ดูแลความสวยในวัย 40+ อย่างไร ให้ยังดูสดใส ซาบซ่า!!! เพราะคนเรามีความเสื่อมมาตั้งแต่เกิด เพียงแต่ในวัยเด็กนั้น การเจริญเติบโตเกิดขึ้นมากกว่า จึงทําให้มองเห็นส่วนของผิวพรรณที่ดูเปล่งปลั่งสดใส และร่างกายที่เจริญเติบโตไปในทางบวกมากกว่า แต่ปัจจัยเหล่านั้น จะเริ่มลดลงเมื่ออายุ 20-25 เป็นต้นไป ซึ่งจะเริ่มพบว่าร่างกายจะเริ่มดูเสื่อมโทรมลงไปเรื่อยๆ
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะอายุมากขึ้น แต่ถ้าสามารถชะลอปัจจัยที่ทําให้เกิดความเสื่อม หรือปัจจัยเชิงลบให้เหลือน้อยลง และเพิ่มปัจจัยเชิงบวกให้มีมากขึ้นมากเท่าใด ก็จะยิ่งทําให้เราดูดีขึ้นมากเท่านั้น เพราะสมดุลของปัจจัยเชิงบวก และปัจจัยเชิงลบ คือสิ่งที่ทําให้คนวัยเดียวกัน แก่ไม่เท่ากันนั่นเอง
ปัญหาของคนวัย 40+
ในคนวัยนี้ ปัญหาเรื่องรูปลักษณ์เป็นสิ่งที่สําคัญมาก หลายคนที่ปล่อยปละละเลยมานาน พอรู้ตัวอีกที ก็เข้าสู่เลช 4 ซะแล้ว ถ้าพูดเรื่องความแก่ ปกติในผู้ชายจะแก่ก่อนผู้หญิง คือเริ่มแก่ตั้งแต่ตอนอายุประมาณ 30 ปี ในขณะที่ผู้หญิงจะเริ่มแก่ตอนอายุ 40 ปี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของริ้วรอย ภาวะหัวล้าน ไขมันรอบเอว อ้วนลงพุง ผู้ชายจะเริ่มปรากฎเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ก่อน แต่ในผู้ชายนั้น ลักษณะเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็จะค่อยๆ ดําเนินไปอย่างช้าๆ เนิบๆ ซึ่งแตกต่างจากผู้หญิง
ซึ่งแม้สัญญาณความชราจะเกิดขึ้นทีหลัง แต่พอเกิดแล้ว ภาวะเหล่านี้จะปรากฏเห็นเด่นชัดอย่างรวดเร็ว เหมือนดิ่งลงเหว เรียกว่า มาทีเดียวครบเซ็ท ทั้งตีนกา รอยเหี่ยว รอยย่น กระ ฝ้า ปัญหาหน้าบาน คางย้อย แก้มห้อย ถุงใต้ตา คาง 2 ชั้น หรือไขมันสะสม เซลลูไลท์ตามแขนขา ภาวะผมร่วง ก็จะร่วงเป็นกําๆ แต่ภาวะเหล่านี้ ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นเท่าเทียมกันทุกคน ซึ่งย่อมขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละคน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาด้วย
ผิวชั้นบน
เมื่อผิวมีการแบ่งตัวน้อยลง ผิวจะเริ่มบางลง ขาดความชุ่มชื้น แห้ง และลอกง่ายขึ้น มีริ้วรอยมากขึ้น ระคายเคืองง่ายขึ้น เม็ดสีถูกกระตุ้นได้ง่าย ทําให้ผิวแลดูหมองคล้ำ เกิดจุดด่างดํา อาจมีฝ้า กระ หรืออาจจะมีการควบคุมการแบ่งตัวของผิวที่ผิดปกติไป ทําให้มีลักษณะของติ่งเนื้อต่างๆ เกิดขึ้นได้
ผิวชั้นกลาง
เริ่มมีการเสื่อมสภาพ อีลาสติน คอลลาเจนหายไป ริ้วรอยเริ่มลึกมากขึ้น ถ้าชั้นไขมันหายไป จะเกิดเป็นร่องที่เห็นได้ชัดเจน หรือถ้าไขมันบางส่วนมาพอกพูนผิดที่ ก็จะทําให้เกิดความหย่อนคล้อย ซึ่งหมายถึงสัญญาณความชราโดยรวมทั้งหมดนั่นเอง
