ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

“คริส หอวัง” เข้าพบเจ้าพนักงานตามกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แจงเรื่องถ่ายภาพคู่เบียร์ ยันไม่ได้รับเงินทำไปเพราะเป็นน้ำใจที่มีให้กัน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มีเคืองหลังถูกห้ามไม่ให้เข้าฟังคริสชี้แจง เตรียมร้องเรียนที่ถูกลิดรอนสิทธิ ด้านอธิบดีกรมควบคุมโรคสั่ง “หมอหมาน” รูดซิปปาก

EyWwB5WU57MYnKOuXohnSQ2fovKkwD3TvD9oitHYo7p2pYPz1oCiag

คดีดาราโพสต์ภาพคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังไม่จบ โดยเมื่อตอนสายวันที่ 11 พ.ย. ดาราสาวคนดัง “คริส หอวัง” หรือ น.ส.ศิริน หอวัง พร้อมผู้ติดตามอีก 3 คน คือ นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กับทนายความของบริษัท และผู้จัดการส่วนตัวเดินทางเข้าพบเจ้าพนักงานตามกฎหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ให้ข้อมูลกรณีโพสต์ภาพคู่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประเภทค็อกเทล ของบริษัทดังกล่าว โดยใช้เวลาในการให้ข้อมูล 3 ชั่วโมง

ต่อมาเวลา 12.30 น. น.ส.ศิรินเปิดเผยหลังการเข้าให้ข้อมูลว่า เป็นการเข้ามาให้ข้อมูลตามปกติ ไม่ได้เครียดเพราะเจ้าพนักงานต้องการทราบเจตนาของการโพสต์ภาพคู่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอยากทราบที่มาที่ไป เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดมานานมาก ส่วนใหญ่เป็นภาพที่คนอื่นโพสต์ เป็นเรื่องที่เกิดจากอีเวนต์ที่ตนไปร่วมงานและมีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ รูปที่ตนโพสต์เองมีน้อยมาก ต้องเข้าใจว่าเมื่อเวลาไปร่วมงานอีเวนต์ต่างๆ ต้องมีการถ่ายภาพผลิตภัณฑ์ของบริษัทนั้นๆด้วยยืนยันว่าการโพสต์ภาพต่างๆ ไม่ได้รับค่าจ้าง ได้รับเพียงค่าจ้างจากการรับงานแคมเปญกาลาปากอส เมื่อมีผลิตภัณฑ์อะไรในเครือ ก็โพสต์ให้อยู่แล้ว เป็นแบบนี้ทุกงานไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไรก็ตาม

ผู้สื่อข่าวถามว่า การโพสต์ภาพดังกล่าวเป็นการตอบแทนบริษัทที่จ้างงานด้วยหรือไม่ คริส หอวัง กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการตอบแทนว่าต้องแลกกัน แต่ทำให้ด้วยความรู้สึกดีและเป็นน้ำใจ สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้อึดอัด เพียงแต่ต้องมาในที่ที่ไม่เคยมามาก่อน มาพูดกับคนที่ไม่เคยรู้จัก จึงต้องการความปลอดภัยให้ตัวเอง ให้มีทนายความ ผู้จัดการส่วนตัว และคนที่ตนเองไว้ใจ เข้าร่วมในการให้ข้อมูลในครั้งนี้ คนที่ตนไว้ใจคือนายฉัตรชัย แต่จากการพูดคุยกันประมาณ 40 นาที เจ้าพนักงานอนุญาตให้ร่วมเข้าให้ข้อมูลกับตนเพียง 2 คน คือ ผู้จัดการและทนายความ ไม่อนุญาตให้นายฉัตรชัยเข้าร่วมด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่เจ้าพนักงานไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไว้ใจเข้าร่วมให้ข้อมูล เป็นการลิดรอนสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองด้วยหรือไม่ คริสตอบว่า ถือว่าเจ้าพนักงานลิดรอนสิทธิในการได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนด้วย เนื่องจากตนตอบได้เท่าที่จำได้เท่านั้น เรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เพราะมันผิดเรื่ององค์ประกอบของภาพ ถ้าต้องเสียค่าปรับบริษัทก็รับผิดชอบให้ แต่อยากให้เคลียร์ให้ชัดในเรื่องของการโฆษณา เพื่อจะได้พิจารณาในการทำงาน เรื่องรับแคมเปญไม่น่าจะไม่ผิดกฎหมายถ้าคิดว่าไอจีของดาราเป็นพื้นที่โฆษณาก็ขอให้ระบุให้ชัดเจน เช่น ถ้ามีคนติดตามหรือฟอลโลเกิน 5 พันคน ถือเป็นการโฆษณาหรือไม่ จะได้ระวัง และคนอื่นๆ ก็จะได้ระวังด้วย

ด้านนายฉัตรชัยกล่าวว่า ตั้งใจเดินทางเพื่อมาชี้แจงร่วมกับคริส ในฐานะเพื่อนคนที่ไว้ใจกัน ไม่ใช่ในฐานะตัวแทนของบริษัทบุญรอด แต่เจ้าพนักงานกลับปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมด้วย ส่วนตัวเห็นว่าจำเป็นต้องเข้าร่วมชี้แจง เพราะทราบเรื่องมาตลอด รู้เหตุการณ์บางอย่างที่คริสอาจจะจำไม่ได้ ก็จะช่วยให้ข้อมูล แต่ที่สำคัญต้องการให้กำลังใจเหมือนเราไม่ทิ้งกัน แต่ไม่ทราบว่า นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใช้อำนาจ หรือระเบียบตามกฎหมายใด มาตัดสินไม่ให้ตนเข้าร่วม

ดังนั้นจะปรึกษาทนายความว่าอาจจะมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลการทำงานของภาครัฐต่อไป นอกจากนี้จะยื่นเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความคำว่า “การโฆษณา” ทางอ้อม ให้ชัดเจนว่าครอบคลุมแค่ไหน อย่างไร ประกอบกับเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล หรือพื้นที่สาธารณะ หรือกำหนดให้ชัดว่ามีจำนวนผู้ติดตามกี่คนขึ้นไปจึงจะถือว่าเป็นสาธารณะ จำเป็นต้องทำให้ชัดเจน หากกฤษฎีกาตีความอย่างไรก็ต้องยึดตามนั้น

ขณะที่ นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าการเอาผิดดารา นักแสดงโพสต์ภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่า ขณะนี้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ผิดอย่างไรก็ว่ากันไปตามผิด ไม่อยากให้เกิดประเด็นโต้เถียงหรือเข้าใจคลาดเคลื่อน เพื่อให้การทำงานเป็นไปตามระบบ ได้มอบให้ นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นโฆษกประจำกรมควบคุมโรค ให้ข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วน นพ.สมานยังคงให้ข้อมูลได้ เพียงแต่ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามระบบก่อน

เรื่องน่าสนใจ