ที่มา: dodeden

กรณี โดดเด่นดอทคอม นำเสนอข่าวเกี่ยวกับว่า ดราม่าเกี่ยวของ นายแบบ และ นิตยสารเกย์  โดยเป็นการนำเอาอุทาหรณ์มาเล่าผ่านสื่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่นักศึกษาวัย 20 กว่าๆ คือ นายเดชาวัฒน์ รักษาศิลป์ หรือ  เจมส์ นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านวิภาวดี  ซึ่งได้ไปออกรายการ A-POP บันเทิงอมรินทร์ทีวีช่อง 34  พร้อมเล่าเรื่องการโดนหลอกไปถ่ายแบบจนมีผลกระทบมากมาย  ( จะโดนหลอก หรือ เต็มใจ ) ก็น่านำมาเป็นกรณีศึกษา  

ทั้งนี้ เนื่องจากทำให้เยาวชนดีๆ คนนึง อาจหมดอนาคตในการศึกษา เพราะหนุ่มเจมส์ เป็นนักศึกษาทุนเรียนฟรี รวมทั้งได้เป็นเดือน ของมหาวิทยาลัย และได้เป็น Brand Ambassador ( แบรนด์ แอมบาสเดอร์ ) ของมหาวิทยาลัย มีป้ายโชว์หราหน้ามหาวิทยาลัยอีกด้วย ซึ่งทางกลุ่มอาจารย์มองว่าเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี

ในเรื่องเฉกเช่นเดียวกันนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต บางท่านอาจจะจำได้ บางท่านอาจจะจำไม่ได้ ซึ่งเหมาะแก่การนำมาเป็นเรื่องเตือนภัย อุทาหรณ์สำหรับเยาวชนวัยเรียน นักศึกษาต่างๆ ให้มีความระมัดระวังมากขึ้น

เรื่องของ ดาหวัน สิงห์วี ( พิชญ์สิณี สิงห์วี )  ซึ่งขณะนั้น ปี 2541 – 2542 เธอคือผู้หญิงงดงาม สวยมาก หุ่นสูงเพรียว เป็นรองมิสยูลีก ( Miss U-League ) บัณฑิตสาวมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังย่านคลองประปา ได้ถ่ายแบบถ่ายเซ็กซี่ให้กับนิตยสารฉบับหนึ่ง ซึ่งเป็นภาพที่ธรรมดามากในยุคนี้ แต่หากเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว สังคมมองว่าเซ็กซี่เกินไป 

ตอนนั้นยังไม่มีข่าวออนไลน์ ดาหวันเป็นข่าวใหญ่หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ทีวีเกือบทุุกช่องเสนอข่าวเธอ โดยเฉพาะไอทีวี ที่ทำสกู๊ปเจาะลึกเลยทีเดียว

แม้ช่วงนั้น ( ปี 2541 2542 ) ไม่มีโซเชี่ยลมีเดีย เหมือนยุคนี้  ( ปี 2559 )  ดาหวัน สิงห์วี เป็นบัณฑิตที่กำลังจะเข้าพิธีประสาทปริญญา โดนกระแสการบอกต่อ การรวมกลุ่ม จนนำไปสู่การถูกต่อต้าน จากกลุ่มคนบางกลุ่ม และ บางองค์กร

อย่างไรก็ตาม ถ้าเราย้อนกลับไปดูเรื่องราวการถ่ายแบบแนวเซ็กซี่เกิดขึ้นเสมอจนคนทั่วไปรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว เท่าที่จำได้ก็มีนักศึกษาหลายคน ดาราวัยรุ่นหลายคน ก็ออกมาถ่ายแบบจนเป็นข่าวฮือฮากันอยู่พักใหญ่ 

แต่กรณีของดาหวัน โดนองค์กรบางกลุ่มกดดันให้มหาวิทยาลัยที่ดาหวันจบการศึกษา ถอดถอนปริญญาบัตรเลยทีเดียว

เป็นความโชคดี ตอนนั้นมีกลุ่มคนจำนวนมากที่มองอีกมุม ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการกระทำของบางองค์กรที่กำลังพิพากษาผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งให้หมดอนาคต  นับว่าโชคดีมากที่มหาวิทยาลัยไม่ได้บ้าจี้ไปตามความคิดล้าหลังของกลุ่มคนนั้น

คนกลุ่มนั้นเผลอลืมไปว่าจะสามารถเป็นผู้พิพากษา ตัดสินอนาคตของนักศึกษา ไม่ให้เข้าพิธีประสาทปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัย 

