การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมความงามนั้น เป็นการผ่าตัดในคนปกติ แต่ไม่พอใจในสภาพของร่างกายที่มีอยู่เดิม ส่วนการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งนั้นเป็นการผ่าตัดรักษาความผิดปกติหรือความพิการที่เกิดขึ้น

ศัลยกรรม คือวิธีการรักษาโรคโดยวิธีการผ่าตัด ซึ่งมีการผ่าตัดตามอวัยวะต่าง ๆ หรือประเภทของคนไข้ เช่น ศัลยกรรมระบบทางเดินปัสสาวะ ศัลยกรรมระบบประสาท ศัลยกรรมตกแต่ง ซึ่งการผ่าตัดในแต่ระบบ จะต้องอาศัยแพทย์เฉพาะทางโดยเฉพาะ ซึ่งการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่ง ควรทำโดยศัลยแพทย์ตกแต่งที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างถูกต้อง เนื่องจากการผ่าตัดส่วนใหญ่ ถ้าได้รับการผ่าตัดที่ไม่ถูกต้องหรือมีผลแทรกซ้อนเกิดขึ้น จะทำให้การผ่าตัดครั้งต่อไปได้ผลไม่ดี หรืออาจแก้ไขไม่ได้เลย

10998258_s

การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมความงามนั้น เป็นการผ่าตัดในคนปกติ แต่ไม่พอใจในสภาพของร่างกายที่มีอยู่เดิม ส่วนการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งนั้นเป็นการผ่าตัดรักษาความผิดปกติหรือความพิการที่เกิดขึ้น เพื่อทำให้มีสภาพใกล้กับภาวะปกติ การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมความงามและผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่ง จำเป็นต้องอาศัยความรู้ทางกายวิภาค การหายของบาดแผล ซึ่งต้องได้รับการฝึกอบรมมาอย่างถูกวิธีจึงจะทำให้ผลการผ่าตัดได้ผลดี

การผ่าตัดศัลยกรรมความงาม สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยคนไข้จะต้องอธิบายถึงความต้องการให้แพทย์ผู้ทำการรักษาทราบอย่างละเอียด เพื่อแพทย์จะได้อธิบายถึงวิธีการทำการผ่าตัดรักษา ผลข้างเคียงจากการผ่าตัด ผลจากการผ่าตัด ระยะเวลาในการหายของเนื้อเยื่อ และสิ่งที่สามารถทำการผ่าตัดได้จริง หลังจากนั้นคนไข้จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเองว่า ต้องการผ่าตัดหรือไม่ เนื่องจากการผ่าตัดบางประเภทเมื่อทำไปแล้วไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมก่อนการผ่าตัดได้ เช่น การแปลงเพศจากชายเป็นหญิง

สำหรับความยากง่ายในการผ่าตัดศัลยกรรมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ต้องบอกว่าการผ่าตัดทุกส่วนมีความยากง่ายที่ต่างกัน และความยากง่ายจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความถนัดของศัลยแพทย์ด้วย หากถามถึงจุดด้อยของการผ่าตัดศัลยกรรมความงาม ก็อาจเกิดจากการที่มีการโฆษณาโอ้อวดเกินความเป็นจริง การให้ค่านายหน้าแก่ผู้ที่หาคนไข้ไปทำการผ่าตัดศัลยกรรม ซึ่งการผ่าตัดศัลยกรรมต้องใช้เวลาในการหายของเนื้อเยื่อ แต่คนไข้ต้องการให้ได้ผลดีหลังจากการผ่าตัดโดยเร็ว จึงควรศึกษาและทำความเข้าใจในเรื่องนี้ให้ดีเสียก่อน

ด้านผลข้างเคียงจากการทำศัลยกรรมความงามนั้น มีเช่นเดียวกันกับการผ่าตัดทั่วไปคือ ผลข้างเคียงจากยาชา เช่น แพ้ยา ได้ยาชาเกินขนาดสูงสุดที่จะรับได้ และเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงจากการดมยาสลบ เช่น มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน พบว่ามีอาการปอดอักเสบ มีการติดเชื้อทางกระแสเลือด และเสียชีวิต ส่วนผลข้างเคียงอื่น ๆ จากการผ่าตัดศัลยกรรม เช่น มีเลือดออก และไม่ได้ผลตามที่คนไข้ต้องการ เป็นต้น

วัสดุหลักที่นำมาใช้ในการผ่าตัดเสริมความงาม ส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

1) วัสดุที่มาจากตัวคนไข้เอง ไม่ว่าจะเป็นไขมัน กระดูก และกระดูกอ่อน เป็นต้น

2) วัสดุที่สังเคราะห์ขึ้น จำพวกซิลิโคน (Silicone) โพลีเอธิลีน (Polyethylene) และ PTFE พลาสติกสังเคราะห์อีกชนิด

การใช้วัสดุจากตัวคนไข้เองมีข้อดีคือ ไม่มีการแพ้และต่อต้าน แต่มีข้อเสียคือ มีแผลจากการผ่าตัด และอาจมีการยุบตัวลงในอนาคต รวมทั้งทำให้เกิดการเจ็บแผลผ่าตัด ส่วนการใช้วัสดุสังเคราะห์มีข้อดี คือ ไม่มีแผลผ่าตัดเพิ่ม ไม่เจ็บตัวเพิ่ม แต่มีข้อเสีย คือ เป็นสิ่งแปลกปลอม อาจมีผลแทรกซ้อนในอนาคตได้ เช่น มีการติดเชื้อ วัสดุมีการทะลุออกมา เช่น ซิลิโคน เมื่อนำมาเสริมที่คาง จมูก จะอยู่ในสภาพเดิม เนื่องจากร่างกายจะสร้างพังผืดมาหุ้มวัสดุนั้น แต่อาจมีการบิดหรือเคลื่อนได้ถ้าถูกกระแทกแรง ๆ

คำถามที่มักพบบ่อยมากก็คือ การผ่าตัดศัลยกรรมส่วนใดของร่างกายที่นิยมทำกันมาก ต้องบอกว่า การผ่าตัดหนังตา ผ่าตัดตกแต่งจมูก ผ่าตัดเสริมทรวงอก ผ่าตัดดูดไขมัน ทั้งนี้ การผ่าตัดศัลยกรรมความงามและตกแต่ง มีหลักการและวิธีการที่ไม่แตกต่างกัน แต่ก็อยากให้ข้อคิดไว้สำหรับผู้ที่อยากจะทำศัลยกรรมเสริมความงามว่า ต้องตัดสินใจแน่นอนว่าต้องการทำโดยตัวเอง ไม่มีคนอื่นยุยง และต้องศึกษาถึงผลดี ผลเสีย จากการทำการผ่าตัดแต่ละอย่างโดยละเอียดเสียก่อน เนื่องจากการผ่าตัดบางอย่างเมื่อทำไปแล้วจะไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้.

 

ผศ.นพ.วิชัย ศรีมุนินทร์นิมิต
หัวหน้าหน่วยศัลยศาสตร์ตกแต่ง
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

เครดิต เดลินิวส์

เรื่องน่าสนใจ