ปิดฉากไปอย่างสวยงาม สำหรับการประกวดหาสาวงามจากเวที มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล คนที่ 3 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 ตุลาคม 2558)
โดยในปีนี้ผู้ที่คว้ามงกุฏไปครองได้แก่ เอเนีย การ์เซียสาวงามจากประเทศโดมินิกัน รีพับบลิค ตามมาด้วย แคลร์ อลิซาเบธ พาร์กเกอร์ สาวงามจากประเทศออสเตรเลีย , วาทิกา บริจ นาร์ท ซิงห์ จากอินเดีย เเละ พารูล ควิทโมลา ซาห์ จากฟิลิปปินส์ ส่วนน้องปอใหม่ รัตติกร ขุนโสม ตัวแทนประเทศไทย ซิวตำแหน่งรองอันดับที่ 4 มาครอง ผ่านการตอบคำถามในรอบ 5 คนสุดท้ายที่ว่า “ใครคือผู้มีอิทธิพลต่อชีวิตคุณมากที่สุด ? เพราะอะไร ?”
โดยสาวงามเจ้าของมงกุฏคนล่าสุด จากโดมินิกัน รีพับบลิค ตอบคำถามที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้มาก่อน พร้อมเสียงปรบมือกึกก้องทันทีที่เจ้าตัวตอบคำถามเสร็จว่า
“ฉันคิดว่าผู้ที่มีอิทธิพลในชีวิตมากที่สุด คือ คุณพ่อของฉัน เพราะฉันเป็นลูกที่เกิดจากการถูกข่มขืน (ร้องไห้) ตอนนั้นแม่ฉันยังอายุน้อย ทำให้คุณยายกลายมาเป็นผู้ปกครองและเลี้ยงดูฉันมาโดยตลอด หากย้อนเวลากลับไปได้ ก็จะให้อภัยคุณพ่อและอยากเข้าไปกอดพ่อ เพราะรักและมีความเคารพคุณพ่อเสมอมา และนึกถึงบุญคุณของท่านตลอด”
ในขณะที่น้องปอใหม่ตอบว่า “อองซานซูจี คือบุคคลที่มีอิทธิพลต่อชีวิตฉัน เพราะเป็นผู้หญิงที่มีความกล้าหาญ และเข้มแข็ง มุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อเอาชนะ และต้องการสันติภาพกลับมาให้ประเทศของตนเองอีกครั้ง”
ส่วนคำตอบของคนอื่นๆมีดังนี้
วาทิกา บริจ นาร์ท ซิงห์ สาวงามจากอินเดีย ตอบว่า “มหาตมะ คานธี เพราะท่านเป็นผู้นำอิสรภาพมาสู่ประเทศอินเดีย หากฉันได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้จะทำตามเจตนารมณ์ และเชื่อมั่นว่า จะนำสันติภาพมาสู่โลกใบนี้ได้เช่นกัน”
พารูล ควิทโมลา ซาห์ สาวงามจากฟิลิปปินส์ ตอบว่า “ในชีวิตของฉัน ผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือคุณพ่อ เพราะฉันเชื่อเสมอมาว่าสันติภาพ เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ คือบ้านของเราเอง เราต้องอยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจและเห็นใจซึ่งกันและกัน และคุณพ่อก็เป็นบุคคลตัวอย่างในการดำรงชีวิตของฉันค่ะ”
แคลร์ อลิซาเบธ พาร์กเกอร์ สาวงามจากออสเตรเลีย ตอบว่า “คนที่มีอิทธิพลสำหรับฉันมากที่สุด นับตั้งแต่ฉันเดินทางมาถึงเมืองไทย และใช้ชีวิตอยู่ในกองประกวด นั่นคือ ลีส์ กราเซีย มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2014 ซึ่งเธอได้ปฎิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนของ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าวันนี้ฉันได้รับตำแหน่งฉันก็จะสานต่อการปฎิบัติหน้าที่นี้ให้ดี และสมกับที่ได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรติ”