เรียบเรียงโดย โดดเด่นดอทคอม
ภาพจาก ข่าวสด
จากกรณีนายยม จู๋ยืนยง หรืออากงเตี้ย อายุ 76 ปี อาศัยอยู่กับศพน.ส.ซกกี จู๋ยืนยง หรืออาม่าซกกี อายุ 82 ปี ภรรยาที่เสียชีวิตนาน 10 เดือน ภายในบ้านเลขที่ 47 ม.2 ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ตามคำสั่งเสียของอาม่าซกกี ตามที่ ข่าวสด นำเสนอไปนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 15.25 น. วันที่ 4 เม.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบอากงเตี้ยที่บ้านพัก แต่สวนทางกับอากงเตี้ยที่ถีบจักรยานออกไปร้านค้าในหมู่บ้านข้างวัดไทร พบเพียงนายณรงค์ชัย คงยั่งยืน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ท่ากระชับ
พร้อมด้วยนายมนูญ ถมังรักษ์สัตว์ ทนายความและที่ปรึกษาฯ กำลังพูดคุยอยู่กับนายอนุสิทธิ์ จู๋ยืนยง บุตรชายของอากงเตี้ยและอาม่าซกกี ซึ่งทราบข่าวและเดินทางมาจากบ้านพักที่จ.ชัยภูมิ
โดยนายมนูญและชาวบ้านได้ร่วมกันจัดการจัดสถานที่ตั้งโลงศพ อาสนะสงฆ์ และดอกไม้หน้าโลงศพ พร้อมกันนี้ยังนำเต็นท์ขนาดใหญ่ 4 หลังประดับไฟฟ้ามาตั้งไว้ที่ลานหน้าบ้าน เพื่อรองรับผู้จะเข้าไปร่วมสวดพระอภิธรรมศพ
นายณรงค์ชัยเปิดเผยว่า จากการหารือกับนายอนุสิทธิ์บุตรชายของอากง ทราบว่าต้องการขอเลื่อนสวดพระอภิธรรมศพมารดาคืนแรก จากเดิมคืนวันที่ 5 เม.ย. เป็นคืนวันที่ 4 เม.ย. และจะสวดพระอภิธรรมศพ 3 วันไปจนถึงวันที่ 7 เม.ย. ซึ่งทางอบต.รู้สึกดีใจที่บุตรชายของอาม่ากลับมาดูแลงานศพเอง
ด้านนายอนุสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อจัดการงานศพมารดาจนแล้วเสร็จ ตั้งใจจะชวนบิดาไปอยู่ด้วยกันที่จ.ชัยภูมิ แต่คงต้องแล้วแต่ความสมัครใจ เพราะบิดายืนยันจะขออยู่ที่บ้านหลังนี้เท่านั้น ยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ติดต่อบิดามารดา รวมถึงเดินทางมาเยี่ยมอยู่เป็นระยะไม่ได้ทอดทิ้ง ในส่วนของค่าใช้จ่ายก็โอนเงินมาให้ใช้ตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่ออากงเตี้ยกลับมา ได้นำหมูแดดเดียวทอดที่ซื้อมาไปวางที่หน้าโลงศพ ก่อนกลับมานั่งพูดคุยกับทุกคน
โดยอากงเตี้ยได้เล่าความหมายของป้ายข้อความที่เขียนว่า คำมั่นสัญญา ซึ่งผู้สื่อข่าวเห็นและสอบถามว่าสมัยยังมีชีวิต อาม่าซกกีเป็นคนมีฐานะร่ำรวยกว่า
แต่ยอมมาใช้ชีวิตอยู่กับตน มาวันนี้เมื่อเสียชีวิตไปแล้วจึงเขียนคำนี้เพื่อย้ำความทรงจำ และจะขออยู่กับร่างของอาม่าในโลงที่บ้านหลังนี้จนกว่าจะหมดลมหายใจ