อาบน้ำอุ่นก่อนนอน เป็นการช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ช่วยให้เลือดในร่างกายหมุนเวียนได้ดี และช่วยให้เรานอนหลับสบายขึ้น
ผ่อนลมหายใจ โดยเริ่มจากหายใจเข้าทางจมูก นับ 1-5 ในใจ จากนั้นปล่อยลมหายใจออกทางปากช้า ๆ ในระหว่างนั้น นับ 1-10 ในใจจะรู้สึกว่าร่างกายผ่อนคลายลงทันที ขณะเดียวกันควรปล่อยวางเรื่องเครียดไปพร้อม ๆ กันด้วย
ดื่มนมอุ่น ๆ สัก 1 แก้ว กรดอะมิโนในนมมีส่วนช่วยในการทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้สบายขึ้น
จิบน้ำผึ้งสักครึ่งช้อนชา เพียง 5 นาทีหลังจากที่ดื่มน้ำผึ้งจะเข้าไปมีส่วนกระตุ้นให้สมองหลั่งสารซีโรโทนิน ซึ่งส่งผลให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และช่วยทำให้คุณง่วงได้
ทำมือให้อุ่น การทำมือให้อุ่นจะสามารถลดความตึงเครียดลงได้ก่อนนอนอาจจะแช่มือในน้ำอุ่นสักครู่ ก็มีส่วนช่วยทำให้คุณนอนหลับได้ง่าย และสบายขึ้น
รับแสงแดดให้เพียงพอในตอนเช้า อย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน เนื่องจากแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นการควบคุมนาฬิกาชีวิตที่สำคัญ และการที่ตาได้รับแสงแดดธรรมชาติที่เปลี่ยนไปในแต่ละวัน จะช่วยกระตุ้นจังหวะการหลับ การตื่น (Sleep cycle) ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหนักก่อนนอน อย่างน้อย 2 ชั่วโมง แต่การกินอาหารเล็กน้อย เช่น นม หรือขนมขบเคี้ยวก่อนนอน จะช่วยทำให้การนอนหลับสบายขึ้น แต่ควรไม่ควรกินมากเกินไป
ห้องนอนควรเงียบสงบ สบาย และมีอุณหภูมิที่พอเหมาะ ไม่มีเสียง หรือแสงรบกวนขณะหลับ อย่างไรก็ดี ที่นอนที่สบาย ควรมีผ้าห่ม หมอนข้าง และม่านกันแสงแดด เพื่อช่วยให้การนอนหลับง่ายขึ้น แต่ถ้าหากในห้องมีเสียงรบกวนอยู่ตลอดเวลาจากภายนอก อาจใช้เสียงเพลงเบาๆ หรือเสียงที่ทำให้เกิดการผ่อนคลาย เปิดคลอไปตลอดคืน หรืออาจจำเป็นต้องใช้จุกหูฟังปิดหูเพื่อป้องกันเสียงรบกวนดังกล่าวก็ได้
ฝึกจิตใจ และสมองให้เรียนรู้ว่า ห้องนอน คือสถานที่ที่ใช้พักผ่อนเท่านั้น ดังนั้นก่อนการนอนหลับ จิตใจ และสมอง ต้องได้รับการผ่อนคลาย โดยให้สัมพันธ์กับร่างกายที่ผ่อนคลาย ห้องนอนที่ผ่อนคลาย รวมไปถึงเตรียมกิจวัตรประจำวันให้พร้อมในการนอน เช่น อาบน้ำ แปรงฟัน จะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น และนอนหลับอย่างมีความสุขมากขึ้น
ขอบคุณที่มา kapook.com , oknation.net