กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อเพจดัง หยุดเผือกไม่ได้จริงๆ เผยข่าวเมาท์ดาราหญิงชื่อดังเซ็นใบหย่าสามี หลังแต่งงาน 21 ปี เหตุเพราะฝ่ายชายมีกิ๊กเป็นสาวประเภทสอง งานนี้ทำเอาชาวเน็ตตามเผือกกันยกใหญ่ว่าดาราคนนี้เป็นใครกันแน่ และหลายคนก็พุ่งประเด็นไปที่นักแสดงรุ่นใหญ่ จุ๊บแจง วิมลพันธ์ เพราะคำใบ้หลายอย่างตรงกับตัวเธอมาก ๆ ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร พร้อมกับยอมรับว่าเป็นดาราหญิงคนที่สามีแอบนอกใจไปคบสาวประเภทสองจริง ๆ

 

จุ๊บแจง วิมลพันธ์

 

มันเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวาน ?
จุ๊บแจง : ใช่ค่ะ เค้าก็หาอยู่ว่าใครกันนะที่ต้องหย่าขาดกับสามีทั้งที่คบกันมา 21 ปี จริง ๆ ไม่อยากบอกใคร เพราะเราเป็นผู้หญิง เหมือนหม้ายขันหมาก เหมือนจะแต่งงานแล้ว ที่สำคัญผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้แล้ว แล้วผู้ในวงการหลาย ๆ ท่านที่เราเชิญท่านมาเพื่อเป็นแขก เราก็รู้สึกว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันจะหมุนกลับยังไง

แล้วตอนนี้คือหย่าขาดแล้ว ?
จุ๊บแจง : หย่าแล้ว เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จริง ๆ ก่อนหน้านั้นคนที่แบบว่า 20 ปีที่คบกันไม่ใช่ว่าไม่เคยนอกใจ ครั้งแรกเราให้อภัย คือเค้าโวยวายขอออกไปอยู่ข้างนอก ซึ่งเรารักเค้ามาก ทำใจไม่ได้ ลงไปกราบเท้าเค้าเลยแล้วกอดเค้า บอกว่าจะลืมทุกอย่าง แล้วกลับมาเป็นครอบครัวได้ไหม

ครั้งนึงเคยอ้อนวอนเค้า ถึงขั้นลงไปกราบเท้า ณ จุดนั้นพี่คิดอะไรทำไมทำแบบนั้น ?
จุ๊บแจง : ครอบครัวสำคัญที่สุดสำหรับเรา เวลาเรารักใครสักคนเราเต็มร้อยอยู่แล้ว คือเค้าเป็นคนดีนะคะ ดูแลครอบครัวเราดี เราเป็นพี่คนโตรับผิดชอบครอบครัวอยู่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเวลามีแฟนเราก็จะบอกว่าครอบครัวสำคัญที่สุด ซึ่งอดีตแฟนของเราเค้าเข้าใจ แต่พอวันนึงเรามารู้ว่าคนที่เรารักเค้านอกใจ เราก็รู้สึกว่าเราต้องอยู่คนเดียวเหรอ ครั้งแรกให้อภัยกลับมาคบเหมือนเดิม พอครั้งสองก็เป็นอีก

 

 

เค้าทำผิดมาพี่จับได้ แต่พี่ไปกราบขอเค้าอยู่ อย่างงี้ผู้ชายเค้าไม่ได้ใจเหรอพี่ ?
จุ๊บแจง : อันนั้นไม่รู้ คือความรักมันไม่ได้แบ่งว่าเธอได้เปรียบ ฉันเสียเปรียบ เพราะว่าความรักของนักแสดงบางคนคิดว่าต้องแอคติ้งหรือเปล่า จริง ๆ มันไม่ใช่ ชีวิตจริงของเราก็คือฉันที่ต้องประคองครอบครัว ซึ่งพ่อเราเสียไปตั้งแต่มัธยมก็เลยคิดว่าการที่มีแฟนเค้าเป็นฮีโร่ของเรา พอถึงวันนึงครอบครัวเราแตกแยก เค้าไปมีคนอื่นเรากลับอ้อนวอน พอครั้งที่สองก็เป็นอีก

ห่างกันนานไหม ?
จุ๊บแจง : ก็เฉลี่ยแล้วประมาณ 5-6 ปีครั้ง

บางคนใจเด็ดเลือกที่จะไปจากชีวิตผู้ชาย แต่บางคนเลือกให้อภัย แล้วการให้อภัยแล้วกลับมาใช้ชีวิตด้วยกันระหว่างทางนั้นมีความสุขไหม ?
จุ๊บแจง : ไม่มี ระแวง ระวังมากขึ้น แล้วอะไรที่คิดว่าเราบกพร่อง เราต้องอัปตัวเองขึ้นมา ดูแลเค้ามากขึ้น ตอนเกิดครั้งแรก ครั้งสองเรารู้สึกว่ามันจะมีครั้งที่สามอีกไหม ระวังตลอด แต่มันก็มีครั้งสามมา

 

 

ครั้งที่สองคือจับได้ ?
จุ๊บแจง : จับได้ค่ะ คือครั้งแรกทุบโทรศัพท์มือถือ ครั้งที่สองทุบโน๊ตบุ๊ก แต่เราก็กราบและกอดเค้าเหมือนเดิม ปัจจุบันนี้พูดได้เลยว่า มันรัก คือแบบคนเรามันรักมันทำอะไรได้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่พอครั้งที่สามมันไม่ไหวจริง ๆ มันเป็นไรที่แบบผู้หญิงคนนึงรับไม่ได้หรอก ก็อยากที่ทุกคนสงสัยทำไมครั้งที่สามเราถึงไม่ยอม จะยอมได้ยังไง เพราะว่าครั้งนี้กลายเป็นสาวประเภทสอง เราตกใจ คือเรารับไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้น ตัวเราบกพร่องในหน้าที่ของความเป็นภรรยาหรือเปล่า สิ่งแรกของผู้หญิงต้องคิดอยู่แล้ว คือแรก ๆ เค้าไม่ได้บอกเรา และเราก็ไม่ได้จับได้ เค้าปกติ เพราะน้องคนนี้เป็นเด็กฝึกงาน แล้วเค้ามีการหยอกล้อพูดคุย คนในช่อง ทีมงานก็รู้หมด แต่เค้าไม่ได้บอกเรา เราไปแค่ทำรายการเดียว ทำเสร็จก็กลับก็ไม่ได้คิดอะไร เค้าสานสัมพันธ์กันถึงไหนเราก็ไม่รู้

เหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ?
จุ๊บแจง : เหตุเกิดคือวันที่ 4 เค้าบอกว่าเค้าต้องไปดูโลเคชั่นที่เขาใหญ่ เราก็ถามเค้าทำไมต้องไปให้ทีมงานไปก็ได้ เค้าก็ขึ้นเสียงฉันจะไปไหนไม่ได้เลยเหรอ ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่เราไปรับรางวัลจากละครบุพเพสันนิวาส คนเต็มเลย แล้วเค้าก็ออกไปตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เค้าก็ไลน์มาบอกว่าถึงรถแล้วเดี๋ยวถึงที่แล้วจะโทร. มาบอก แต่เค้าก็หายไปเลย เราเลยโทร. ไปแต่เค้าปิดเครื่องตั้งแต่บ่ายสามถึงเที่ยงคืน

 

 

