วันนี้(4ธ.ค.58)เมื่อเวลา 15.30 ที่กองกำกับการสายตรวจและตำรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. และ พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สายตรวจ แถลงข่าวจับกุม นายจิงคุง แซ่เตียว อายุ 59 ปี ชาวนครราชสีมา แก็งค์ดอลลาร์ปลอมปล่อยขายผู้ประกอบการนักท่องเที่ยว พร้อมของกลาง ธนบัตรประเทศสหรัฐอเมริกาปลอม จำนวน 483 ฉบับ ฉบับละ 100 ดอลลาร์ คิดเป็นเงิน 48,300 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยจำนวน 1,690,500 บาท สามารถจับกุมได้ที่ สถานที่จับกุม โรงแรมย่านถนนกรุงเกษม แขวงและเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ตามนโยบายของพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. มีคำสั่งปฏิบัติการ 10 กลุ่มต้องห้าม ชุดสืบสวนหาข่าว กก.สายตรวจ 191 ได้ลงพื้นที่สืบสวนในพื้นที่กรุงเทพมหานครพบว่ามีมิจฉาชีพนำธนบัตรดอลลาร์ปลอมนำมาปล่อยขายให้กับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวรายย่อยในพื้นที่ห้วยขวาง ,ลุมพินี,บางรัก,เยาวราช ทำให้เกิดความเดือดร้อนและความเสียหายกระทบกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทย ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบรายละเอียดกลุ่มบุคคลที่นำธนบัตรดอลลาร์ปลอมมาปล่อยขายพื้นที่ดังกล่าว จนสามารถจับกุมนายจิงคุงพร้อมของกลางดังกล่าว อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่าเคยถูกจับคดียาเสพติด ของกลางยาบ้า 40,000 เม็ด เมื่อปี 2554
นายจิงคุง เปิดเผยว่า มีเพื่อนชาวลาว ซึ่งอยู่ที่แขวงสุวรรณเขต ประเทศลาว นำธนบัตรดอลลาร์ปลอมมาส่งให้ที่บ้านที่มุกดาหาร เพื่อให้นำมาส่งที่กรุงเทพ โดยจะมีลูกค้าชาวไทยมารับไปปล่อยขายต่อให้กับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวรายย่อยในพื้นที่ห้วยขวาง ลุมพินี บางรัก และเยาวราช เช่นบริษัททัวร์ และสถานบันเทิง โดยนายจิงคุงจะได้รับค่าจ้างใบละ 100 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากการแถลงข่าวเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกันนี้ตำรวจยังแนะนำวิธีการตรวจสอบธนบัตรปลอม โดยขอให้ประชาชนหรือผู้ประกอบการร้านค้าสังเกต 3 จุดสำคัญ บนธนบัตร จุดแรกคือบริเวณหน้าแบงค์ด้านขวา ซึ่งเมื่อส่องกับแสงจะเห็นเป็นบายน้ำรูปหน้าบุคคล ซึ่งตรงกับลายหน้าบุคคลบนธนบัตร จุดที่สองคือเส้นใยใส ที่จะมีตัวหนังสือระบุมูลค่าบัตร ปรากฏอยู่ที่ด้านบนซ้ายธนบัตน และจุดที่สาม คือเลขมูลค่าธนบัตรจะสามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อส่องดูจากมุมที่ต่างกัน จึงขอให้ประชาชนและร้านค้าร่วมกันตรวจสอบ เพื่อไม่ให้กระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทย
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรปลอมของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอม” ก่อนนำตัวส่งให้กับพนักงานสอบสวนสน.พลับพลาไชย 2 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป