จากคนถูกเลิกจ้าง ตกงาน ! วันนี้กลายเป็นเจ้าของธุรกิจขนม แบรนด์ “Be Flakes”
มนุษย์เกิดมาย่อมมีทั้งสุขและทุกข์คละเคล้ากันไป เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นเราจึงต้องรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ ไม่ว่าเรื่องดังกล่าวจะเลวร้ายเพียงใดก็ตาม เพียงแค่ปรับเปลี่ยนความคิดให้มองด้านบวก หรือที่เราเรียกว่า “มองโลกในแง่ดี” เชื่อว่าชีวิตจะดีขึ้นแน่นอน
หากย้อนกลับไป เมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา ใครที่ติดตามกระทู้จากเว็บบอร์ด พันทิปดอทคอม เว็บไซต์ชื่อดังอันดับหนึ่งของเมืองไทยจะได้พบกระทู้ที่โด่งดัง สร้างแรงบันดาลใจ และให้กำลังใจกับคนตกงานได้อย่างดี จากสมาชิกที่ใช้ชื่อว่าคุณ D-mand ได้เขียนประสบการณ์ เรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาชีวิตในช่วงที่ถูกเลิกจ้าง ,ตกงาน และ ว่างงาน กำลังมองหาสิ่งใหม่ๆ เพื่อดำเนินชีวิตต่อไป โดยใช้หัวข้อกระทู้ว่า เมื่อ “Comfort Zone” ของผมกำลังถูกทำลาย และการท้าทายชะตาชีวิตได้เริ่มต้น
ทั้งนี้ เนื้อหาในกระทู้นั้น ระบุประมาณว่า “…เมื่อมนุษย์เงินเดือน ธรรมดาเดินดิน และชอบกิน (จุ) คนหนึ่ง กำลังจะกลายเป็นบุคคลตกงานโดยไม่ได้ตั้งใจ ..” โดยเขากำลังมองหาธุรกิจเพื่อทำเสริมรายได้จากเงินเดือนประจำ เนื่องจากรายได้จากงานประจำไม่พอใช้จ่าย
โดยเขาพยายามหาธุรกิจต่างๆ ขาย เช่า ขายของออนไลน์ แต่ก็ไม่ดี จนมาตัดสินใจหัดทำขนมเริ่มจากคอร์นเฟลกส์อบเคลือบคาราเมล ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมาย ขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ต้องลำบากอย่างมากในการทำงานประจำและทำงานเสริมเพื่อหารายได้มาใช้จ่าย และ ชดใช้หนี้สิน
กระทั่งชีวิตเขาเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะบริษัทที่ทำงานมาเกือบ 5 ปี กำลังจะปิดตัวลง และเขาถูกเลิกจ้าง ตกงาน เครียดเหมือนคนอื่นๆ ทั่วๆ ไป แต่เขาก็หันมามองอีกมุมว่าเรายังมีธุรกิจขนมที่ยังรองรับอยู่ ดังนั้นเขาจึงหันมาทุ่มเท่กับการทำขนมอย่างจริงจัง
หลังจากนั้น สมาชิกที่ใช้ชื่อว่าคุณ D-mand ก็หายไปนาน 1 ปีกว่าๆ กระทั่งได้กลับมาอัพเดทให้แฟนๆ ชาวพันทิปได้แรงบันดาลใจกันอีกครั้ง คราวนี้กระทู้ของเขาได้เป็นกระทู้แนะนำอีกครั้ง
คุณ D-mand ได้ตั้งกระทู้หัวข้อ เมื่อ Comfort Zone ผมถูกทำลาย (ภาคต่อ) … เมื่อผมกำลังจะกลายเป็นเจ้าของกิจการ
โดยมีเนื้อหาว่า …..
สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวพันทิบทุกคนครับ ถ้านับเวลาหลังจากที่เคยมาเขียนกระทู้ (http://pantip.com/topic/34125602 ) ก็เป็นเวลา 1 ปีเศษนิดหน่อย วันนี้ผมจะมาอัพเดทเหตุการณ์ใน 1 ปีที่ผ่านมา ว่าเกิดอะไรขึ้นไปบ้าง หลังจากผมตกงาน
หลังจากถูกเลิกจ้างไปเมื่อปีก่อนเนื่องจากบริษัทได้ปิดตัวลง และตั้งมั่นว่าจะไม่หางานแล้ว ตั้งใจจะทำขนมออกมาขายให้ติดตลาดให้ได้ ซึ่งดูเหมือนมันจะง่าย แต่ความจริงแล้ว มันไม่ง่ายเลย เพราะยอดขายขนมนั้นก็ไม่ได้ฮือฮา หวือหวาอะไรเท่าไหร่ มีมาบ้างหายไปเป็นช่วงๆ บ้าง
เรียกได้ว่าขายได้เรื่อย ๆ มากกว่า ส่วนการเงินนั้นก็ไม่พอใช้บ้าง เงินที่มีก็ร่อยหรอไปเรื่อย ๆ จนในที่สุด ผมตัดสินใจทำแฮร์คัทบัตรเครดิตไป เพราะไม่มีจ่ายจริง ๆ เครดิตที่ดีมาตลอด พังทลายไปเลยช่วงแรก ๆ หลังจากที่ออกจากงานมาอยู่บ้าน (เฉย ๆ ) และทำขนมไปด้วย ยอมรับว่าลำบากอยู่ประมาณนึงเลย เนื่องจากตอนนั้นยังไม่ได้ต่อเติมครัวหลังบ้าน หลังคาก็ยังไม่มี เป็นช่วงหน้าฝนพอดี ฝนตกที ก็หาอะไรมาคลุมเตาอบวุ่นวายไปหมด