วันนั้นคือผิดปกติ ?
จุ๊บแจง : ผิดสังเกตค่ะ แต่เราคิดไปถึงเรื่องอุบัติเหตุ หรือว่าโทรศัพท์หายหรือเปล่า เราก็เลยบอกแม่ว่าคนหายจะ 24 ชั่วโมงแล้วไปแจ้งความไหม แล้วหลังจากเตรียมตัวไปแจ้งความโทรศัพท์ก็เด้งว่าสามารถติดต่อเบอร์นี้ได้แล้ว เราก็โทร. ไป เค้าตัดสายทิ้ง แม่โทร. ไปตัดสายทิ้ง แล้วไลน์กลับมาบอกว่า “ไม่กลับบ้าน 2-3 วันนะ เพราะเค้ามีเครียดเรื่องงาน ขอเคลียร์ตัวเอง อย่าร้องไห้ อย่าเครียด ไม่ต้องตามหา ถามว่ารักไหม ยังรักเหมือนเดิม กลับมาเค้าจะตอบทุกคำถาม และจำไว้ว่าเค้าเป็นห่วงมาก นั่นคือแมสเสจเดียวที่เค้าให้เรา หลังจากนั้นพี่เหมือนไม่ได้คำตอบอะไร หลังจากนั้นพี่หยิบโทรศัพท์มาดูทุก สิบนาทีว่าเค้าอ่านไลน์หรือยัง โทร. หาเค้า เค้าไม่รับ คือคนรอมันทุกข์ทรมานใจ แต่คนไปเค้าแฮปปี้ เราก็ไม่รู้เค้าไปไหน เราร้องไห้จนไม่มีน้ำตา กินข้าวไม่ได้ แม่ต้องเอาน้ำแดง เอานมมาให้กิน แล้วน้องชายบอกว่านี่โน๊ตบุ๊กของอดีตแฟนหรือเปล่า เราบอกใช้แล้วเปิดดูปรากฎว่าเค้าลบตั๋วที่ไปเที่ยวฮ่องกง เราก็ไปกู้ขึ้นมาแล้วมันเป็นวันเดียวกันกับที่เค้าหายตัวไป แล้วพักโรงแรมที่เราเคยไปพักด้วยกัน แล้วที่ร้ายที่สุดคือ เค้าเอารูปเค้าที่คบกับน้องคนนี้ไปแปะไว้ในไฟล์งานต่าง ๆ มีทั้งรูปกินข้าว เดินเล่น ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ เราเห็นแล้วมือสั่น ร้องไห้ล้มไปเลย

คนนี้คือคนที่ทำงานกับเค้าด้วย ?
จุ๊บแจง : เป็นน้องมาฝึกงาน เค้าบอกว่ามีน้องมาฝึกงานวันที่ 9 มกราคม ซึ่งพี่กลับมาจากเที่ยวญี่ปุ่นกับเค้าวันที่ 7 มกราคม ซึ่งพี่รู้ว่าเค้าคบกันเมื่อไรคือเค้าเขียนไดอารี่ถึงกันวันที่ 9 มกราคม เจอกันครั้งแรกชวนมาทำรายการก็เฉย ๆ พอวันที่ 11 คิดถึงจนทนไม่ไหว ส่งสติ๊กเกอร์สวัสดีวันพระไปให้ คือเค้าไม่เคยมีโมเมนต์แบบนี้กับเรา แล้วคนเป็นแฟนไปอ่านเมสเสจแบบนี้แล้วจะรู้สึกยังไง คือเราจับได้ เรารู้ไฟท์บิน เราสามารถตามไปที่สนามบินได้ พี่ให้เกียรติเค้าเราก็ไม่ไป แล้ววันอาทิตย์เค้าก็ไม่ได้กลับบ้าน พอวันจันทร์เค้าก็ไปทำงานปกติ ซึ่งเราเป็นพิธีกรอยู่ที่ช่องนั้นเราสามารถไปได้แต่เราไม่ไป เราให้เกียรติเค้า เราไม่อยากทำลายเค้า เราไม่คิดเลยว่าเค้าจะทำเราได้ขนาดนี้ พอเค้ากลับมาแม่ก็บอกว่าหายไปไหนนี่จุ๊บเข้าโรงพยาบาล เค้าก็กินข้าวปกติแล้วก็ขึ้นห้อง

