(10 เม.ย.) เวลา 17.00 น. นายเดชา อายุ 53 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ พานายอารีย์ อายุ 38 ปี ลูกเรือสินค้า ที่ยังอยู่ในอาการเมาสุราเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ หลังถูกรถแท็กซี่ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเชิดค่าโดยสารเป็นเงิน 4 พันบาท และขโมยทรัพย์สินเป็นกระเป๋าเสื้อผ้าของนายอารีย์ไป
นายอารีย์ ที่ยังอยู่ในอาการเมาสุราให้การกับทางเจ้าหน้าที่พอจับใจความได้ว่า ตนเป็นลูกเรือบรรทุกสินค้า ก่อนเกิดเหตุเรือที่ตนทำงานมาจอดส่งสินค้าที่ท่าเรือย่าน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ตนจึงได้ดื่มฉลองสงกรานต์กับเพื่อนร่วมงานเล็กน้อย ก่อนจะเตรียมเสื้อผ้ากลับบ้านไปกราบเท้าแม่ที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เพราะไม่ได้กลับบ้านมานานกว่า 1 ปีแล้ว
จากนั้นตนจึงได้เรียกเหมารถแท๊กซี่สีเขียวเหลือง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนให้ไปส่งที่อ.ปักธงชัย โดยตกลงเหมาจ่ายกันที่ 3,300 บาท แต่คนขับแท็กซี่บอกว่าเป็นคน อ.ปักธงชัย เหมือนกัน ตนจึงควักเงินให้ไปก่อน 4 พันบาทโดยไม่ต้องทอน ขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่บนทางด่วนกาญจนาภิเษก คนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวได้อ้างว่าจะจอดแวะเติมก๊าซก่อน และได้ลงทางด่วนแวะเติมก๊าซที่ปั๊มปตท. ถ.ศรีนครินทร์ อ.เมืองสมุทรปราการ
เมื่อรถเข้าจอดในปั๊ม ตนจึงลงจากรถเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ หาซื้อขนมนมเนย และเครื่องดื่มชูกำลังมาเลี้ยงคนขับแท็กซี่ แต่กลับหาแท็กซี่คันดังกล่าวไม่พบ ตนพยายามเดินหาอยู่นานกว่า 1 ชม. กระทั่งพบนายเดชา แท็กซี่พลเมืองดี พามาแจ้งความที่โรงพัก
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะพานายอารีย์ไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดในปั๊มที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามคนขับรถแท๊กซี่มหาภัยรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป