ที่มา: matichon Online

หลังจากเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม รายการ ‘ตีสิบเดย์’ ในช่วง ‘แพทซ่า’ ได้เชิญหมอก้อง หรือ พันตรีนายแพทย์สรวิชญ์ สุบุญ นักแสดงและคุณหมอชื่อดัง ได้มาให้ความรู้ในเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เช่น การช่วยเหลือคนเมื่อถูกไฟดูด, งูกัด, จมน้ำ ฯลฯ  ล่าสุดนายแพทย์วิทวัส ศิริประชัย หรือ จ่าพิชิต เจ้าของแฟนเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความเห็นถึงการให้ข้อมูลดังกล่าวว่ามีความคลาดเคลื่อน

33

โดยข้อความมีดังนี้…

“เมื่อวานหมอก้องไปออกรายการตีสิบเดย์แล้วสอนเรื่องการปฐมพยาบาล ขอแก้ไขข้อมูลของหมอก้องหน่อยครับการปฐมพยาบาลงูกัดในปัจจุบัน ไม่แนะนำให้ขันเชนาะหรือรัดเหนือบริเวณที่ถูกงูกัดเพื่อกันพิษแล่นเข้าสู่หัวใจแล้ว เพราะ “ไม่มีประโยชน์ใดๆ” แถมยังทำให้พิษเข้าสู่ระบบน้ำเหลืองไวขึ้นด้วย ถ้าซวยหน่อยเจอคนขันเชนาะไม่เป็น ก็อาจจะรัดจนแขนขาส่วนที่ถูกรัด ขาดเลือด เนื้อตาย ต้องตัดแขนตัดขา ซวยกันไป ถ้าถูกงูกัดไม่ต้องขันเชนาะหรือรัดบริเวณที่โดนกัด ไม่ต้องเอาปากดูดพิษด้วย แค่เอาอะไรก็ได้แข็งๆมาดามตำแหน่งที่โดนงูกัดให้อยู่นิ่งๆ หรือให้คนเจ็บทำตัวให้นิ่งที่สุด แล้วหามส่ง รพ แม่งเลย อนึ่ง พิษแล่นเข้าสู่หัวใจ ไม่มีคำนี้ในสารระบบของการแพทย์แผนปัจจุบันเพราะพิษมันไม่ได้อกฤทธิ์ที่หัวใจ แต่ออกฤทธิ์ที่ระบบประสาท การแข็งตัวของเลือด และกล้ามเนื้อ

สอง งูแมวเซา พิษไม่ทำให้ง่วง แต่ทำให้เลือดแข็งตัวผิดปรกติ ส่วนไอ้ความเชื่อที่ว่างูบางชนิดกัดแล้วง่วง จริงๆไม่ใช่ง่วง แต่กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตเพราะพิษงูบางชนิดส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หนังตาตก กล้ามเนื้อที่ใช้หายใจอ่อนแรงจนหายใจเองไม่ได้ แล้วก็ขาดออกซีเจนตายในที่สุด

ประเด็นต่อมา เมื่อเด็กมีไข้ การใช้คูลฟีเวอร์แปะหัว ไม่ได้ช่วยอะไรมากครับ แค่หัวเย็น แต่ถ้าอยากจะลดไข้เด็ก ป้องกันไม่ให้เด็กชักเพราะไข้สูง ให้เช็ดตัวครับ เช็ดแล้วถูกผิวให้แรงๆหน่อยเส้นเลือดที่ผิวหนังจะขยายตัวแล้วคายความร้อนทำให้ไข้ลง

ประเด็นต่อมาหมอก้องสอนการช่วยคนที่หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้นว่าให้เริ่มจาก ABC คือ เปิดทางเดินหายใจ Airway ก่อน อันนี้เลิกใช้มาได้ประมาณสี่ห้าปีแหล่ว ในไกด์ไลน์การช่วยชีวิตอันล่าสุด ให้ C คือการปั๊มหัวใจมาเป็นอันดับแรกแล้วนะครับ คือเน้นความสำคัญของการปั๊มหัวใจเป็นอันดับแรก ถ้าเจอคนหมดสติ เรียกไม่รู้สึกตัว ปั๊มหัวใจไปเลยครับสำคัญสุด ยกเว้นในกรณีจมน้ำที่ยังใช้ ABC ได้นะครับ เพราะอาจมีพวกดินโคลนอุดตันในทางเดินหายใจได้ ให้เอาของแปลกปลอมที่คาอยู่ในปากและอาจอุดตันทางเดินหายใจออกให้หมด จากนั้นก็ปั๊มหัวใจแล้วผายปอดแม่มเลยครับ

