ที่มา: Doctor.or.th

ผู้หญิงทุกคนล้วนรักสวยรักงามด้วยกันทั้งสิ้น และที่สำคัญยังต้องรักความสะอาดอีกด้วย  บริเวณจุดซ่อนเร้นของผู้หญิงก็ยิ่งต้องดูแลรักษาความสะอาดมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มเข้าสู่การมีเพศสัมพันธ์ สามารถติดเชื้อได้หลายชนิด เช่น แบคทีเรีย เชื้อรา หรือพยาธิในช่องคลอด ส่วนใหญ่เป็นเชื้อที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์หรือที่เรียกว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองใน หนองในเทียม แผลริมอ่อน แผลริมแข็งจากโรคซิฟิลิส เริม หูดชนิดต่างๆ ฝีมะม่วง และอื่นๆ 

ส่วนน้อยไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากเชื้อโรคที่กระจายมาจากอวัยวะอื่น เช่นระบบหายใจเดินทางมาโดยทางกระแสเลือด การติดเชื้อต่างๆ จะแสดงอาการได้ทั้งอาการไม่เฉพาะ (เช่น อาการปวด บวม แดง ร้อน) หรืออาการที่แสดงลักษณะเฉพาะของแต่ละโรค 

รอยโรคที่บริเวณผิวหนังมีลักษณะที่แตกต่างกันในแต่ละโรคได้บ่อย แต่บางครั้งก็วินิจฉัยยาก เช่น รอยโรคตอนเริ่มเป็นหรือกำลังจะหาย รอยโรคไม่ชัดเจน อย่างไรก็ดี การที่พบรอยโรคที่มีลักษณะเป็นแผลนั้นอาจไม่ใช่การติดเชื้อก็ได้ เช่น รอยโรคจากภูมิแพ้ รอยโรคจากการแพ้ยา หรือเป็นมะเร็งก็ได้

Depositphotos_20191845_s (1)

คอนเทนท์นี้จะพูดถึงเรื่อง “ตกขาว”Ž
ตกขาวเป็นของเหลวใดๆ ที่ไหลออกมานอกช่องคลอด แต่ไม่ใช่เลือด ของเหลวดังกล่าวส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นจากช่องคลอด ปากมดลูก และอวัยวะข้างเคียงบริเวณปากช่องคลอด

ลักษณะของตกขาว จะมีความแตกต่างกันไปขึ้นการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ทั้งในขณะที่อยู่ในภาวะปกติ หรือกำลังเป็นโรคอยู่

ภาวะตกขาวบางทีเรียกว่า ระดูขาวนั้น เป็นภาวะหนึ่งที่สตรีส่วนมากต้องประสบและทำให้สตรีจำนวนไม่น้อยมาพบแพทย์ และสูตินรีแพทย์ ภาวะดังกล่าวอาจเป็นอาการที่แสดงออกมาจากการตอบสนองต่อฮอร์โมน ในสตรีที่ปกติ หรือจากการที่เป็นโรคที่ไม่รุนแรงเรื่อยไปจนกระทั่งถึงโรคที่รุนแรงก็ได้ ดังนั้นภาวะนี้จึงมีความสำคัญมิใช่น้อย

อวัยวะบริเวณปากช่องคลอด ช่องคลอด ปากมดลูก มดลูก และอวัยวะอื่นๆ ในอุ้งเชิงกราน รวมเรียกว่าอวัยวะสืบพันธุ์ในสตรี นอกจากจะเป็นส่วนที่พบว่าเป็นมะเร็งมากที่สุดแล้ว ยังเป็นบริเวณที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย

สำหรับการติดเชื้อภายในช่องคลอดมักจะแสดงอาการมาในลักษณะของอาการตกขาวผิดปกติ โดยทั่วไปแล้วอาการตกขาวปกติจะเป็นกับผู้หญิงทุกคนตามธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากสารคัดหลั่งต่างๆ ที่หลั่งจากต่อมภายในช่องคลอด ผสมกับเซลล์ที่ลอกหลุด ซึ่งปกติตกขาวที่ปกติมักจะเป็นสีขาว ปนมูกใส ไม่เป็นสีเหลือง มีกลิ่นคาวเล็กน้อย ไม่มีกลิ่นผิดปกติไปจากเดิม และไม่มีอาการแสบหรือคันช่องคลอด

