นายอัครเดช เพิ่มศรี อายุ 28 ปี หนุ่มชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ได้พลิกผันตัวเองจากพนักงานห้างแห่งหนึ่ง พร้อมนางสาวไข่มุกข์ อินธิเดช อายุ 29 ปี ภรรยา หันมายึดอาชีพขายข้าวจี่ ปลาร้าบอง หมูปิ้ง และเครื่องในไก่ปิ้ง ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านและอาหารยอดฮิตของชาวอีสาน
ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาว มีลูกค้า ทั้งข้าราชการ พนักงานห้าง และนักเรียน นักศึกษา มาซื้อรับประทานกันอย่างคึกคักจนย่างไม่ทัน
โดยเฉพาะข้าวจี่บางวันไม่ถึงชั่วโมก็ขายหมดเกลี้ยง ส่วนราคาก็ไม่แพงข้าวจี่ หมูปิ้ง เครื่องในไก่ไม้ละ 5 บาท ปลาร้าบองกล่องละ 10 บาท ทำให้แต่ละวันจะมีรายได้เฉลี่ย 5,000 – 6,000 บาท
แต่ช่วงหน้าหนาวจะขายดีเป็นพิเศษ มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกเฉลี่ยวันละกว่า 8,000 – 10,000 บาท หลังจากยึดอาชีพนี้มานานกว่า 3 ปี ถือว่าประสบผลสำเร็จ สามารถเลี้ยงครอบครัวได้โดยไม่เดือดร้อน ด้วยสูตรเฉพาะที่คิดขึ้นเองไม่เหมือนใครรสชาติอร่อยถูกปากผู้บริโภค
นายอัครเดช บอกอีกว่า หลังเรียนจบปริญญาตรี ก็ไปสมัครเข้าทำงานเป็นพนักงานห้างแห่งหนึ่ง ได้ค่าแรงเดือนละประมาณ 7,000 บาท ทำอยู่ได้สักพักก็ลาออก เพราะเงินเดือนไม่พอกับค่าใช้จ่าย
ทั้งอยากมีอาชีพเป็นของตัวเอง ไม่ต้องการเป็นลูกน้องใคร จากนั้นก็หันมาขายข้าวจี่ หมูปิ้ง เริ่มแรกก็ยังขายไม่ประสบผลเท่าไหร่ เพราะยังไม่เป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้าเท่าที่ควร แต่พอขายได้สักระยะก็มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นที่รู้จักและติดตลาดจนทุกวันนี้ ปัจจุบันได้ตั้งชื่อว่า “ณ เดช ข้าวจี่ หมูปิ้ง”
ที่มา ไทยรัฐ