วันที่ 16 ตุลาคม 2561 สปริงนิวส์ รายงานว่า น.ส.สุภาพร (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี เปิดเผยว่า ลูกสาววัย 15 ปี ซึ่งกำลังเรียนอยู่ ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หนีออกจากบ้านไปตั้งแต่คืนวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา พร้อมกับทิ้งจดหมายไว้ ระบุว่า “ขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ น้องรักแม่ น้องทำให้แม่เหนื่อย เสียใจ และร้องไห้ น้องจะไปหางานทำ เก็บเงินหาเลี้ยงตัวเอง น้องจะพยายามติดต่อมาหาแม่เอง ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องตามหา และไม่ต้องแจ้งความ น้องเอาเงินไป 2,000 บาทนะ ก่อนลงท้ายว่า น้องรักแม่”
น.ส.สุภาพร เล่าว่า ครอบครัวตนอยู่ด้วยกัน 4 คน ตา ยาย ตน และลูกสาว ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน ตนรู้จากเพื่อนของลูกสาวว่า ลูกสาวรู้จักผู้ชายวัยเดียวกันผ่านทางเฟซบุ๊ก ชื่อโบ๊ท ตนหวั่นว่าลูกจะถูกหลอก พยายามโทร. หา แต่ลูกไม่รับสาย จึงให้หลานโทร. ไปถาม ลูกสาวก็บอกว่าถึงกรุงเทพฯ แล้ว ไม่ต้องห่วง และกำลังนั่งรถไปหาผู้ชายชื่อโบ๊ท จากนั้นก็ปิดโทรศัพท์ไป นอกจากนี้ ผู้เป็นแม่ยังร้องไห้ลั่น ขอให้ลูกสาวกลับมาบ้าน พร้อมบอกว่าทุกคนที่บ้านรักมากและให้อภัยแล้ว
ขณะที่ น้องตั๊ก (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี หลานสาวของน.ส.สุภาพร เผยว่า ตนเป็นคนไปส่งลูกสาวของ น.ส.สุภาพร ที่สถานีรถไฟ ซึ่งตนรู้ดีว่าจะหนีออกจากบ้าน โดยคืนวันที่ 13 ตุลาคม ลูกสาว น.ส.สุภาพร ให้ไปส่งที่ บขส.ท่าแซะ แต่ตอนนั้นดึกแล้ว จึงไปเปิดห้องพักนอน จากนั้นเช้าวันที่ 14 ตุลาคม ตนก็ส่งเอาแหวนทองไปจำนำที่ร้านทอง แล้วส่งไปซื้อตั๋วรถไฟ โดยลูกสาว น.ส.สุภาพร บอกกับตนว่าต้องการไปหางานทำ และเมื่อถึงกรุงเทพฯ แล้ว ก็บอกว่ากำลังเดินทางไปหาผู้ชายชื่อโบ๊ท ที่ปทุมธานี และหลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย