หลังได้รับแจ้งจากนายสมศักดิ์ สุมาลี ส.อบต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ว่ามีชาวบ้านได้พบพระพุทธรูปวิษณุกรรมในศาสนาอินเดีย ปางผู้สร้าง เนื้อเรซิ่น ขนาดความสูงประมาณ 70 ซม. ฐานกว้าง 40 ซม. อายุประมาณ 50 ปี ที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยหน้าชายหาดบางสัก เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายจงรักษ์ โฮ่สกุล ผู้ใหญ่บ้านบางสัก
พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังยืนมุงดูพระพุทธรูปดังกล่าว บางคนนำกล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเก็บไว้ ทราบว่าผู้ที่เจอคนแรกชื่อ นายไพบูลย์ บุตรวร อาชีพเก็บของเก่าขาย ขณะกำลังเก็บหาของเก่าตามชายหาดบางสัก ชาวบ้านที่มาดูมีความเชื่อต่างๆนานา บางรายเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยน้ำมา หรืออาจจะมีเรือบรรทุกมาในทะเลแล้วเรือเกิดแตกทำให้พระพุทธรูปลอยน้ำขึ้นมาเกยชายหาด เนื่องจากตรวจพบร่องรอยหอยเกาะติดเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำพระพุทธรูปไปเก็บรักษาไว้ที่ที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรมาตรวจสอบอีกครั้ง
มากับคลื่น – พระพุทธรูปที่ถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาดบางสัก หมู่ 7 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปในประเทศอินเดีย เนื้อเรซิน และรอให้ จนท.กรมศิลปากรตรวจสอบอีกครั้ง.
นายไพบูลย์ บุตรวร อาชีพเก็บของเก่าขายผู้ไปพบพระพุทธรูปองค์นี้เป็นคนแรก เปิดเผยว่า ขณะเดินหาของเก่าริมชายหาดบางสัก เห็นรูปปั้นคล้ายพระพุทธรูป จึงเดินเข้าไปพลิกตะแคงดู พร้อมเอาน้ำชะล้างทำความสะอาด พบว่าเป็นพระพุทธรูปจริงๆ จึงได้เก็บขึ้นมาตั้งไว้บนชายหาดพร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ เมื่อมีชาวบ้านทราบข่าวต่างพากันมาดูเป็นจำนวนมาก
ชาวบ้านบางคนบอกว่าพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับพระในประเทศอินเดีย เนื้อเรซิ่น ปางพระผู้สร้างซึ่งเป็นมือขวาของพระวิษณุโดยชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะเกิดจากเรืออับปาง ทำให้พระพุทธรูปลอยน้ำ และมาเกยตื้นบริเวณชายหาดนานหลายปี เพราะมีร่องรอยมีหอยเกาะติดอยู่เต็ม แต่ก็ต้องรอให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรตรวจสอบความแน่ชัดอีกครั้งหนึ่งว่าคือพระพุทธรูปอะไรกันแน่.