 

 

ตอนนั้นเค้ารู้ไหมว่าเรารู้แล้ว ?
จุ๊บแจง : ตอนนั้นเค้ายังไม่รู้ จนยื้อพูดไป พูดมา จนจุ๊บทนไม่ไหวเลยบอกว่าจุ๊บรู้แล้วว่าพี่หนีไปฮ่องกงกับน้องคนนั้น พี่ทำแบบนี้กับจุ๊บได้ยังไง ตลอดเวลา 20 ปี ฉันมีผู้ชายดี ๆ เข้ามามากมา ฉันไม่เคยนอกใจเธอเลย ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว มันไม่ได้จริง ๆ

หลังจากที่คุยกันแล้ว เค้าจบยังไง ?
จุ๊บแจง : เค้าก็พูดว่าอย่างนั้นเค้าก็ออกไปอยู่ข้างนอก ไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ แต่ถ้าครั้งนี้เค้านอกใจไปคบผู้หญิงอื่น ก็คิด 50 เปอร์เซ็นต์จะลงไปกราบเค้าอีก แต่พอเป็นอันนี้เรารับไม่ได้

ความรู้สึกพี่เป็นยังไงบ้าง ?
จุ๊บแจง : เอาง่าย ๆ เวลาขับรถกลับบ้านเราร้องไห้ทุกครั้ง เวลาพักกองเราก็อยู่ในรถแล้วก็ร้องไห้จนแบบเหมือนคนคิดวนในอ่าง พี่นั่งร้องไห้กับคนที่บ้าน น้องชายมากอดพี่บอกว่า พี่จุ๊บฟังนะ เค้าบอกว่า เค้าไม่ได้รักพี่แล้ว ครั้งแรกที่เค้านอกใจพี่แล้วพี่ให้โอกาสเค้า แล้วเค้ามีครั้งที่สองก็แสดงว่าเค้าหมดรักพี่ไปตั้งแต่ครั้งแรกแล้วพี่เข้าใจไหม พอครั้งที่สองพี่ก็ให้โอกาสเค้าอีก พี่ดูแลเค้าดีขึ้นไปอีก แต่พอครั้งที่สามเค้าเปลี่ยนไปแล้ว พี่เข้าใจไหม แต่ถ้าพี่อยากกลับไปเป็นครอบครัว กี้ แม่ จะไปกราบเค้าขออ้อนวอนให้เค้ากลับมาเป็นครอบครัวพี่เหมือนเดิม

 

 

แสดงว่าพี่เป็นคนขอหย่า ?
จุ๊บแจง : ใช่ วันที่หย่า เค้าก็จะไม่หย่า เค้าบอกว่าเค้าขอออกไปอยู่ข้างนอกเดือนสองเดือน เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง วันนึงฉันอาจจะมาคุกเข่าขออยู่กับเธอก็ได้ เราก็เลยบอกว่าถ้าไม่หย่าเราจะฟ้องเค้าและน้องคนนั้นด้วย

วันที่ตัดสินใจคือไม่ได้คิดอยากได้เค้ากลับมาแล้ว ?
จุ๊บแจง : มันจะเป็นเหมือนเดิมมันไม่ได้แล้ว คือสิ่งแรกเหมือนเค้าผิดไปแล้ว เปลี่ยนไปแล้ว เค้าบอกว่าไม่เห็นเป็นไรเลย ถือว่าเค้าออกไปอยู่ข้างนอก แต่ทำทุกอย่างปกติ ทั้งทำบุญ ทำความสะอาดบ้าน เที่ยวเล่น เราก็เลยบอกไม่ต้องฉันทำได้ คือทุกสิ่งทุกอย่างมันทำร้ายจิตใจเรา แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะได้คิดหรือเปล่า

