คนขับรถตู้ชนพ่อตา “ติ๊ก ชิโร่” มอบตัวแล้ว รับสารภาพทั้งน้ำตาขับรถเร็วแข่งกับคันอื่น ยกมือไหว้ขอโทษ ยอมรับผิดทุกข้อหา ด้านภรรยาติ๊ก ชิโร่ อโหสิกรรมให้ ขอผู้ขับรถเพิ่มความระมัดระวัง
เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 58 นายพงศ์เดช หรือ โอ๋ พุกกะคุปต์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 362 ม.2 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา คนขับรถตู้โดยสารสายกรุงเทพฯ-พัทยา ก่อเหตุชน นายวิลแฮม สตรั๊ค ( Wilhelm strak) ชาวเยอรมนี วัย 73 ปี พ่อตาของ “ติ๊ก ชิโร่” ศิลปินนักร้องนักแสดงชื่อดัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 ส.ค. แล้วจอดรถทิ้งก่อนหลบหนีไป ได้เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 แล้ว โดยมี พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ผกก.สภ.เสม็ด ร่วมสอบปากคำ
นายพงศ์เดช ร้องไห้ระหว่างให้การรับสารภาพว่า คืนเกิดเหตุยอมรับว่าขับรถมาด้วยความเร็วแข่งกับรถตู้คันอื่นจริง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมองไม่เห็นผู้ตายจึงชนเข้าอย่างแรง หลังจากนั้นจอดรถและวิ่งลงไปดู พบผู้ตายนอนแน่นิ่ง ด้วยความตกใจเพราะไม่เคยชนใครมาก่อน จึงรีบวิ่งหนีออกจากที่เกิดเหตุ โบกรถคันอื่นหนีไปหลบอยู่ที่พัทยา ก่อนจะหนีต่อไปหลบซ่อนตัวที่บ้านเกิด จ.นครราชสีมา และได้ปรึกษากับเจ้าของรถและครอบครัว โดยคาดว่าจะเข้ามอบตัวตั้งแต่หลังเกิดเหตุ 4 วัน แต่ไม่พร้อมจึงเลื่อนมาเข้ามอบตัววันนี้
ทั้งนี้ นายพงศ์เดช กล่าวอีกว่า ขออโหสิกรรมต่อครอบครัวผู้ตายและสิ่งที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจ และขอยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหากับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมยกมือไหว้ขอโทษต่อ นางพรรทิรา นันทเสน ภรรยาติ๊ก ชิโร่ และญาติๆ ที่เดินทางเข้าร่วมดูการแถลงข่าว
ด้าน นางพรรทิรา กล่าวว่า ขออโหสิกรรมให้กับ นายพงศ์เดช ที่ขับรถชนพ่อเสียชีวิต เพราะเข้าใจดีว่าเป็นเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และพ่อก็ไปสบายแล้ว ขอให้ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย และฝากบอกให้ผู้ที่ขับรถทั้งหลายเพิ่มความระมัดระวัง อย่าประมาท เพราะหากพลาดขึ้นมาอะไรก็แก้ไขไม่ได้
ขณะที่ พ.ต.อ.ชูธเรศ เปิดเผยว่า หลังจากแถลงข่าวเสร็จ ได้คุมตัว นายพงศ์เดช ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เสม็ด โดยตั้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และหลบหนีไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน ส่วนกรณีการให้ประกันตัว หากผู้ต้องหามีหลักทรัพย์ขอยื่นประกันตัว ก็เป็นสิทธิ์ เนื่องจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเอง ก็ประกันและปล่อยตัวชั่วคราวจนกว่าพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานครบและพร้อมได้ โดยพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจะเรียกตัวผู้ต้องหามาเพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อไป