ประเด็นต่อมา หมอก้องปั๊มหัวใจคนไข้ผิดตำแหน่งนะครับ ที่หมอก้องบอกว่าให้เหนือลิ้นปี่สองนิ้ว และเยื้องไปทางซ้ายอีกสองนิ้วเพราะหัวใจอยู่ทางซ้าย อันนี้ผิดครับ ตำแหน่งปั๊มหัวใจที่ถูกต้องคือ กระดูกลิ้นปี่ส่วนล่างตรงกึ่งกลางเลยครับ ไม่ต้องเยื้องไปทางไหนทั้งนั้น ปั๊มให้เร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที ให้ยุบลงไปประมาณ 5-6 ซม

ประเด็นต่อมาที่หมอก้องบอกว่าถ้าคนท้องใกล้คลอด ปากมดลูกเปิด หัวเด็กโผล่มาขนาดนั้นแล้ว บอกให้แม่กั้นคาไว้อย่าเบ่ง อันนี้อันตรายเพราะถ้าหัวเด็กโผล่มาขนาดนั้นแล้วคาไว้ เด็กอาจจะขาดออกซีเจนถึงตายได้ แต่ถ้าเด็กยังไม่โผล่ ก็อย่าเพิ่งรีบเบ่ง ให้รีบไป รพ จะดีสุดครับ

สรุป… เอาเป็นว่าทางหมอก้องกับรายการตีสิบควรจะเช็คข้อมูลเรื่องการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องก่อนออกสื่อกันซักหน่อยนะครับ ไม่งั้นถ้าคนจำผิดๆแล้วเอาไปใช้นี่แม่งอันตรายมาก” 

อย่างไรก็ตามโพสต์ดังกล่าวมีผู้แสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก บางความเห็นเป็นแพทย์ที่เข้ามาแย้งข้อมูลของจ่าพิชิตในบางประเด็น ซึ่งจ่าก็ได้แก้ไขให้ถูกต้อง ขณะที่บางคนได้มาแสดงความสงสัยว่าข้อมูลของจ่านั้นเชื่อถือได้เพียงใด จ่าก็ได้นำเอกสารทางการแพทย์มาอ้างอิง และหลังจากนั้นก็ได้มีคนเข้าไปคอมเมนท์ในอินสตาแกรมของหมอก้องให้มาเช็คเพจ Drama-Addict ถึงสิ่งที่จ่าพิชิตได้โต้แย้ง แต่ทางด้านหมอก้องก็ได้ตอบกลับมาว่า สิ่งที่ทำไปในรายการนั้นเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากอาจารย์ และได้มีการเพิ่มอรรถรสทำให้รายการดูสนุก บันเทิงไปด้วยนั่นเอง 

34

ทางด้านจ่าพิชิตก็ได้โพสต์ข้อความไว้ว่า … 

คุณหมอก้อง ด้วยความเคารพนะ

“ข้อมูลทางวิชาการที่นำไปออกรายการผมก็ได้มาจากอาจารย์ครับ แต่ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่ารายการวาไรตี้ต้องทำให้ดูสนุก ไม่เครียดกับข้อมูลวิชาการเกินไป ผมว่าลองกลับไปดูรายการย้อนหลังสิครับ”

อย่างแรก เรานำเสนอให้สนุกบันเทิง ไปพร้อมๆกับให้ข้อมูลทางการแพทย์ที่ถูกต้องได้ครับ

อย่างที่สอง ผมไม่ได้เรียน วพม นะ แต่รู้จัก คนที่จบ วพม หลายคน ส่วนมากเก่งๆทั้งนั้น และมั่นใจว่าอาจารย์แพทย์ของมหาลัยแห่งนี้มีคุณภาพแน่นอน และไม่มีอาจารย์แพทย์ที่มีคุณภาพท่านใด สอนให้ CPR ที่ตำแหน่งนั้นหรอกครับ หมอๆที่จบ วพม มาคอนเฟิร์มกันหน่อยเร้ว

เรื่องน่าสนใจ