ที่มา: Khaosod Online

วันที่ 22 กันยายน ที่ลานอินฟินิซิตี้ ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน ชาคริต แย้มนาม พระเอกชื่อดัง ควง วุ้นเส้น-วิริฒิภา ภรรยาคนสวย ให้สัมภาษณ์หลังร่วมงานแถลงข่าว “ทีโอเอ โน้ต แอนด์ คลีน สีสร้างผนังไวท์บอร์ด เขียนได้ ลบได้” ถึงเรื่องที่มีกระแสข่าวว่า ‘ชาคริต’ ห้าม ‘วุ้นเส้น’ ภรรยาเล่นละครอีกแล้ว เพราะไม่พอใจฉากเลิฟซีน 

ชาคริตแจงว่า “พวกคุณก็รู้ว่าผมไม่ได้พูด ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ผมเล่นหนังแม่เบี้ยขนาดนั้น ผมจะไปว่าอะไรภรรยาผมได้ เข้าใจว่าข่าวก็คือข่าว ไม่เคยเดินหนีนักข่าว นอกจากวันงานแม่เบี้ยที่นักข่าวจะสัมภาษณ์ต่อ แต่ผมต้องรีบไปรับเสด็จฯ 

อีกอย่างผมว่าละครถ้ามันจะดังก็ดังด้วยตัวมันเอง นักแสดงเล่นดี มันก็ดังของมันเองได้ ไม่จำเป็นต้องใช้คนอื่นหรือทำให้ครอบครัวคนอื่นมีปัญหา มันบาป ระวังจะเข้าตัว เราเองทำงานมาหลายปี เป็นโปรเฟสชั่นแนลพอ รู้ว่าทำอะไรกันอยู่ ภรรยาเราก็เป็นนักแสดงที่มีความสามารถ ถึงไม่ได้เล่นเยอะ แต่ผมก็เห็นว่าเขามีของ พร้อมซัพพอร์ตเขาในการแสดงอยู่แล้ว” 

26

 

ส่วนตัวคุยกันเรื่องนี้ไหม วุ้นเส้น กล่าวว่า
“คุยกันตลอด พี่คริตรู้ตั้งแต่วันนั้นแล้วที่ถ่าย เพราะรูปก็ออกมาวันนั้น พี่คริตก็บอกว่าเขาโปรเฟสชั่นแนล”

ชาคริตเสริม
“ผมอาจเคยพูดเล่นๆ ว่าถ้ามีต่อนอกรอบค่อยเคลียร์ แต่ถ้าอยู่ในเนื้องานผมไม่มีปัญหา เขาเรียกว่าเป็นโปรเฟสชั่นแนล อีกอย่างเวลาทำงานจะรายงานตลอด หนึ่งเราต้องตื่นมาไปทำงานกับคนนู้นคนนี้ตลอดเวลา ฉะนั้นเราต้องอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจ เชื่อใจ เปิดใจ และเป็นโปรเฟสชั่นแนล จริงๆ มันก็เหมือนโดนดูถูกอาชีพเราเหมือนกัน เอาเราไปเล่นในเชิงแบบนี้ และกลายเป็นเรื่องส่วนตัวด้วย ทุกเช้าเราตื่นมาต้องไปเป็นคาแร็กเตอร์นู้นคาแร็กเตอร์นี้

พอกลับมาเป็นตัวตนของเราเอง ก็ยังมีข่าวแบบนี้ บางทีเราก็ท้อ อย่าเล่นเลยดีกว่า ถ้าของมันดีจริงก็ดีเองแหละ อาจจะมีแฟนคลับชอบละครอยากจะผลักให้มันดังขึ้นไปอีก แต่ทางอื่นก็มีมั้ง ไม่ต้องเล่นกับครอบครัว อยากให้ครอบครัวทะเลาะกันแตกแยก มันไม่ใช่เรื่องนะ”

ถามว่าโกรธไหม วุ้นเส้นกล่าวว่า
“จริงๆ ไม่ได้ชอบอยู่แล้วกับข่าวแบบนี้ เพราะเราเป็นคนทำงานอยู่ในวงการมานาน แล้วพอมีข่าวแบบนี้จะตั้งตัวไม่อยู่ จริงๆ ก็ชินเพราะข่าวเกิดขึ้นได้เสมอ แต่อันนี้ที่ซีเรียสเพราะเขาเขียนว่าเป็นคำที่พี่คริตพูด ซึ่งถ้าเกิดไม่มีใครได้คุยกับพี่คริตหรือออกมาชี้แจงแบบนี้ คนก็เข้าใจว่าพี่คริตพูดอย่างนั้นจริงๆ เลยอยากให้แบบ ถ้ามีอะไรก็ควรเขียนตามหลักความจริงมากกว่าที่จะแต่งเป็นประโยคคำพูดขึ้นมาเอง”

ชาคริตกล่าวว่า
“ผมเป็นคนที่โดนโน่นโดนนี่มาตลอด เพราะผมเป็นคนนิ่งๆ ไม่พูดอะไร แต่คราวนี้ซีเรียสนิดนึง เพราะผมรักเมียผม ทุกอย่างมันก็ดีๆ อยู่ เวลาเขาอยู่ที่กองก็อยากให้อยู่กันอย่างสบายใจ ไม่ใช่มานั่งเป็นเดือดเป็นร้อนกลัวว่าผมจะเป็นอะไรหรือเปล่า อยากจะบอกว่าเรื่องแบบนี้มันไม่สามารถกระทบอะไรผมได้อยู่แล้ว ไม่ได้อยู่ในจุดที่ผมจะต้องไปนั่งหึงหวงอะไรใคร ทำงานมาขนาดนี้แล้วรู้ว่าอะไรเป็นอะไร”