บางอันโดนฝนหน่อยเดียวก็ต้องเททิ้ง เพราะกลัวขนมจะชื้น จนในที่สุดตัดสินใจเอาเงินก้อนที่ได้จากการถูกเลิกจากที่จะเก็บไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน เอามาทำครัวหลังบ้านเพื่อทำขนมชีวิตในแต่ละวัน ผมก็ยังทำขนมซีเรียลเคลือบอบกรอบ (หรือที่เรียกติดปากกันว่าขนมคอนเฟลกส์) พัฒนาไปเรื่อย ๆ โดยพยายามให้แตกต่างจากเจ้าอื่น ๆ เพราะในท้องตลาด ขนมชนิดนี้มีขายมากมายเหลือเกิน ในเมื่อเรามาทีหลัง เราก็ต้องทำให้แตกต่างมากที่สุด
ผมจึงได้พยายามพัฒนาสูตร รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ให้ออกมาโดดเด่น ดูเตะตะและน่าซื้อ จากที่เริ่มแรก เป็นกระปุกฝาโดมทั่วไปธรรมดา ก็พัฒนามาเป็นกระปุกขนมขาไก่ (เห็นเขาเรียกกันแบบนี้) จนปัจจุบันพัฒนาเป็นกระปุกที่มีฝาดึงปิดมิดชิด สองชั้น พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อขนมเป็น “Be Flakes” หรือ บีเฟลกส์ระหว่างนั้นมีงานไหนที่พอมีรายได้มาใช้ก็ทำ เพื่อนหาคนช่วยออกบูทร้านกาแฟก็ไป, รับกรอกข้อมูลในเว็บไซต์, มีตลาดไหนที่ราคาไม่แพงมาก ก็ลองเอาไปวางขาย ก็ไป แต่ปรากฏว่านั่งตบยุงกันซะส่วนใหญ่ เพราะตลาดที่ราคาถูกก็มักเป็นตลาดเปิดใหม่ คนเดินไม่เยอะ
ด้วยความตั้งใจทำขนม ใช้ส่วนผสมอย่างดีทั้งหมด เพราะเราคิดว่าถ้าเราทำออกมาดี มันต้องดี และมีคนชอบแน่ๆ จนไม่นานมานี้มีน้องซื้อไปลองทานแล้วชอบ เลยบอกว่าจะลองรับไปขายดู ปรากฏว่าขายดีมาก ผมเลยลองโพสต์รับสมัครตัวแทนจำหน่ายแบบจริงจังดู ก็มีเพื่อนมาสมัครและขอรับไปขายปรากฏว่า ขายดีมากเช่นกัน จากตอนแรกขายปลีกแบบไม่กี่กระปุก เพิ่มเป็น 1 ลัง จนตอนนี้แต่ละคนเข้ามาสั่งทีนึง คนละ 2-5 ลัง มากสุดสำหรับ 1 คนคือ 30 ลัง ( ตัวแทนตอนนี้ประมาณ 10 คน )
เมื่อออเดอร์เพิ่มขึ้น การที่ทำในครัวหลังบ้านเล็ก ๆ นั้นก็ไม่เพียงพอเสียแล้ว กำลังการผลิตเพียงแค่ 1-2 คนก็ไม่ไหวแล้ว เพราะออเดอร์เข้าแต่ละทีนั้น ต้องใช้เวลานาน นอนเกือบเช้า ทำออเดอร์ช้า ทำให้ลูกค้ารอนาน
สุดท้ายผมเลยตัดสินใจรวบรวมเงินขายขนมที่มีไปเช่าโรงงานเล็ก ๆ แถวบ้านเพื่อเพิ่มการผลิตให้เพียงพอต่อออเดอร์ที่เข้ามา จ้างพนักงานมาช่วยในการทำขนม 2 คน และกำลังดำเนินการจัดตั้งเป็นบริษัท และขอ อย. ให้กับผลิตภัณฑ์
มันเป็นความตื่นเต้น ตื้นตัน ดีใจอย่างบอกไม่ถูก กับสิ่งที่เราพยายามทำมากว่า 2 ปี ( เริ่มทำประมาณ พฤศจิกายน 2557) มันกำลังจะโตขึ้น ๆ ผมไม่รู้หรอกว่าอนาคตมันจะไปได้ดีขนาดไหน แต่ผมเชื่อมั่นในตัวเองว่า ในเมื่อเราก้าวออกมาแล้ว เราก็ต้องทำให้ได้ เราเคยเกือบล้มมาแล้ว ยังลุกขึ้นมาได้ ทำไมเราจะเดินต่อไปไม่ได้ล่ะ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม ได้พยายามส่งข้อความเพื่อขอสัมภาษณ์และขออนุญาตนำเรื่องราวของเขามาลงเพื่อแชร์สร้างแรงบันดาลใจกับสังคมส่วนรวม ทั้งคนตกงาน และ กำลังจะตกงาน ซึ่งทางเจ้าของกระทู้คือ คุณโก้ สุรศักดิ์ มาลิกี อดีตนักวิเคราะห์ วัย 34 ปี ก็อนุญาตให้นำเรื่องราวดังกล่าวมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานได้
ตอนนี้ Be Flakes ได้รับสมัครตัวแทนจำหน่ายเป็นจำนวนมาก หากใครสนใจที่อยากจะมีรายได้เสริม ก็สามารถติดต่อไปได้ที่ Line : @meandmybaked หรือ Facebook http://www.facebook.com/meandmybaked ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก พันทิบ , คุณโก้ สุรศักดิ์ มาลิกี,
ภาพจากขนมแบรนด์ “Be Flakes” และ www.facebook.com/meandmybaked