ที่มา: vibhavadi.com

เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com

เส้นเลือดขอด เป็นปัญหาที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นกันเยอะนั้น เกิดจากความผิดปกติของเสนเลือดดําสวนตื้นใตผิวหนัง สวนใหญเกิดขึ้นบริเวณขา ความผิดปกติที่พบ คือ การโปงพอง ขยายตัว ยืดยาวออก และคดงอที่สามารถมองเห็นได โดยขึ้นอยูกับขนาดและความลึกของเสนเลือดที่ผิดปกติ เราจะมองเห็นเปนเสนเขียวปูดขึ้นและเห็นไดชัดเจนในขณะที่ยืน นับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าอายสำหรับผู้หญิงที่จะต้องใส่เสื้อผ้าที่โชว์ขา ก็อาจจะทำให้เกิดความไม่มั่นใจขึ้นมาได้

ส่วนสาเหตุของการเกิดเส้นเลือดขอดนั้น ยังไมทราบแน่ชัด แต่อาจมีสาเหตุที่เป็นไปได้ดังนี้ค่ะ

  • การได้รับฮอร์โมน 
  • กรรมพันธุ์
  • น้ำหนักตัวมาก
  • ลักษณะอาชีพที่ต้องยืนนานๆ
  • อายุที่มากขึ้น 
  • เกิดจากความดัน
  • ความผิดปกติของกล้ามเนื้อเรียบ และเซลล์เยื่อบุด้านในของผนังหลอดเลือดดําเส้นเลือดขอด อาจเกิดจากยีนหรือจากสิ่งที่ได้รับมาภายหลัง
  • การตั้งครรภ์
  • การออกกําลังกายที่เพิ่มความดันในช่องท้อง 

อาการที่พบบ่อย คือ อาการปวดขา รําคาญบริเวณเท้า เมื่อยล้าที่ขาง่าย ปวดตุบๆ ที่ขา เป็นตะคริว และบางคนอาจมีอาการแสบๆ คันบริเวณขาได้ อาการมักดีขึ้นถ้าได้ยกขาสูง ส่วนอาการแสดงอย่างอื่นที่อาจจะเจอ ได้แก่ อาการขาบวม ผิวหนังอักเสบ ใต้ผิวหนังมีอาการแข็งตึง มีเลือดออกเนื่องจากเส้นเลือดขอดแตก มีอาการปวดจากเส้นเลือดขอดที่อักเสบเป็นไตแข็ง ผิวหนังที่ขามีสีคล้ำ และการมีแผลเรื้อรังที่ข้อเท้า ซึ่งตําแหน่งที่พบบ่อยมักเป็นบริเวณด้านในของข้อเท้า

vrclinic.com

อยากรักษาเส้นเลือดขอดที่ขาให้หาย ทำอย่างไรได้บ้าง ?