กรณีเป็นตกขาวผิดปกติ อาจจะมีสีเหลือง มีกลิ่นผิดปกติ อาจจะมีอาการแสบคันช่องคลอด เช่น ติดเชื้อรา ในช่องคลอดเป็นสาเหตุของภาวะตกขาวผิดปกติที่พบบ่อยที่สุด อาจจะติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์หรือไม่เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ก็ได้

ลักษณะของตกขาวจะมีสีขาวขุ่นหรือสีเหลืองตกขาวเป็นก้อนๆ มีอาการคันช่องคลอด ส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าเกิดจากความไม่สะอาดจึงทำให้เกิดเชื้อราในช่องคลอด และมักจะซื้อน้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ มาล้างทำความสะอาด ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

ในทางตรงกันข้ามน้ำยาต่างๆ ที่ใช้จะมีส่วนผสมของสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งในช่องคลอดมักจะมีเชื้อแบคทีเรียกระจายอยู่หลากหลายชนิด แบคทีเรียเหล่านี้มีส่วนทำให้ช่องคลอดสมดุลซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อราในช่องคลอดก่อโรคได้

เมื่อมีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงทำให้เสียสมดุลในบริเวณช่องคลอด เชื้อราจึงก่อโรคได้ เรียกว่าสะอาดมากเกินไปเป็นเหตุให้เป็นเชื้อราได้ แก้ไขโดยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมดังกล่าว ก็จะไม่เป็นเชื้อราอีกเลย

นอกจากเชื้อราเป็นตัวการที่พบบ่อยแล้ว ภาวะตกขาวผิดปกติอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ติดเชื้อพยาธิในช่องคลอดก็ได้ เชื้อแบคทีเรียบางชนิดส่งกลิ่นเหม็นมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันและการมีเพศสัมพันธ์ แพทย์จะให้การรักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะเจาะจงได้

สำหรับพยาธิในช่องคลอดนั้น เป็นโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง ต้องรักษาทั้งสามีและภริยาพร้อมกัน ถ้ารักษาเฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะทำให้ติดเชื้อกลับมาเป็นอีก ผู้ป่วยมักบ่นว่าไม่หาย

ตกขาวผิดปกติยังเกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อที่บริเวณปากมดลูก ติดเชื้อในโพรงมดลูกหรือติดเชื้อบริเวณปีกมดลูกก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นจากการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์หรือกระจายมาทางกระแสเลือด

ปีกมดลูกอักเสบมักจะมีอาการมากโดยมักจะปวดท้องรุนแรง อาจจะต้องให้ยาฆ่าเชื้อชนิดที่ครอบคลุมเชื้อหลายชนิด อาจจะให้รักษาตัวในโรงพยาบาลและรักษาโดยยาปฏิชีวนะชนิดฉีดประกอบกันหลายชนิด ผู้ป่วยบางรายเป็นมากจนมีโพรงหนองอยู่ในอุ้งเชิงกราน ถ้ารักษาทางยาไม่หายอาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อเลาะโพรงหนองออกเสีย

ผู้ป่วยบางรายมีอาการตกขาวที่เกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่การติดเชื้อได้ (เช่น ตกขาวจากเนื้องอก) หรือมะเร็งชนิดต่างๆ ในอุ้งเชิงกราน (เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งโพรงมดลูก) เป็นต้น

การไปพบแพทย์จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการตรวจวินิจฉัยภาวะตกขาวให้ถูกต้อง การไม่ใส่ใจ หรือการที่ไปซื้อยามารักษาตนเอง อาจทำให้พลาดโอกาสของการวินิจฉัยให้ถูกต้องได้

เรื่องน่าสนใจ