จากการที่ตัดสินใจหย่า เพราะว่า 20 ปีพี่แจงไม่มีลูกด้วยกันใช่ไหม ?
จุ๊บแจง : ไม่มี ๆ เหมือนกับพี่เลี้ยงลูก เลี้ยงหลานมาทั้งชีวิตแล้ว อายุเราสองคนก็เยอะแล้ว แล้วตัวเค้าเองก็ไม่อยากมีเหมือนกัน แต่วันนี้ก็ย้อนกลับมาคิดนะที่เธอไม่อยากมีลูกกับฉันเพราะเธอเป็นแบบนี้หรรือเปล่า

จริงหรือเปล่าที่อดีตแฟนเอากระเป๋าที่เราซื้อให้ไปขาย ?
จุ๊บแจง : ก็คือว่าไปเที่ยวด้วยกัน ก็ช้อปปกติ ล่าสุดไปญี่ปุ่นก็ซื้อกระเป๋าหลุยส์ด้วยกัน ทีนี้เราก็ถามหลังเกิดเหตุการณ์ที่เค้าหนีไปเที่ยวฮ่องกงว่า กระเป๋าหลุยส์ใบนี้มันหายไปไหนทำไมไม่อยู่ที่บ้าน เค้าก็บอกว่าอยู่ออฟฟิต ตอนนั้นซื้อในราคาถ้าในชอปก็แสนอัป เราก็ถามเค้าว่าพี่เอากระเป๋าจุ๊บไปขายใช่ไหม พี่เอาเงินจองตั๋ว จองที่พักใช่ไหม เค้าบอกนิ่ง ๆ ก็คืออีกเรื่องนึงที่เธอควรจะรู้ แต่เค้าก็พูดติดตลกว่ากระเป๋าหลุยส์เวลาขายราคามันตกนะ เค้าพูดแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็เลยบอกว่า เฮ้ย ทำไมพี่ทำแบบนี้

 

 

นาทีนั้นที่ได้ยินคำพูดแบบนี้ออกมาจากปากคนที่เราเคยรักรู้สึกยังไง ?
จุ๊บแจง : มันเจ็บจนแบบไม่รู้จะเจ็บยังไง เราเสียใจนะ คือเราใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน เวลาไปกินข้าว ช้อปปิ้ง เที่ยวต่างประเทศคือเราจะเป็นคนซัพพอร์ต เพราะเราหาเงินได้มากกว่า แต่เราเสียใจเพราะเงินเดือนเค้าไม่เคยมาเลี้ยงข้าวเรา แต่เอาไปเลี้ยงน้องคนนั้น เอาไปซื้อของ พาไปนู้นนี่นั้น เราเลยรู้สึกว่ามันไม่แฟร์สำหรับเราเลย ก็เลยถามเค้าว่าเธอทำแบบนี้มันทำร้ายจิตใจเรามาก ๆ แล้วปรากฏว่าเราเคยซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์ให้เค้าเป็นของขวัญวันเกิด ความที่เค้าเอากระเป๋าไปขาย เราก็กลัวว่าเค้าจะเอานาฬิกาไปขายด้วย เราก็เลยเอานาฬิกาโรเล็กซ์ของปลอมไปเปลี่ยนแล้วเอาของจริงไปเก็บไว้กับแม่ แล้ววันนึงเค้าอาจะไปช้อปปิ้ง เดินเล่น หรือเอาไปขาย เค้าก็มาบอกว่าเธอมาเปลี่ยนนาฬิกาโรเล็กซ์ฉันทำไม ฉันนี่โง่จริง ๆ อยู่กับเธอมาไม่มีอะไรเลย เค้าพูดแบบนี้แล้วทุบนาฬิกาโรเล็กซ์ปลอมแล้วส่งรูปมาให้เรา