กล้ามเนื้อบนใบหน้า
ปัจจัยของกล้ามเนื้อบนใบหน้ามีส่วนสําคัญ เนื่องจากเราใช้กล้ามเนื้อในการแสดงอารมณ์ตลอดเวลา ดังนั้น เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อเหล่านี้ก็จะเหมือนได้รับการบริหารเพิ่มขึ้น จึงทําให้ใหญ่ขึ้น เช่น บริเวณกราม จะรู้สึกว่าทําไมหน้าตอนสาวๆ ดูเรียว แต่พออายุยิ่งมาก หน้าก็จะกลับบานออก เมื่อกรามบาน ก็ทําให้ใบหน้าดูบาน และดูใหญ่ขึ้นด้วย และคนในวัยนี้ จะมองเห็นริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์มากยิ่งขึ้น เช่น บริเวณรอบดวงตา ตีนกา รอยย่นที่หน้าผาก ซึ่งส่วนหนึ่ง เกิดจากการที่ชั้นของผิวบางลงร่วมด้วยเช่นกัน
อาจจะเลือกวิธีการที่รวดเร็ว ปัจจุบันทันด่วน นั่นก็คือเวชศาสตร์ความงามนั่นเอง เช่น ปัญหาริ้วรอย ซึ่งเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ของคนวัย 40+ ถ้าริ้วรอยเป็นมาก อาจต้องใช้นวัตกรรมความงามต่างๆ เข้าช่วย เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือนวัตกรรมเลเซอร์ทั้งหลาย เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพผิว
ถ้าเป็นริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ ซึ่งเกิดเพราะชั้นกล้ามเนื้อ ก็ต้องแก้ไขด้วยโบท็อกซ์ ถ้าริ้วรอยนั้นเกิดจากชั้นของไขมันแห้งหายไป ก็จะต้องใช้สารเติมเต็มฟิลเลอร์ หรือถ้าผิวชั้นกลางหย่อนคล้อย หรือเสื่อมสภาพ ก็จะใช้กระบวนการยกกระชับผิวทั้งหลาย เช่น การฉีด ยกกระชับหน้า การใช้เลเซอร์ไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และทําให้เกิดการยกกระชับ เช่น เทอร์มาจ อัลเธอร์รา หรือใช้ไหมร้อยยกกระชับหน้า จนไปถึงขั้นศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้ากันไปเลย หรือปัญหาแก้มห้อยคางย้อย หรือแก้มใหญ่ อาจแก้ไขด้วยการฉีดสลายไขมันที่แก้ม หรือใต้คาง ฉีดโบท็อกซ์ลดกรามลดความใหญ่ของรูปหน้า
…………………………………………….
สำหรับปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวของคนวัย 40+ ก็เป็นอีกปัญหาที่หนักอกหนักใจเช่นกัน ซึ่งการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ก็ต้องควบคุม หรือปรับพฤติกรรมการกินการบริโภค และออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยตัวเอง นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่คนส่วนใหญ่ มักจะทําไม่ค่อยได้ในวิถีชีวิต ปัจจุบัน ก็เลยอาจต้องไปอาศัยเครื่องมือ หรือนวัตกรรมต่างๆ ที่เข้ามาช่วยใช้ในการลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคาร์บ็อกซี อาร์เอฟ หรือเลเซอร์สลายไขมันชนิดต่างๆ อัลตร้าซาวน์ การฉีดสลายไขมันเฉพาะส่วน หรือการดูดไขมันไปเลยก็รวดเร็วทันใจดี
เนื้อหาโดย Dodeden.com