นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการแชร์รูปภาพไฟห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลสุโขทัย ว่า ได้กำชับให้ทุกโรงพยาบาล จัดระบบป้องกัน โดยมีการจัดการบริหารความเสี่ยงของระบบการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและโปร่งใส เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างคล่องตัว และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
ทั้งนี้ได้รับรายงานจาก นายแพทย์มาโนช อู่วุฒิพงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลสุโขทัย ว่า กรณีดังกล่าว เกิดจากขั้นตอนการขออนุมัติจัดซื้อหลอดไฟผ่าตัดล่าช้า ซึ่งขั้นตอนปกติจะใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ ภายในสัปดาห์นี้ จะได้รับหลอดไฟมาเปลี่ยน สามารถใช้งานได้ตามปกติ
สำหรับไฟผ่าตัดดังกล่าวอยู่ในห้องผ่าตัดสูตินรีเวช เป็นหลอดไฟแบบเก่าชนิดหลอดฮาโลเจน ซึ่งมีเพียงบริษัทที่จัดจำหน่ายน้อยรายมาก ลักษณะเป็นโคมใหญ่ติดเพดานสามารถเลื่อนไปมาได้ จำนวน 2 โคม แต่ละโคมจะมีหลอดไฟเล็ก 4-5 หลอด เมื่อไฟดวงเล็กดวงหนึ่งเสีย หลอดที่เหลือจะยังสามารถใช้การได้
กรณีที่เกิดขึ้นได้ดำเนินการตามระบบการจัดซื้อจัดจ้าง โดยทำบันทึกเสนอผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุโขทัยอนุมัติ ผ่านหัวหน้าห้องผ่าตัดและรองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ เพื่อจัดซื้อหลอดไฟฮาโลเจนมาเปลี่ยนหลอดไฟที่เสียและสำรองในสตอกของโรงพยาบาล
ทั้งนี้ กรณีความล่าช้าของการเสนอหนังสือราชการ ขณะนี้ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้สั่งการให้ฝ่ายบริหารตรวจสอบสาเหตุความล่าช้าและจัดการบริหารความเสี่ยง เพื่อไม่ให้เกิดกรณีอื่นๆ อีก
รวมทั้ง เน้นย้ำแก่แพทย์โรงพยาบาลสุโขทัยว่ากรณีเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วน สามารถโทรปรึกษาผู้อำนวยการหรือรองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ติดตามและเร่งรัดการดำเนินการ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในการให้บริการประชาชน