ที่พี่จับได้เค้าเอาของไปขายมันเป็นมูลค่าเท่าไหร่ ?
จุ๊บแจง : จริง ๆ นาฬิกาโรเล็กซ์เค้ายังไม่ได้ไปขาย เพราะพี่เปลี่ยนก่อน แต่พี่ว่าน่าจะได้ประมาณหลักหมื่นอยู่แล้ว แต่ก็มีอยู่กรณีนึงที่ไปดูเงินในบัญชี แล้วเงินหายไปแล้วมันไม่มีข้อความอะไรเลย เราก็เลยคิดว่าด้วยระบบแบงค์หรืออะไร เราก็เอาบุ๊กแบงค์ไปเช็กที่ธนาคาร เค้าก็บอกว่าโอนตอนตี 2-3 เข้าบัญชีนี้ ก็คือบัญชีของแฟน เราก็ถามว่ายังไง ถ้าไม่ไปแบงค์จะรู้ไหมว่าโอนเงินไป เค้าบอกว่าเค้าต้องใช้เงิน แล้วตื่นแต่เช้า แล้วเราก็ถามว่าทำไมพี่ลบข้อความเค้าก็บอกว่ากลัวรกเครื่องจุ๊บ

 

 

ขอย้อนถามนิดนึงอะไรที่ทำให้เค้าเบื่อเรา เรื่องเซ็กส์มีผลสำคัญไหม ?
จุ๊บแจง : เคยถามเค้าตั้งแต่ครั้งแรก ว่าเรามีความบกพร่องหน้าที่ความเป็นเมียไหม เรื่องนี้หรือเปล่า เค้าบอกว่าไม่ใช่ เรารองจากแม่เค้าเป็นผู้หญิงคนที่สองที่รักเค้ามากที่สุดในชีวิต เค้าไม่รู้จะหาผู้หญิงที่ไหนที่จะรักเค้าได้แบบนี้ เราก็บอกเค้าว่าฉันรักเธอ เธอก็รู้แล้วนี่คือสิ่งที่เธอตอบแทนฉันเหรอ ซึ่งช่วงที่เครียดหนัก ๆ พี่ไม่อยากรับรู้อะไรเลย แบบกินยาแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมา เคยคิดฆ่าตัวตายหลายที

แล้วอะไรที่ทำให้พี่ผ่านจุดคิดฆ่าตัวตาย ?
จุ๊บแจง : ครอบครัวค่ะ พี่ น้อง คนรอบข้างเรา ทุกคนให้กำลังใจ พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นคนที่เป็นเพื่อนร่วมงาน คนทั่วไป รักเรามากกว่าคนที่เราคิดจะฝากชีวิตไว้กับเค้า

ถ้าอดีตแฟนมาขอคืนดีเราให้มั้ย ?
จุ๊บแจง : คงไม่แล้ว เพราะว่าช่วงระยะเวลาก่อนที่เค้าทำหรือหลังทำไปแล้ว และเค้าเยียวยาจิตใจเรา อาจไม่แน่คือจะลืมทุกอย่าง แต่เค้ายืนยันจะออกไปใช้ชีวิตที่เหลือ เราก็เคารพในการตัดสินใจของเค้า เพราะฉะนั้นเค้าก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของเรา เราเคยพูดว่าถ้ามีคนมาขอฉันแตต่งงาน ฉันจะแต่งเลย เค้าบอกว่าเธออย่าทำประชดฉันเลย เพราะเธอยังรักฉันอยู่

ทุกวันนี้พี่พร้อมจะอโหสิให้เค้าทั้งสองไหม ?
จุ๊บแจง : ทุกวันนี้ทำบุญเยอะมาก ตั้งแต่จับได้ ก็ 20 ปีเนอะ ชาติที่แล้วเราอาจจะทำเวร ทำกรรมกับเค้าไว้เยอะ ก็พยายามทำบุญเยอะ ๆ ให้เค้ามีชีวิตที่ดีกับชีวิตคู่ใหม่ที่เค้าเลือก ตัวเราเองก็ขอให้มีสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต

 

 

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00 น.ทางช่อง one31 Facebook Page :คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่Youtube Channel : Orange Mama

เรื่องน่าสนใจ