วันนี้ (21 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการแปลเอกสารสำนวนคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส กระทิงแดง ผู้ต้องหาขับรถชนดาบตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต ซึ่งล่าสุดทางพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้ทำการแปลเอกสารเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว
ขณะที่ พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ขณะนี้การแปลเอกสารสำนวนคดี 33 หน้า เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเสร็จสิ้นแล้ว โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ส่งเอกสารไปให้กับพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเรียบร้อยแล้ว แต่รายละเอียดต่างๆนั้นคงไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งต้องให้ทางผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ให้ข้อมูล
ด้าน นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจละเว้นและปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ส่วนกรณีเอื้อประโยชน์ให้นายวรวุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ไม่ต้องถูกดำเนินคดีฐานขับรถขณะเมาสุรา และขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด รวมถึงไม่ดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหา จนเป็นเหตุให้คดีขาดอายุความในบางข้อหา
สำหรับคดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 10 นาย มีตำแหน่งที่สำคัญคือ พล.ต.ต.กฤษฎิ์ เปียแก้ว ที่เคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พร้อมด้วยอดีตผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ และชุดพนักงานสอบสวนคดี นายวรยุทธ ซึ่งหลังจากนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. จะแจ้งคำสั่งเรื่องการแต่งตั้งอนุกรรมการนี้ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแจ้งไปยังผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดให้รับทราบต่อไป
โดยที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ถูกของมีคมกรีดบริเวณหน้าอกจนเป็นแผลเหวอะ ขนาดใหญ่ เลือดออกมาก เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบจ.จึงได้เร่งนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอำนาจเจริญโดยด่วน
สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บได้มาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน ที่ผับแห่งหนึ่ง จากนั้นสาวที่ได้รับบาดเจ็บเกิดมีปากเสียงกับผู้หญิงคนหนึ่งที่บริเวณหน้าผับดังกล่าว ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร จากนั้นผู้หญิงคนดังกล่าวก็ได้เอามีดคัตเตอร์ออกมาหวังที่จะกรีดหน้าของผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บหลบได้ทันทำให้มีดคัตเตอร์ไปโดนที่บริเวณหน้าอกแทน จากนั้นผู้ได้รับบาดเจ็บก็ได้วิ่งหนี จนไปล้มที่บริเวณหน้าผับตะวันแดง เพื่อนผู้ชายที่มาด้วยกับผู้ได้รับบาดเจ็บจึงได้โทรแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบและเพื่อที่จะพาผู้ได้รับบาดเจ็บไปส่งที่โรงพยาบาล
ร.ต.ท.สุรศักดิ์ ชาลีคำ เปิดเผยว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์เพิ่มเติม รวมไปถึงรวบหลักฐานในที่เกิด เพื่อหาตัวคนที่ลงมือก่อเหตุสุดสยองในครั้งนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
