ภาพจากเพจ กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 แห่งเลโซโท เสด็จฯ ทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพและทรงพระอักษรแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และอาคารสำนักราชเลขาธิการ ในพระบรมมหาราชวัง
อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า ประเทศเลโซโทอยู่ตรงไหนของโลกนะ (อยู่ใกล้ประเทศแอฟริกาใต้) แล้วกษัตริย์พระองค์นี้ทำไมถึงเสด็จมาไทยเลย ทั้งๆถ้าจะเสด็จไปถวายอาลัยยังสถานทูตไทยในแอฟริกาใต้อาจจะง่ายกว่าหรือจะส่งสาสน์แสดงความเสียใจมาก็ได้ แต่พระองค์ทรงเสด็จมาถึงไทยเลย ทั้งๆที่ก็ไม่ใช่ใกล้ๆ
เรามีคำตอบมาฝากค่ะ จากเพจบ้านสวนบุญยังรักในหลวง
ทำไมกษัตริย์ เลโซโท ถึงมาถวายความเคารพพระบรมศพในหลวง ร.๙ ถึงประเทศไทย ? ? ?
เมื่อวาน ที่เห็นข่าวกษัตริย์เลโซโท เสด็จมาถวายสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่๙ จึงเกิดข้อสงสัยว่าทำไมพระองค์ถึงมาได้ ไทยกับเลโซโทมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
จากการหาข้อมูลจนพบว่า ไม่เพียงแต่ที่กษัตริย์เลโซโท เคยเข้าร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ครั้งนั้น พระองค์ได้เสด็จไปยังศูนย์พัฒนาห้วยฮ่องไคร้ จ.เชียงใหม่ เป็นการส่วนพระองค์ พระองค์สนพระทัยในการทำเกษตรผสมผสาน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.๙ มาก
ถึงกับขอพระบรมราชานุญาตนำแนวทางเกษตรผสมผสานและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในประเทศเลโซโท เนื่องจากประเทศเลโซโท เป็นประเทศเล็กๆ ขนาดใหญ่กว่าจังหวัดอุบลราชธานีของไทยนิดหน่อย อยู่บนที่ราบสูง พรมแดนถูกห้อมล้อมด้วยประเทศแอฟริกาใต้ ไม่มีทางออกสู่ทะเล ภูมิประเทศค่อนข้างแห้งแล้ง ผลิตอาหารไม่เพียงพอต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ขาดดุลการค้ามาก
และแล้วภายหลังจากปี 2549 ในหลวง ร.๙ ส่งเจ้าหน้าที่จากไทยไปให้ความรู้ มอบทุนในการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเกษตรตัวอย่างในประเทศโลโซโทขึ้น จนเวลาผ่านไป เกษตรกรเลโซโทสามารถผลิตอาหารได้ เป็นที่สนใจของประชาชนชาวเลโซโทมากและกำลังดำเนินรอยตาม นับว่าประสบความสำเร็จมาก
ในปี 2554 พระเทพฯ เสด็จเยือนเลโซโท เพื่อติดตามความก้าวหน้า และพบว่าการนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง การทำเกษตรผสมผสานมาใช้ในเลโซโท ประสบความสำเร็จแล้ว จึงได้ส่งมอบอาคารการดำเนินการให้เจ้าหน้าที่เลโซโทดำเนินการต่อ นับเป็นพระราชหฤทัยที่ ในหลวงร.๙ ทรงมีต่อประชาชน ไม่เฉพาะประเทศไทย แต่ยังเผื่อแผ่ไปยังประชาชนโลก
เราหาข้อมูลต่อจนพบว่า ในไทยนั้นมีกงสุลของเลโซโทอยู่แถวจรัญสนิทวงศ์ เข้าไปในเว็บไซต์ก็เจอข่าวน่าสนใจข่าวหนึ่งเกี่ยวกับ หนังสือท่องเที่ยว THE PRIDE OF THAIS AND AFRICANS เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ออกมาตอนปี 2557
ที่มาของหนังสือเล่มนี้ “เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2557 อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ และเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระองค์ผ่านโครงการหลวงต่างๆ
อาทิ ทรงโปรดเผยแพร่องค์ความรู้ด้านเกษตรแบบผสมผสานให้กับประเทศเลโซโท เมื่อครั้ง ฉลองการขึ้นครองราชย์ครบ 60 ปี สมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 แห่งราชอาณาจักรเลโซโท ได้เสด็จร่วมงานด้วย
หลังจากนั้นได้เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ไปยังภาคเหนือ เพื่อเยี่ยมชมโครงการหลวงที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะเห็นว่าประเทศไทย และประเทศเลโซโทเป็นประเทศเกษตรกรรมเช่นเดียวกัน และทรงได้ขอพระราชทานนำทฤษฎีการเกษตรแบบผสมผสานไปใช้ที่เลโซโท
เพราะเลโซโทสามารถผลิตอาหารได้เพียง 1 ใน 3 ของความต้องการทั้งหมด ที่เหลือต้องนำเข้าจากประเทศอื่นๆ และถ้าเกษตรแบบผสมผสานสามารถใช้ได้จริง เลโซโทจะสามารถผลิตอาหารเองได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในหลวงทรงอนุญาต และให้ความสนับสนุนในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านบุคลากร วิชาการ เงินทุน อุปกรณ์ รวมถึงการส่งวิทยากรไปฝึกอบรมให้กับนักวิชาการ และเกษตรกรที่เลโซโท
โดยพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 ได้พระราชทานที่ดินส่วนพระองค์ จำนวน 40 ไร่ ให้ทดลองทฤษฎีการเกษตรแบบผสมผสาน ซึ่งตอนนี้การทดลองได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และกำลังขยายไปยังส่วนต่างๆ ของเลโซโท และในพื้นที่ดังกล่าว ยังมีห้องจัดแสดงพระอัจฉริยภาพของในหลวงที่สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทั้งปี
นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของการทำปุ๋ยหมักที่ทรงส่งวิทยากรไทยไปสอนวิธีทำปุ๋ยหมักแทนการใช้ปุ๋ยเคมี สามารถช่วยเกษตรกรชาวเลโซโทประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกมาก และมีผลผลิต ที่ดีขึ้น ปลอดภัยขึ้น
รวมถึงโครงการพระดาบสที่สวาซิแลนด์ในส่วนของการเพาะเห็ด ซึ่งเป็นโครงการสนองพระราชดำริของพระราชชนนี Indlovukazi แห่งราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ เพื่อพัฒนาการเพาะเห็ดให้เป็นแหล่งอาหารและแหล่งรายได้สำหรับเกษตรกร โดยเฉพาะกลุ่มสตรี อีกด้วย
โดยหนังสือเล่มนี้ จะจัดทำพิเศษขึ้นใหม่อีก 3 ชุด เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 แห่งราชอาณาจักรเลโซโท และสมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่ 3 แห่งราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ในลำดับต่อไป”
พระบารมีของรัชกาลที่เก้าของพวกเราช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน
เพิ่มเติมคลิปค่ะ