยื่อวัย 6 ขวบรอดตายหลังจากถูกข่มขืน บังคับให้เสพยา ถูกตีด้วยตะบองที่บริเวณศีรษะ และถูกปาดคอ เราพบเขาถูกทิ้งอยู่บริเวณรางน้ำในเขตตัวเมืองเมื่อปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจให้สัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเสริมต่ออีกว่า นายรวันดาได้รับการศึกษาเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่านั้น หลังจากนั้นก็ทำงานเป็นคนขับรถและผู้ใช้แรงงานมาตลอด และเขายังติดยาเสพติดอีกด้วย