คิดจะหาต้นตอคนเขียนข่าวไหม วุ้นเส้นกล่าวว่า
“จะหายังไงอ่ะ ข่าวในอินเตอร์เน็ตมันก็เขียนได้หมด ข่าวที่ออกมาเริ่มต้นมาจากเว็บอะไรสักอย่างก็ไม่รู้ ไม่ใช่เป็นพี่ๆ นักข่าวที่เรารู้จักกันอยู่แล้ว เหมือนเขาเขียนขึ้นมาเอง”

ชาคริตกล่าวว่า
“ผมก็รู้ว่าไม่ได้มาจากนักข่าวที่เจอๆ กันอยู่ทุกวัน เพราะเจออยู่ทุกวันแล้วจะแต่งเรื่องขึ้นมาทำไม แต่อย่างที่บอก อยู่มานานเจออะไรแบบนี้ก็ทิ้งๆ มันไป อย่าไปอะไรมาก เพราะจริงๆ ไม่ได้กระทบอะไรคู่เราเพราะเราแข็งแรง อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าอาจจะมีมุมที่คนลืมนึกไปหรือเปล่า เห็นเป็นเรื่องสนุก หรืออยากจะเพื่อผลประโยชน์อะไร แต่บางทีถ้าเกิดเราทะเลาะขึ้นมาจริงๆ มันก็เจ็บนะ

การขายข่าวแต่ละอันตอนนี้บางทีมันมากเกินไปสำหรับนักแสดง กว่าเราจะสู้กันมา รักกัน เป็นแฟนกัน แต่งงานกัน ทุกอย่างมันใช้เวลา ฉะนั้นอย่าบั่นทอนด้วยความสนุกของคุณ ผมว่ามันไม่ค่อยให้เกียรติกันเท่าไหร่”

จริงๆ มีการตรวจละครก่อนที่จะให้วุ้นเส้นเล่นไหม ชาคริตตอบว่า
“จริงๆ เป็นทางผมมากกว่าที่จะให้วุ้นอ่านตลอด เพราะผมอ่านช้ามาก ผมเชื่อเขาเพราะอันไหนที่วุ้นเลือกให้มันจะดี ส่วนที่บอกว่าผมห้ามวุ้นเล่นละครก็ไม่มีเลย ตอนนี้มันเป็นคำที่ฮิตเลยนะ เห็นคนมาคอมเม้นต์ในไอจีว่า ‘เมียคนเดียวเลี้ยงได้’ คือมันเลี้ยงได้อยู่แล้ว แต่ช่วยกันทำงานก็ดี

ด้วยความที่เนเจอร์ของวุ้นเขาไม่ได้เริ่มงานมาจากการเล่นละคร แต่ถ้าเขาจะเล่นทั้งทีคือเขาต้องตั้งใจ แล้วเขาก็เชื่อและมีความสุขที่จะเล่น เพราะฉะนั้นอยากให้เขาเต็มที่ถ้าเขาเลือกแล้ว เขาทำแล้วสนุกก็ส่งผลดีกับเรา แล้วถ้าเกิดทำงานกันเยอะ หรือทำงานที่ไม่มีความสุข กลับมาบ้านก็หงุดหงิดใส่กัน จริงๆ เขาเป็นคนบ้างานอยู่แล้ว ก็ทำงานมาตลอด”

วุ้นเส้นเสริม
“ต้องช่วยกันทำงาน จะให้ดิฉันเป็นคุณนายอยู่บ้านเลยมั้ยคะ ไม่หรอกค่ะ คือวุ้นก็ยังรับงานปกติ ข่าวที่ออกมา มันเป็นคำพูดของคนอื่น คือเราทำงานแล้วก็จะได้ไม่ต้องมาขอตังค์เขาไง แต่ถ้าของแพงมากก็ต้องให้เขาซื้อให้ เพราะเราชอบทำงานแล้วเก็บเงิน”

เหมือนทางพุฒิ(พุฒิชัย)เอง ก็ค่อนข้างซีเรียส วุ้นเส้นตอบว่า “พุฒิเขาก็ฝากขอโทษ” ชาคริตรับช่วงต่อว่า “ผมบอกน้องว่ามันไม่สามารถกระทบอะไรกับพี่ได้หรอก อย่าคิดมาก โตๆ กันแล้ว เราทำงานปกติก็ขอบคุณที่เขาแคร์ แต่ผมไม่ซีเรียส สบายใจได้ ไม่ได้โกรธหรืออะไรเลย ถามว่าวุ้นเล่นเลิฟซีนผมก็โอเคใช่มั้ย ได้ดูหนังแม่เบี้ยรึยัง ไปดูแล้วค่อยมาถามดีกว่า ว่าผมจะซีเรียสกับเมียผมมั้ย(หัวเราะ)”

วุ้นเส้นกล่าวว่า
“ทำไมไม่มีใครถามเลยว่าวุ้นไปดูแม่เบี้ยมาเป็นยังไงบ้าง หรือว่าเขาไว้ใจเรา ไม่หรอกค่ะ ก็สนุกดี ทุกคนตั้งใจทำงาน ก็ฝากด้วย”

เรื่องน่าสนใจ