selfie1

แทบไม่น่าเชื่อว่า “เซลฟี่” หรือการถ่ายรูปตัวเองจากกล้องในโทรศัพท์มือถือ แล้วโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย จะกลายเป็นสาเหตุ เป็นแรงผลักให้คนแห่ไปทำศัลยกรรม “อัพความงาม” เพิ่มขึ้น เพราะอยากถ่ายเซลฟี่ได้สวย

เจนนิเฟอร์ เรย์โนลด์ สาวคอสตาริกา 34 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่ทันตกรรมอยู่ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เล่าว่า เธอเป็นคนที่รักสวยมาก แต่ไม่เคยกล้าถ่ายเซลฟี่เลย และไม่เคยชอบรูปถ่ายของเธอเอง ที่มีคนแท็กให้ในเฟซบุ๊กหรือโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียอื่นๆ เลยสักครั้ง

แต่วันนี้ เจนนิเฟอร์บอกว่า เธอไม่รู้สึกเช่นนั้นแล้ว หลังจากเธอเลือกแก้ปัญหาเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง เพื่อจะได้ถ่ายเซลฟี่ได้สวย ด้วยการทำศัลยกรรมเสริมจมูก

“ตอนนี้ ฉันรู้สึกมั่นใจในหน้าตาตัวเองมากขึ้น และเมื่อใดที่ต้องถ่ายเซลฟี่ ฉันก็พร้อม ไม่ได้รู้สึกมีปัญหาเหมือนก่อน”

ทั้งนี้ จากบทความของรอยเตอร์เล่าว่า เจนนิเฟอร์เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่หันไปพึ่งหมอศัลยกรรมความงาม ให้ช่วย “อัพรูปลักษณ์” ให้ดูดีขึ้น ขณะที่มีคนอีกจำนวนหนึ่งหันไปพึ่งเมกอัพอาร์ติสส์ หรือช่างแต่งหน้า ให้ช่วยแต่งหน้าให้เวลาจะต้องถ่ายเซลฟี่ แทนการพึ่งมีดหมอ

ในบทความดังกล่าว รอยเตอร์ได้อ้างมีหมอศัลยกรรมในสหรัฐอเมริกาหลายราย ต่างบอกว่า มีคนไข้ที่เดินเข้ามาผ่าตัดทำตา 2 ชั้น มาให้คุณหมอผ่าตัดเสริมจมูก เพราะอยากถ่ายเซลฟี่ได้สวยเพิ่มมากขึ้นจริงๆ

ขณะที่ยังมีข้อมูลจากโพลสำรวจของสมาคมศัลยกรรมความงามแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีแพทย์เป็นสมาชิกอยู่ราว 2,700 ราย อ้างว่า มีหมอศัลยกรรมความงาม 1 ใน 3 ที่บอกว่ามีคนไข้ที่เดินเข้ามาหาตนให้ทำศัลยกรรม ด้วยเหตุผลเพราะไม่พอใจ หรือเป็นกังวลเรื่องรูปลักษณ์ของตนในโลกออนไลน์

นอกจากนั้น ในโพลสำรวจยังพบว่า จากสถิติเมื่อปี พ.ศ.2555 และ 2556 พบว่ามีการทำผ่าตัดทำศัลยกรรมจมูก เพิ่มขึ้น 10%, ศัลยกรรมทำตา 2 ชั้น เพิ่มขึ้น 6% และศัลยกรรมปลูกเส้นผม เพิ่มขึ้น 7%

นายแพทย์แซม ริซค์ หมอศัลยกรรมความงามในย่านแมนฮัตตัน เล่าว่า “ในช่วงปีที่แล้ว และช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา คลินิกผมมีคนไข้เพิ่มขึ้น 25% ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีนัยสำคัญ มีคนไข้ที่เดินเข้ามาหาผม พร้อมโชว์รูปของเขาในโทรศัพท์มือถือให้ผมดู เซลฟี่กลายเป็นสิ่งที่สังคมคลั่งไคล้กันมาก”

ทั้งนี้ คุณหมอแซม ซึ่งเชี่ยวชาญการทำศัลยกรรมจมูก เล่าว่า เขาไม่ได้ทำศัลยกรรมให้แก่คนไข้ทุกคนที่เดินเข้ามาหา เพราะคนไข้บางคนมีจมูกสวย รับกับใบหน้าดีอยู่แล้ว อีกทั้งรูปเซลฟี่ มักจะเป็นรูปที่บิดเบือน ไม่ได้เหมือนรูปร่างหน้าตาจริงๆ ของเจ้าของเซลฟี่

“รูปเซลฟี่ของเราทุกคน ล้วนมีตรงไหนสักที่ที่มันผิดเพี้ยนไม่ตรงกับความเป็นจริง และผมเอง ก็เชื่อว่า สัดส่วนโครงหน้าในรูปเซลฟี่ มันไม่ตรงกับสัดส่วนโครงหน้าจริงๆ ของคนๆ นั้น”

หมอแซมยังเล่าด้วยว่า มีคนไข้ของเขาหลายคนที่ผิดหวัง เมื่อได้ยินเขาปฏิเสธไม่ยอมทำศัลยกรรมให้ และเขาก็เชื่อด้วยว่า คนไข้เหล่านั้นก็ต้องไปหาหมอศัลยกรรมคนอื่นต่อ

“การที่ใครสักคนเอาแต่เซลฟี่ มีรูปเซลฟี่เยอะมาก มันชี้ให้เห็นถึงความหมกมุ่นในตัวเอง และระดับความไม่มั่นใจในตัวเอง มันยิ่งทำให้แย่ลง บางคนมีรูปเซลฟี่วันละเป็นร้อยรูปในเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม” หมอแซมบอก

ด้าน เรมี่ กาฟนี่ ช่างแต่งหน้าในนิวยอร์ก ที่เคยรับงานแต่งหน้าให้ลูกค้าเพื่อถ่ายรูปเซลฟี่ และถ่ายรูปโปรไฟล์ เพื่อใช้ในเว็บหาคู่ มีคำแนะนำถึงเทคนิคการแต่งหน้าเพื่อถ่ายเซลฟี่ให้ออกมาดูสวยว่า ควรเน้นสไตล์การแต่งหน้าบางๆ ที่ดูเป็นธรรมชาติ เน้นแต่งคิ้วให้สวยได้รูป ทาลิป เพิ่มสีสันให้ริมฝีปาก เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

ที่มา : คอลัมน์ ร่อนตามลม มติชนรายวัน

เรื่องน่าสนใจ