ระทึก!! พบกล่องต้องสงสัย ปิดฝาด้วยเทปกาวสีขาวอย่างแน่นหนา วางอยู่ใต้ต้นไม้ หน้าโรงเรียนอุดรวิทยา จ.อุดรธานี จนท.ยิงด้วยวอเตอร์บอมบ์ จนกล่องกระดาษระเบิดแตกกระจาย พบเป็นขวดเครื่องดื่มชูกำลังประมาณ 50 ขวด ไม่พบวัตถุระเบิด คาด เป็นการก่อกวน …
วันที่ 5 ก.ย. พ.ต.ท.อาทิตย์ จันทา สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัย วางอยู่ใต้ต้นไม้ริมฟุตปาท หน้าโรงเรียนอุดรวิทยา (โรงเรียนจีน) ถนนประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วย ร.ต.ท.บรรพต ภูริศรี รอง สวป.สภ.เมือง อุดรธานี ร.ต.ท.ฉลองรัฐ หวายแก้ว ตำรวจเก็บกู้ระเบิด (EOD) ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบกล่องกระดาษปิดฝาด้วยเทปกาวสีขาวอย่างแน่นหนา วางอยู่ใต้ต้นไม้ เมื่อใช้เครื่องตรวจโลหะจับวัตถุดังกล่าว เกิดเสียงดังคล้ายมีวัตถุโลหะอยู่ในกล่อง จึงไม่แกะกล่อง และปิดถนนโดยรอบ ซึ่งห่างจากจุดพบต้องสงสัย ประมาณ 50 เมตร ก่อนนำยางรถยนต์มาวางกันไว้
แต่ยังมีประชาชนที่อยากรู้อยากเห็นมายืนมุงดู และวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา เพราะจุดพบวัตถุต้องสงสัย เป็นหน้าโรงเรียนจีน จะเป็นการสร้างสถานการณ์เชิงสัญลักษณ์หรือไม่ อย่างไร ตำรวจจึงต้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้ ก่อนจะตัดสินใจ ยิงวัตถุต้องสงสัยด้วยวอเตอร์บอมบ์ เพื่อทำลายวงจรวัตถุต้องสงสัยในกล่อง
ด้าน นางฉวีวรรณ สิงหะสุริยะ อายุ 50 ปี ครูผู้พบวัตถุต้องสงสัยเป็นผู้แจ้งตำรวจ เล่าว่า ตนสอนพิเศษอยู่ห้องเช่าติดกับโรงเรียน เช้าวันนี้เวลาประมาณ 10.00 น. พบเห็นกล่องกระดาษดังกล่าววางอยู่ ด้วยการปิดเทปกาวมิดชิด กระทั่งเวลา 12.00 น. จึงได้บอกคนบริเวณดังกล่าวมาเปิดกล่องดู แต่ไม่มีใครกล้าไปเปิดกล่องดู สอบถามใคร ก็ไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ เกรงว่าจะเป็นวัตถุระเบิด มีคนไม่หวังดีนำมาวางไว้ จึงแจ้งตำรวจดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ยิงด้วยวอเตอร์บอมบ์ จนกล่องกระดาษระเบิดแตกกระจายแล้ว พบว่าเป็นขวดเครื่องดื่มชูกำลังประมาณ 50 ขวด แตกเกลื่อนฟุตปาทและถนน เจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่ เพื่อตรวจสอบหาวัตถุ หรือวงจรวัตถุระเบิด แต่ไม่พบ
ขณะที่ ร.ต.ท.ฉลองรัฐ สันนิษฐานว่า มีผู้ไม่หวังดีนำกล่องดังกล่าวมาวาง เพื่อเป็นการก่อกวนหรือสร้างสถานการณ์ หากเป็นประชาชนที่ดื่มหรือขายเครื่องดื่มชูกำลัง คงไม่ปิดเทปกาวอย่างแน่นหนา จึงตัดสินใจยิงตัดวงจรระเบิดด้วยวอเตอร์บอมบ์ และพบว่าเป็นแค่ขวดเปล่าน้ำอัดลม ซึ่งตำรวจจะได้ตรวจภาพกล้องวงจรปิด เพื่อหาผู้นำกล่องมาวางมาสอบสวนต่อไป.