  • Conservative Therapy
    เป็นการใช้ถุงน่องทางการแพทย์ หรือการพันผ้ายืด ซึ่งมีหลายขนาดและความยาว โดยชนิดที่เหมาะสมเป็นชนิดใส่ใต้เข่าที่ขนาดของความดันประมาณ 20-30 มิลลิเมตรปรอท วิธีนี้อาจมีประโยชน์ในภาวะหลอดเลือดขอดในระยะเริ่มต้นแต่ไม่สามารถป้องกันการเกิด หรือทําให้หลอดเลือดขอดหายไปได้
  • Sclerotherapy
    เป็นการฉีดยาเข้าเส้นเลือดขอด วิธีนี้จะเหมาะกับเส้นเลือดขอดที่มีขนาดเล็กกว่า 3 มิลลิเมตร ที่เป็นแขนงบริเวณผิวหนัง โดยที่ยังไม่ปรากฏความผิดปกติหรือใช้ในกรณีที่ทําการผ่าตัดรักษาเส้นเลือดขอดไปแล้ว แต่ยังมีเส้นเลือดขอดเล็กๆ หลงเหลืออยู่
  • Ambulatory Phlebectomy
    เป็นการผ่าตัดโดยผ่าเป็นรูตามแนวเส้นเลือดขอด เเล้วดึงเอาเส้นเลือดขอดออกมา
  • Ligation and Stripping
    การผ่าตัดชนิดนี้ ผู้ป่วยจะมีแผลให้เห็นได้หลังผ่าตัดบริเวณขาหนีบและใต้เข่า การผ่าตัดชนิดนี้ยังคงเป็นการรักษาแบบมาตรฐานในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดขอดอีกด้วย
  • External Beam Laser Therapy
    เป็นรักษาโดยการใช้แสงเลเซอร์จากภายนอกร่างกาย จะใช้กับเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กที่ไม่มีความผิดปกติ
  • Endovenous Laser Ablation
    เป็นการรักษาโดยใช้แสงเลเซอร์รักษาหลอดเลือดขอด โดยที่ไม่มีบาดแผลให้เห็นหลังการผ่าตัด อย่างไรก็ดี การผ่าตัดชนิดนี้ไม่สามารถใช้รักษาผู้ป่วยหลอดเลือดขอดที่มีขนาดใหญ่มากหรือคดเคี้ยวได้ รวมทั้งเครื่องมือที่ใช้ในการรักษายังคงมีราคาแพง
  • Endovenous Radiofrequency Ablation
    เป็นการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยคลื่นวิทยุ วิธีนี้ไม่จําเป็นต้องผ่าตัดเปิดแผล แต่จะใช้วิธีเจาะผ่านรูเข็มขนาดเล็ก แล้วใช้อิเล็กโทรดความร้อนเข้าไปทําให้เส้นเลือดขอดนั้นฝ่อลง การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุจะแปรพลังงานจากคลื่นความถี่วิทยุนั้นมาเป็นความร้อน โดยค่าความร้อนอยู่ที่ 120 องศาเซลเซียส โดยความร้อนระดับนี้ทําให้เส้นใยของคอลลาเจนที่เป็นโครงสร้างสําคัญของผนังหลอดเลือดดํานั้นฝ่อตัวลงไป จุดเด่นของวิธีนี้คือการรักษาจะใช้เวลาสั้น ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วใน 1-2 วัน หลังจากการรักษาเส้นเลือดขอดจะยุบลง 50% และอีกใน 6-8 สัปดาห์จะยุบตัวลงอีก 90-100% การใช้คลื่นความถี่วิทยุนั้นจะใช้หลักการนําพาความร้อนจากอิเล็กโทรดไปยังแผ่นกราวด์เพลน โดยมีเนื้อเยื้อเป็นตัวกลางระหว่างอิเล็กโทรดกับแผ่นกราวด์เพลนทําให้เกิดความร้อนในเนื้อเยื้อ
  •  EndovenOUS Microwave Ablation
    เป็นการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยคลื่นไมโครเวฟ ใช้การแผ่รังสีความร้อน โดยส่งคลื่นความถี่ย่านไมโครเวฟผ่านสายอากาศที่สอดอยู่ในเส้นเลือดขอด ทําให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากระจายไปยังเนื้อเยื่อส่วนนั้นๆ จึงเกิดการดูดซับพลังงาน ซึ่งทําให้เกิดความร้อนขึ้นในเนื้อเยื่ออย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่จะใช้คลื่นความถี่ 2.45 GHz ซึ่งเป็นย่านความถี่ที่ใช้ทางการแพทย์ แต่ปัจจุบัน การรักษาด้วยคลื่นไมโครเวฟยังไม่แพร่หลายมากนัก 

ใครที่กำลังประสบกับปัญหาเส้นเลือดขอดอยู่ ก็ลองปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้นะคะ จะได้ไม่ต้องกังวลเวลาที่จะต้องใส่ชุดสวยๆ สั้นๆ อีกต่อไปค่ะ

เรื่องน่าสนใจ