วันนี้ ( 6 มกราคม 2560 ) นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ ความคืบหน้าการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้จากฝนตกหนักว่า จากการประเมินสถานการณ์ล่าสุด มีโรงพยาบาลได้รับผลกระทบ จำนวน 3 แห่ง
ประกอบด้วย จ.นครศรีธรรมราช 2 แห่ง ได้แก่ รพ.ชะอวด อ.ชะอวด ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร, รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช น้ำท่วมบริเวณรอบนอกด้านหน้าโรงพยาบาล สูงประมาณ 1 เมตร การเดินทางเข้า-ออกยากลำบาก และที่ จ.ชุมพร 1 แห่ง ได้แก่ รพ.หลังสวน ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร การเดินทางยากลำบาก สามารถให้บริการได้เฉพาะตึกผู้ป่วยใน
ในการจัดระบบการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินในวันนี้ กรม สบส. ได้ดำเนินการ 4 เรื่องเร่งด่วน ได้แก่ 1) ระดมทีมวิศวกรฉุกเฉิน 9 ทีม จากทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ประกอบด้วย ทีมวิศวกรเครื่องมือแพทย์ สมทบกับทีมวิศวกรในพื้นที่เพื่อทำการดูแลฟื้นฟูเครื่องมือแพทย์ ระบบไฟฟ้า ระบบการสื่อสารให้พร้อมใช้งาน และทีมวิศวกรโยธา ดูแลในส่วนอาคารสถานที่ ระบบบำบัดน้ำเสีย ให้มีความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
2) จัดเตรียมระบบการสื่อสารสำรองในสถานพยาบาล 14 จังหวัดภาคใต้ ให้พร้อมใช้งานหากระบบการสื่อสารปกติไม่สามารถใช้การได้
3) จัดชุดปฐมพยาบาล จำนวน 300 ชุด ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรืออสม. ใช้ในการปฏิบัติงานดูแลผู้ประสบภัยที่เจ็บป่วย ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในบ้าน โดยในชุดปฐมพยาบาลประกอบด้วย ชุดทำแผล ยาแก้ปวดลดไข้ ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า ผงน้ำตาลเกลือแร่ เป็นต้น
และ 4) ระดมเรือท้องแบน/เรือไฟเบอร์ จากสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพ เขต 3 จ.นครสวรรค์ อีก 5 ลำ เพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานในพื้นที่น้ำท่วม
นายแพทย์ประภาส กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้กรม สบส.ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าของกรมฯ ที่สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 11 จ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดตาม ประเมินสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด รวมทั้งวางแผนดำเนินการฟื้นฟูสถานพยาบาลที่ถูกน้ำท่วม และเครื่องมือแพทย์ต่างๆ
พร้อมทั้งสนับสนุนการปฏิบัติงานของ อสม.ในการออกเยี่ยมบ้านผู้ประสบภัย เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคเรื้อรังทั้งทางกายและจิตไม่ให้ขาดยา ป้องกันอาการกำเริบ และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่มากับน้ำท่วม เช่น ไข้หวัดใหญ่, โรคอุจจาระร่วง, โรคตาแดง, โรคฉี่หนู เป็นต้น