แม้ว่าบางคนจะไม่เห็นด้วยกับการที่เธอมาถ่ายแบบเซ็กซี่ในขณะเรียนหนังสือในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นอาชีพที่สังคมไทย ( บางคน ) มองว่าไม่ดี แต่ก็เป็นอาชีพที่สุจริต สิ่งที่จะตัดสินเธอ หรือ พิพากษาเธอควรจะเป็นการกระทำระยะยาวของเธอเองมากกว่า ( ชีวิตเธอตอนนี้ดีมาก )

เรื่องราวของ ดาหวัน ช่วงนั้นทำให้เธอกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาสังคมไทยที่นำเสนอผ่านสื่อยุคเก่า การจับกลุ่มนินทา แต่ยังดีที่สังคมไทยยังไม่รุนแรงเท่าสมัยนี้ โดยผู้ที่เรียกว่า “ชาวเน็ต” ตามเฟสบุ๊ต ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ไลน์ เว็บบอร์ด ฯลฯ ออกมาโจมตีเธอ  ไม่เช่นนั้น ดาหวัน ต้องตกที่นั่งลำบากในสายตาของสังคม ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำผิดถึงขั้นคอขาดบาดตาย

หากเปรียบเทียบกัน ดาหวัน ในยุค 2541  ก็เหมือนกับ เจมส์ เดชาวัฒน์ ในยุค 2559 ที่ผู้ชาย และ ผู้หญิง ในวัยนักศึกษาเหมือนๆ กัน เป็นเพียงคนๆ หนึ่ง ในสังคมที่กำลังดิ้นรน ต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจ และความอยู่รอดในสังคมที่มีแต่การแข่งขัน 

แม้ว่าจะไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องนัก แต่ก็ไม่ใช่วิธีที่ผิดด้วยกฎหมาย เงินที่ได้มาก็เป็นเงินบริสุทธิ์ ได้มาจากอาชีพที่สุจริต 

อย่างน้อยก็ดีกว่าคนอีกจำนวนมาก ที่ คอร์รัปชั่น ปล้นฆ่า ค้ายา คนเหล่านี้นอกจากไม่สร้างสรรค์แล้ว ยังทุจริต ทำลายสังคมอีกด้วย 

ดังนั้น หากนักศึกษาที่ผิดพลาดไปในวันนี้ ดูตัวอย่างจากบรรดารุ่นพี่ ผู้หญิงแกร่งคนนึง ที่ผ่านมรสุมชีวิตมาก่อน ทั้งๆ ที่เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่สามารถก้าวข้ามผ่านมันมาได้

ชีวิตในวันข้างหน้าก็จะไม่มีคำว่าสาย หรือ หมดอนาคตอย่างที่ เจมส์ เดชาวัฒน์ คิดไปเอง เพราะมีคนเห็นต่าง และให้กำลังใจมากมายจากการแสดงความคิดเห็นมากมาย   

สำหรับตัวอย่างผู้แสดงความคิดเห็นบางส่วน ระบุว่า Aleke Aleke  “ใช่ๆ นะ ก็เขาไม่ได้ไปจี้ปล้นใคร ไม่ได้ค้ายาบ้าเ สพยาสักหน่อย เขาต้องกินนะ ทุนให้แค่ค่าเทอมนะ ไม่ได้รวมค่าห้องค่ากินค่าเสื้อผ้าสักหน่อย”

ผิดมากเลยหรือ เขาไม่ได้โกงชาติ กินเมื่องนะครับ

Aaron Tan’Za Napatchawan  เขาทำงานหาเงินด้วยตัวของเขาเองมันไม่ดีตรงไหน เขาผิดอะไรที่เขาทำงาน ?

Soravich Kongphigun เขาทำงานเพื่อดำรงตน ทุนที่ให้ทุนในการเรียน ไม่ใช่ทุนดำรงชีวิตในประจำวัน

นายดวิษ วัชวงค์  เห็นด้วยครับ น้องเขาทำงานที่สุจริต มัวแต่มารอเงินทุน ผู้ใหญ่ต้องแยกแยะให้ถูกต้องครับ เปิดใจให้กว้าง อีกอย่างนั้นก็เป็นสะรีระร่างกายน้อง ไม่ใช่ของใครพ่อ แม่ให้มา เปิดใจครับท่าน

เครดิตภาพจาก พิชญ์สิณี สิงห์วี , เดชาวัฒน์ รักษาศิลป์
สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่

โดดเด่น
ศัลยกรรม
webdodeden

 

เรื่องน่าสนใจ