“กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ” จัดทีมวิศวกรฉุกเฉิน หรือเอ็มเสิร์ท 26 ทีม พร้อมเครื่องมือครบครัน ดูแลสถานพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงภัยพายุฤดูร้อนตลอด 24 ชั่วโมง เน้นหนัก 5 หัวใจสำคัญระบบบริการ
อาทิ ไฟฟ้า ประปา ฯลฯ ส่วนที่รพ.ทุ่งศรีอุดม จ.อุบลราชธานี หลังถูกพายุพัดถล่ม มีอาคารได้รับความเสียหาย 7 อาคาร มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท เบื้องต้นทีมเอ็มเสิร์ทได้ดำเนินการซ่อมแซมให้สามารถเปิดบริการได้ตามปกติแล้ว
นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในการรับมือกับพายุฤดูร้อน ระหว่างวันที่ 27-29 มีนาคม 2560 ตามประกาศเตือนภัยของกรมอุตุนิยมวิทยา กรม สบส.ได้สั่งการให้สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพทั้ง 12 เขตทั่วประเทศ
เตรียมพร้อมทีมวิศวกรฉุกเฉิน หรือ ทีมเอ็มเสิร์ท ( Medical Service Emergency Response Team ;MSERT ) พร้อมเครื่องมือช่าง เขตละ 2 ทีม และสำรองทีมส่วนกลางจากกองวิศวกรรมการแพทย์ และกองแบบแผน รวมทั้งหมด 26 ทีม เพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นกับสถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับตลอด 24 ชั่วโมง
โดยได้กำชับให้ทีมเอ็มเสิร์ท ให้เฝ้าระวัง 5 ระบบที่เป็นหัวใจสำคัญของสถานพยาบาลที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ได้แก่ ระบบไฟฟ้า ประปา สื่อสาร เครื่องมือแพทย์ และอาคารบริการผู้ป่วย ให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา
ทางด้าน นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในส่วนของโรงพยาบาลทุ่งศรีอุดม จ.อุบลราชธานี ที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา กรม สบส. ได้สั่งทีมเอ็มเสิร์ทเข้าตรวจสอบ ประเมินพบอาคารได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 7 อาคาร
ได้แก่ อาคารผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน โรงซักฟอก หน่วยจ่ายกลาง อาคารนวดแผนไทย บ้านพัก/แฟลตเจ้าหน้าที่ และโรงจอดรถ รวมทั้งระบบไฟฟ้ามูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท ในเบื้องต้นทีมเอ็มเสิร์ทได้ดำเนินการซ่อมแซมจุดที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝ้าเพดาน หลังคาและระบบไฟฟ้าในโรงพยาบาล ขณะนี้สามารถใช้การได้ตามปกติ และจะดำเนินการฟื้นฟูอาคารทั้งหมดให้มีสภาพสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด
สำหรับเครื่องมือแพทย์ของโรงพยาบาลทุ่งศรีอุดม แม้ว่าไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แต่ได้ให้ทีมวิศวกรเครื่องมือแพทย์จากสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 10 จ.อุบลราชธานี เข้าดำเนินการตรวจสอบ มาตรฐานเครื่องมือแพทย์ทุกชนิดที่ใช้ในโรงพยาบาล ระหว่างวันที่ 29-30 มีนาคม 2560 ให้มีความเที่ยงตรงแม่นยำในการให้บริการผู้ป่วย